All reviewing comments
Search for comments
มาทานครั้งแรกค่ะ ได้สั่งเมนู "หมูชุปแป้งทอดราดชีส" ไม่ชอบเลยค่ะ เพราะหมูด้านในไม่ใช้เนื้อหมูล้วน แต่เป็นหมูติดมัน เวลาเคี้ยวมีน้ำมันจากหมูแตกออกมาด้วย ส่วนอาหารอื่นๆก็รสชาติธรรมดานะคะ
เต้าหู้ญี่ปุ่นทรงเครื่องต้องโดนให้ได้ครับ
ไม่เข้าใจ สาขาอื่นไม่เป็นนะแต่มาสาขานี้ทีไร หมดตลอดดๆๆๆๆๆ 4รอบละ จะสั่งยำแซลม่อน ก็โดนบอกว่า"แซลม่อนสดหมดค่ะ" คือหมดนานแล้วนะเดือนที่แล้วก็หมดเดือนนี้ก็หมด เอาออกจากเมนูเถอะ!!! คิดว่าคงต้อวเขียนไปหาสาขาใหญ่ที่ญี่ปุ่นแล้วละ
ชอบแซลมอนมากๆ ครับ คุ้มราคาสุดๆ แถมสดมาก O3O
ร้านปิ้งย่างแนวญี่ปุ่น ร้านสวยหรูเดินทางลำบากนิดนึงเนื่องจากไกลจากสถานีรถไฟ แต่ร้านคนไม่เยอะสามารถมาได้เลยไม่ต้องจอง
ร้านหาง่ายอยู่ด้านหลัง รร. sc park ราคามาตรฐานปิ้งย่าง บุฟเฟ่ต์ไม่อั้น รสชาดเนื้อรวมๆค่อนข้างดี น้ำจิ้มอร่อยมวาก
ร้านนี้เป็นร้านประจำตั้งแต่สมัยเด็กๆ ครับ มากินตั้งยี่สิบกว่าปี ก็ยังคงอยู่คู่ห้างโตคิว
สมัยเด็กๆ เป็นร้านที่รู้สึกว่าราคาสูงนิดหน่อย แต่รสชาติก็ดีมาก ยันมาทุกวันนี้ที่มีร้านญี่ปุ่นเปิดกันพรึบทั่วกรุง ผมก็ยังว่าร้านนี้เป็นร้านที่รสชาติดีอยู่ดี และราคาก็พอๆ กับร้านญี่ปุ่นทั่วๆ ไปเดี๋ยวนี้คับ
ถ้ามามาบุญครองและอยากกินอาหารญี่ปุ่นเมื่อไหร่ ร้านนี้จะเป็นตัวเลือกแรกของผมครับ
เค้าจะมีพวกอาหารเป็นเซ็ตผมว่าราคาก็โอนะครับ เริ่มที่ร้อยปลายๆ ไปยันสามสี่ร้อย
ของโปรดร้านนี้ ผมชอบยากิโซบะ อุด้งร้อน (ผมว่าซุปอุด้งกลมกล่อมมาก) ข้าวหน้าเทมปุระก็รสชาติดีมาก
ถ้าสมัยเด็กๆ ชอบสั่งชุดเด็ก เสียดายเดี๋ยวนี้เค้าไม่ให้สั่ง - -'
มีโอกาสไปไกลถึงคลองสี่ กับร้านอาหารที่พลาดไม่ได้ "ทะเลทิพ" ครับ
เป็นร้านอาหารทะเลที่มีเด็ดคือ เจ้าของร้านนี้ (คุณทิพ) เป็นดีลเลอร์ที่ส่งอาหารทะเลให้กับโรงแรมชื่อดังครับ ไหนๆก็ส่งแล้ว ทำเองด้วยเลยดีกว่า ดังนั้นคุณภาพของวัตถุดิบ บอกเลยว่าไม่ผิดหวังครับ
ตัวร้านเป็นบ้านเรือนไทยดัดแปลงครับ มีห้องแอร์ให้บริการ หรือท่านใดที่พาสัตว์เลี้ยงมาด้วย ทางร้านก็มีโซนเอ้าท์ดอร์สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะครับ
สำหรับเมนูแนะนำที่ห้ามพลาดสำหรับการมาทานที่รานทัเลทิพก็ได้แก่ "แกงส้มหน่อไม้ไข่ปลาริวกิว" โดยไข่ปลาริวกิวมาเป็นเม็ดใหญ่ๆนะครับ ไม่ได้มาแบบเป็นพวง แกงแบบโบราณโดยใช้น้ำส้มจี๊ดแทนน้ำมะขาม หน่อไม้ดองหั่นเป็นชิ้นบางๆทานง่าย รสชาติเปรี้ยวนำตามด้วยเผ็ดร้อน อร่อยมากๆครับ
หรือท่านไหนเป็นคอต้มยำ ก็ขอแนะนำต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน ที่ใช้น้ำมะพร้าวน้ำหอมพร้อมเนื้อมะพร้าวเป็นน้ำซุป ใส่กุ้งก้ามกรามไซส์ใหญ่แต่ผ่าครึ่งเพื่อความสะดวกในการรับประทาน และใส่เห็ดออรินจิแทนเห็ดฟางเพราะมีรสชาติเข้มข้นกว่า ขอบอกเลยว่าจานนี้รสชาติแปลกใหม่ครับ ซดน้ำต้มยำแล้วจะได้กลิ่นหอมของน้ำมะพร้าวด้วย
เมนูอื่นๆที่ควรแก่การสั่งก็มี "ส้มตำสาหร่ายพวงองุ่น" ที่นำสาหร่ายพวงองุ่นมาแช่น้ำจนกรุบกรอบ ทานคู่กับน้ำส้มตำรสแซ่บ หรือ ปลาแรดทอดน้ำปลา ที่ใช้ปลาแรดตัวขนาดหนึ่งกิโล ทอดจนเหลืองหอมด้วยน้ำมันที่เปลี่ยนใหม่ทุกวันครับ
และทางร้านทะเลทิพ จะไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นะครับ แต่ท่านสามารถนำมาเองได้ โดยทางร้านไม่คิดค่าเปิดขวดครับ
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่
http://goo.gl/Ws7ymd
ขอบคุณครับ
ไปลองร้านซีฟู้ดเปิดใหม่ โซนรังสิต-ธัญบุรีมาครับ ร้านทะเลทิพ คลอง 4 อาหารซีฟู้ดสดอร่อยๆ และรสชาติไม่ธรรมดาเลย พิกัดร้านอยู่ตรงรังสิต คลอง4 ก็คือพอผ่าน Dreamworld (คลอง3) ถัดไปอีก1กิโลก็จะเจอถนนคลอง4 (ที่ปากซอยคือร้านบ่อเงิน ขับตรงเข้าไปอีก 1 กิโลเลี้ยวขวาซอยริชแมนชั่น ได้เลยครับ ร้านนี้จะอยู่ตรงข้ามกับริชแมนชั่น)
[Decor]
ร้านนี้ดูจากภายนอกจะเหมือนบ้านทรงไทยหลังนึง แต่พอเข้าไปแล้วก็คือร้านอาหารที่มี 2 ชั้น โต๊ะ-เก้าอี้เป็นไม้สัก แต่มีความเก๋ที่ฐานของโต๊ะอาหารทำมาจากจักรเย็บผ้ารุ่นเก่า ซึ้งที่เห็นคือยังมียี่ห้อ Singer ติดอยู่เลย มีโคมไฟระย้าสวยงาม ตกแต่งอยู่หลายอันภายในร้าน เดินขึ้นไปดูชั้น 2 ก็มีโต๊ะอาหารอีกหลายโต๊ะ เป็นห้องแอร์เหมือนกัน แต่ก็มีโซน Outdoor ด้วย มองวิวภายนอกได้
วันที่ไปทานได้เจอกับทางเจ้าของร้านด้วย ชื่อพี่ทิพ พี่เขาแนะนำอาหารได้ดีและบอกรายละเอียดต่างๆได้เยอะมากๆ เขาบอกว่าก่อนเปิดร้านมีการทดลองทำอาหาร คิดสูตรอาหารมาก่อนเป็นปีๆกว่าจะลงตัวแต่ละเมนู และพี่เขาทำธุรกิจส่งอาหารทะเลให้กับห้องอาหารโรงแรมและร้านอาหารในกรุงเทพหลายๆที่ เลยมีจุดเด่นอีกอย่างนึง คือร้านนี้จะได้ปลา กุ้ง หอย และวัตถุดิบที่สดใหม่เสมอ และคัดไซต์ปลาขนาดที่ต้องการได้
[Food]
มาดูอาหารที่สั่งมาทานกัน
- แกงส้มไข่ปลาริวกิว 350 บาท
เมนูนี้ค่อนข้างหาทานได้ยากมากแล้ว ณ ตอนนี้ เพราะไข่ปลาริวกิวหาไม่ได้ง่ายๆเหมือนแต่ก่อน แต่ของร้านนี้คือมาแบบไซต์ใหญ่ทีเดียว มากันเป็นพวงๆเลย เป็นแกงส้มที่รสชาติเข้มข้น แต่ก็ไม่เผ็ดจนเกินไป ใส่หน่อไม้ดองมาเป็นตัวหลัก ทางร้านบอกใช้ส้มจี้ดที่คั้นเอาน้ำมาใส่แทนมะนาว ซึ้งให้รสชาติความเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์มากกว่ามะนาว
- ออส่วนนิ่ม 220 บาท
ของที่ร้านนี้ใช้ทั้งหอยนางรมและหอยเชลล์มาฟิวชั่นรวมกันในออส่วนนิ่ม เพราะจะช่วยลดคลอเรสตอรอลลงด้วยสำหรับคนที่กังวัลเรื่องนี้ มีความนุ่มและนิ่มละมุนลิ้นมากๆ จานนี้เสิร์ฟมาบนชามทองเหลืองดูดีมากๆ (แต่ก็หนักพอสมควรเลย) พร้อมน้ำจิ้มเป็นซอสพริกศรีราชาและจิ๊กโฉ่
- ปลาแรดทอดน้ำปลา 280 บาท
ปลาที่นี้จะคัดไซต์มาให้ขนาดเท่าๆกัน 1 กิโล (มากินกี่ครั้งก็จะได้ปลาที่คัดไซต์มาแล้ว ไม่ต้องกังวัลว่าจะเจอปลาตัวใหญ่บ้างเล็กบ้าง เหมือนบางร้าน) ทอดบนกระทะทองเหลือง แล้วราดซอสน้ำปลา (ตัวซอสน้ำปลาก็มีสูตรเฉพาะของทางร้าน ออกรสเค็มๆหวานๆ อร่อยไม่เหมือนใคร)
- ต้มยำกุ้งก้ามกรามมะพร้าวอ่อน 290 บาท
ร้านนี้ทำต้มยำที่มีสูตรไม่เหมือนใครดีครับ คือเขาจะใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน และใช้น้ำมะพร้าวน้ำหอมมาเป็นส่วนหนึ่งของน้ำซุปด้วย ทำให้รสชาติของน้ำต้มยำไม่เผ็ดแรงจนเกินไป มีความหอมและหวานของน้ำมะพร้าวร่วมอยู่ด้วย ส่วนกุ้งจะใช้กุ้งก้ามกรามไซต์กลางๆ ผ่าครึ่งใส่มา ทำให้เวลาทานก็สะดวกดี แกะกุ้งง่าย
-ส้มตำสาหร่ายพวงองุ่น 180 บาท
เป็นเมนูฟิวชั่นแปลกใหม่ ที่เพิ่งเคยลองทานแล้วชอบมาก ก็คือเป็นส้มตำไทย มาฟิวชั่่นกันกับสาหร่ายพวงองุ่น เวลาทานคู่กันจะได้สัมผัสกรุบกรอบของตัวสาหร่ายและพอได้น้ำส้มตำผสมเข้าไป ก็เลยกลายเป็นส้มตำไทยที่อร่อยขึ้นมากเลย (ปกติเคยทานแต่สาหร่ายพวงองุ่นเปล่าๆ พี่สาวเคยซื้อมาให้ลองกัน รสมันออกเค็มๆปะแล่มๆ กินแล้วไม่ค่อยชอบเท่าไร) พอมาฟิวชั่นกันกับส้มตำแล้วมันเข้ากันมากๆเลยนะ จานนี้ต้องมาโดนกันครับ
- ข้าวผัดปู (ไซต์กลาง) 150 บาท
ข้าวเม็ดร่วนดีอร่อยมาก สั่งไซต์กลางมาแต่เสิร์ฟมาจานใหญ่มากเยอะมากเลย ตอนแรกนึกว่าสั่งผิดเป้นไซต์ใหญ่ แต่จานไซต์นี้ในราคา 150 บาทนี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆ และจุดเด่นคือที่ร้านบอกว่าปูที่เอามาใส่ในข้าวผัดจะเป็นปูที่นึ่งและแกะเองจากสดๆ ทำให้ได้เนื้อปูเน้นๆ (สมัยนี้มันมีปูก้อนขายเป็นถุงๆ ร้านที่มักง่ายเน้นสะดวกหน่อย ก็มักจะไปซื้อปูก้อนที่แกะไว้แล้วขายตามตลาดสด มาใส่ในข้าวผัดกัน)
[Dessert]
- เฉาก๊วย 40 บาท
เฉากีวยที่นี้เป็นรูปทรงหกเหลี่ยม ตัวเฉาก๊วยมีความหนึบหนับกำลังดี สีออกน้ำตาลเข้มๆ แต่ไม่ดำเหมือนร้านทั่วๆไป
-สาคูแคนตาลูป 40 บาท
แคนตาลูปที่ตักมาเป็นทรงกลมพร้อมสาคูต้มจนได้ความนุ่มกำลังดี รสชาติกลางๆครับ
ทางร้านแจ้งว่าอาหารทั้งหมดจะไม่ใส่ผงชูรสเลย และเชฟมีหลายคน แต่ละคนมีหน้าที่ทำอาหารเฉพาะส่วนๆไป พอได้ฟังสตอรี่และที่มาของอาหารแต่ละอย่างจากร้านจากปากเจ้าของ (พี่ทิพ) แล้วก็อึ้งกันมากเพราะไม่เคยได้ยินร้านไหนใส่ใจในทุกกระบวนการ ก่อนจะเปิดร้านขนาดนี้ ตอนมาทานพี่เขาบอกว่าร้านเปิดได้ประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้เอง แต่ก่อนเปิดมีการเทรนพนักงานล่วงหน้าเป็นเดือนๆ เทรนเชฟก่อนเปิดร้านล่วงหน้า 2-3 เดือน สุดยอดมากๆ
ทางร้านทะเลทิพ ไม่เน้นขายสุรา เหล้า ไวน์ นะครับ (เขาบอกไม่ค่อยสนับสนุนให้คนกินสุรากัน) แค่มีเบียร์ขายนิดหน่อย แต่ถ้าลูกค้าจะหิ้วสุรามาทานกันที่ร้านก็ได้ ไม่คิดค่าเปิดขวดใดๆ
ก่อนกลับเห็นมีรูปภาพวาดการ์ตูนผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมิน ของคุณชัย ราชวัตร ติดอยู่ที่ฝาผนังของร้านด้วย เขียนรูปเป็นผู้ใหญ่มากับไอ้จ่อยยืนคู่กันพร้อมยกนิ้วโป้งเหมือนคนกดไลท์ โดยมีคำบรรยายว่า "ไม่เคยมาทะเลทิพ อย่าคุยว่ารู้จักร้านอร่อย" ถามไปถามมาถึงทราบว่าคุณชัย ราชวัตร มาตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟใกล้ๆนี้แล้วแวะมาทานอาหารที่ร้าน ด้วยความที่ชอบมากเลยวาดรูปการ์ตูนการันตีความอร่อยให้กับทางร้านไว้ด้วย
ใครอ่านรีวิวนี้จบแล้ว ผมว่าหลายๆคนต้องสนใจอยากมาลองแน่ๆ ร้านทะเลทิพ คลอง4 เปิดทุกวันตั้งแต่ตอนเที่ยง - 4ทุ่มครับ มาลองทานสักครั้งแบบผมแล้วอาจจะติดใจเหมือนผมก็ได้
โกง point true black card ตัดแต้มเบิ้ล 2 ครั้งและไม่ได้ให้ใบเสร็จเป็นหลักฐาน เหมือนโกงเครื่องดื่มลูกค้าไป 2 แก้ว จนลูกค้าจะทราบเมื่อเอะใจเข้าระบบเพื่อเช็คแต้ม
พอดีว่าหนูต้องทำโปรเจคอยากจะถามว่าเมนูของร้านมีอะไรบ้างหรอค่ะ
ร้านนี้เห็นเค้าโปรโมตมานานว่า เป็นหมูทอดที่นุ่มระดับใช้ตะเกียบตัดได้
พอมีโอกาสแวะมาแถวนี้บวกกับเป็นช่วงต้นเดือน เลยขอจัดทีครับ (เพราะได้ยินมาว่าแพงมาก)
พอมาเห็นเมนูก็.... แพงจริงๆ ครับ - -"
ซาโบเตนที่ว่าแพงแล้ว ยังถูกกว่าเจ้านี้เป็นร้อยเลย
ดูๆ เมนูเลยตัดสินใจจัดเซ็ตใหญ่ไปเลย เซ็ตไมเซนพรีเมียมมิกซ์ครับ
จะมีหมูสันในชิ้นนึง ไก่ชิ้นนึง แล้วก็กุ้งชิ้นนึง ราคาอยู่ที่ 415 บาท มีข้าว ซุป กะหล่ำ เติมได้ และมีของหวานเป็นคัสตาร์ดหรือไอติม (มีบวก vat เพิ่มอีก 10% - -")
ร้านนี้จะมีซอสเยอะมากครับวางบนโต๊ะให้เลือก แต่จะไม่มีงามาให้บดเองแบบร้านหมูทอดอื่นๆ
ซอสจะมีสองแบบ ทั้งน้ำสลัด ทั้งซอสทงคัตสึ ซึ่งผมว่าซอสมันจะหวานๆ อร่อยดีครับ
ส่วนของของทอด มันก็นุ่มเทพจริงๆครับ ใช้ตะเกียบตัดได้ เค้าเลยเล่นไม่หั่นมาให้เลย - -"
ถึงมันจะนุ่ม แต่มันก็ไม่ได้นุ่มระดับที่ตะเกียบจิ้มแล้วขาดเป็นเต้าหู้ทันที แต่ต้องมานั่งใช้ตะเกียบจิ้มๆๆๆ เพื่อตัดนิดนึง ทำให้แป้งขนมปังมันร่วงระนาวเต็มไปหมด - -"
แต่ผิวสัมผัสของเนื้อนุ่มจริงอะไรจริง หยั่งกะกินหมูสับเลยครับ
ส่วนเรื่องบริการ ผมว่าไม่ค่อยดีเลยครับ เรียกเช็คบิล เรียกสั่งอาหาร ดูมั่วๆ มึนๆ
เห็นพนักงานหลายๆ คนก็ยืนเฉยๆ ในขณะที่อีกหลายคนก็ยุ่งวิ่งไปมาทำทุกอย่าง และบริการช้ามากกก (อาจจะเป็นเพราะช่วงคนเยอะด้วย) คิดเงิน เงินทอนก็รอเป็นสิบนาที ทั้งๆ ที่จ่ายเงินแล้วพนักงานคนเดิมน่าจะรอเอาเงินทอนมาให้ แต่นี่ เอาเงินไปวางที่แคชเชียร์เสร็จ ก็เดินไปเช็ดโต๊ะต่อ - -"
ผมว่า เนื้อหมูเทพกว่าซาโบเตน ส่วนกะหล่ำ ซาโบเตนซอยดีกว่าหน่อย
แต่ราคาที่เพิ่มเข้ามาเป็นร้อย (หมดไป 475 ครับ หลังจากบวก vat แล้ว) บวกกับบริการที่ไม่ค่อยดี และน้ำก็ไม่รวม ผมว่าไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ครับ
แต่ถ้านานๆ ทีมาลองก็โอนะ
มาเจอร้านนี้พอดีมาทำธุระที่ตึก United นี้
ผมว่าเมนูมันออกแนวๆ OOtoya ดีครับ แต่ราคาถูกกว่า และการตกแต่งข้างในก็ออกแนวมืดๆ ญี่ปุ่น modern ดูสวยดี
สั่งทานแค่เมนูเทมปุระเซ็ต ที่เค้าว่าเป็นอาหารพิเศษประจำเดือน ก็เลยไม่รู้ว่าอย่างอื่นเป็นยังไง แต่เทมปุระผมว่ารสชาติใช้ได้ทีเดียว น้ำจิ้มอร่อยเข้มข้นดี ไม่จืดจางแบบบางที่ แต่พอราคาออกมา 300 นิดๆ (หลังบวก service) ก็แอบเหวอเหมือนกัน ทีแรกเห็นว่ามันแค่ 230 นิ ที่ไหนได้ นั่นราคา ala carte ราคาเซ็ต 290 - -""
คิดว่าวันหลังจะกลับมาลองเมนูอื่นดูครับ ราคาเฉลี่ยก็ประมาณ 230-260 สำหรับเซ็ตนะผมว่า
ร้านนี้เป็นร้านที่ติดอันดับ top 10 ภัตตาคารที่ดีที่สุดในโลกของนิตยสาร newyork times
เลยมาลองกับที่บ้านคับ
รวมๆ รสชาติดีมากๆ จุดเด่นของรสชาติที่นี่ ไม่ใช่แบบจัดจ้าน แต่เป็นความพิถีพิัถันของการปรุงคับ
การจัดวางอย่างตั้งใจ การใช้วัตถุดิบดีๆ
ซึ่งถ้าคนที่กะมาทานรสชาิติจัดจ้าน หรือคนที่ชอบบแนวอาหารจีนเหลาอลังการแนวกวางตุ้ง (หูฉลาม หมูหัน ปลาเก๋า) อาจจะไม่ประทับใจเท่าไหร่ เพราะอาหารที่นี่เน้นแนวเรียบง่าย แต่ทำได้เต็มที่คับ
อย่าง เสียวหลงเป่า ที่เป็นเมนู signature ของที่นี่ จะเห็นได้ว่า ถึงจะพึ่งนึ่งมาสดๆ แต่เวลากัดแล้ว ถ้าเป็นที่อื่น จะมีน้ำซุปร้อนๆ ทะลักออกมาลวกปาก - -'
แต่ที่นี่ อุณหภูมิของน้ำซุปที่ทะลักออกมาจะแค่อุ่นๆ กำลังดี ทำให้ได้รสชาติน้ำซุปแบบไม่ต้องทนทรมานคับ - -'
หรืออย่างไก่แช่เหล้าที่ถ้าไปทานร้านทั่วไป ก็จะเสิร์ฟมาเป็นตัว หรือเนื้อที่สับๆ วางๆ มา
แต่ที่นี่พิถีพิถันมาก ทำการตัดทีละชิ้น จัดวางแบบพอดีคำ ประมาณว่าทานได้ทันทีไม่ต้องเลอะเทอะคับ
ข้อเสียเดียวเห็นจะเป็นเรื่องราคานี่ล่ะ แพงไปหน่อยคับ ยิ่งเทียบกับอาหารเรียบง่ายที่ไม่เน้นโปรตีนมาก บางคนอาจจะไม่ประทับใจก็ได้คับ
แต่ถ้าอยากทานอาหารจีนแบบ home cuisine ที่มีความพิถีพิถันในการทำทุกขั้นตอน ก็ที่นี่เลยคับ
ชอบร้านนี้ที่สุดเลยค่ะ อาหารอร่อย ไม่แพง เร็วด้วยค่ะ
เคยไปทานตะลิงปลิงที่สาขาเซ็นทรัลพระราม 3 ผมว่าไม่ค่อยอร่อยอะคับ
พอดีมีโอกาสได้มาทานที่นี่กับแขกต่างชาติ ผมว่ารสชาติดีเลยทีเดียว บรรยากาศร้านก็ดีมาก อารมณ์เป็นแนวๆ สปาโรงแรมหรูๆ เสียแต่ร้านเล็กไปหน่อย แต่ก็อบอุ่นดีคับ
เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากหาร้านอาหารไทยบรรยากาศดีๆ ทาน หรืออยากพาแขกต่างชาติมาทานคับ
พูดถึงสาหร่ายเถ้าแก่น้อย คงไม่มีใครไม่รู้จักใช่ไหมครับ
และตอนนี้คุณต็อบ วันรุ่นพันล้านได้มีโปรเจ็คใหม่นั่นคือ...
ป๊อปคอร์นนั่นเอง ใช่ชื่อว่า "Tob Corn" ป๊อปคอร์นระดับพรีเมียม
ไม่เหมือนป๊อปคอร์นทั่วไปตรงที่ ป๊อปคอร์นยี่ห้ออื่นๆ
จะใช้เมล็ดข้าวโพดที่แตกออกมาเป็นทรงบัตเตอร์ฟลาย
แต่ Tob Corn เมล็ดข้าวโพดจะออกมาเป็นทรงกลมรูปร่างคล้ายเห็ดครับ
ซึ่งเมล็ดข้าวโพดนี้ต้องนำเข้าจากอเมริกาทุกเม็ดเลยทีเดียวและรูปร่าง
ทรงกลมแบบนี้ จะซึมซับรสชาติของเครื่องปรุงได้มากกว่า
ยิ่งได้มาผสมรวมกันวัตถุดิบชั้นเลิศคัดสรรอย่างดีด้วยแล้ว
ป๊อปคอร์นที่ได้มาก็จะกรอบหอมอร่อย รูปร่างสมบูรณ์ทุกเมล็ดครับ
ต้องขอบอกว่าวัตถุดิบเขาคัดมาดีจริงๆ เช่น เครื่องปรุงอย่างชีส
ก็เป็นเชดด้าชีสนำเข้าจากต่างประเทศครับ
Tob Corn ตอนนี้มีทั้งหมด 6 รสชาติด้วยกัน
รส Paris Caramel เนยนำเข้าจากฝรั่งเศส หวานกำลังดี หอมมากๆครับ
แนะนำว่าซื้อกลับบ้านแล้วแช่ตู้เย็นก่อนแล้วมาทานจะอร่อยขึ้นด้วยครับ
รส Nori Teriyaki เป็นสูตรคิดค้นเองเป็นเจ้าแรกเลย หอมกลิ่นสาหร่าย
และซอสเทอริยากิแบบญี่ปุ่น เข้มข้นมากๆครับ ต้องลองเลย
รส Caramel Macadamia ป็อปคอร์นคาราเมลอย่างดี มีแมคคาดาเมียแ
ทบทุกซอกของตัวป็อบคอร์นสะใจเลยครับ
รส Crispy Coconut ป็อปคอร์นคี้ยวมันเพราะแอบมีมะพร้าวฝอยแทรกตัว
รสชาติออกแนวไทยๆเราหน่อยครับแปลกดี
รส Caramel Almond เม็ดอัลมอนด์สะใจแน่นอนครับใครชอบอัลมอนต์
นี่เลือกได้เลยไม่ต้องคิดครับ
รส Strawberry แปลกดีครับรสนี้ออกแนว Candyๆ หวานก็กำลังดี
ไม่หวานแสบจนเกินไป เคลือบเต็มๆทุกเม็ดไม่เหมือนเจ้าอื่นด้วยครับ
และมีให้เลือกสามขนาดคือ S, M และ L ครับ เทียบกับราคาแล้วอาจจะแพง
แต่ถ้าได้ลองเห็นกรรมวิถีการผลิต และได้ลองลิ้มชิมรสชาติแล้วล่ะก็
ราคานี้คุ้มค่าจริงๆครับ สำหรับท่านที่อยากลอง สามารถหาซื้อได้ที่
เถ้าแก่น้อยแลนด์ ชั้น LGTerminal 21 ครับ
ไปทานมาแล้วอร่อยมาก ทุกครั้งที่ไปแถวเอกมัยต้องแวะทาไดมะตลอด :)