All reviewing comments
Search for comments
ปลากระพงทอดน้ำปลา อร่อยเ็ดมากๆ ไม่เหมือนร้านอื่นค่ะ ปลาก็สด น้ำราดเหนียวเกาะติดเนื้อปลา หวานๆ เค็มๆ เนื้อปลาหวานมาก อร่อยมากๆๆๆๆ ชอบค่ะ
ได้เจอกับร้านอาหารสุดชิคย่านเลียบทางด่วนเอกมัยรามอิทรา ร้าน Mint Cafe by Peppermint Field ครับ
มาถึงแล้วตกใจเลย พื้นที่กว้างมากๆครับ นอกจากส่วนของร้านอาหารแล้ว ยังมีส่วนของ Peppermint Bike Park สำหรับคนรักการปั่นจักรยานอีกด้วย แอบไปสำรวจมาแล้ว ขอบอกว่ายอดเยี่ยมจริงๆครับ พื้นที่กว้างขวาง ปั่นได้สบาย มีห้องน้ำบริการพร้อม และมีจักรยานให้เช่าด้วยนะครับ
ส่วนเรื่องอาหารที่นี่ก็ไม่ธรรมดาเลยครับ เป็นลูกผสมระหว่างอาหารไทยกับอาหารอิตาเลี่ยน เช่น ขาหมูเยอรมัน อาหารยอดฮิต ที่ร้าน Mint Cafe ใช้วิธีทอดแบบไร้น้ำมัน ดังนั้นคุณสาวๆสบายใจได้ครับ ขาหมูจานนี้หนังกรอบ เนื้อนุ่มแน่น มันบดและซาวเคร้าก็เยี่ยมยอดครับ หรือจะเป็นจานเบสิคอย่าง สปาเกตตี้CEO ที่ร้านนี้ก็ปรุงแบบไม่ธรรมดา โดยนำมะกอกดำ พริก กระเทียม อิตาเลียนเบซิลมาโกรวมกันเพื่อทำเป็นซอส ดังนั้นสปาเกตตี้จานนี้รสชาติจะเข้มข้น หอมกลิ่นเครื่องเทศครับ
เมนูไทยๆก็มีนะครับ แนะนำเลยกับ เนื้อย่างจิ้มแจ่วข้าวเหนียว ที่ใช้เนื้อนำเข้าจากออสเตรเลีย ย่างแบบมีเดียมเพื่อความฉ่ำน้ำเนื้อ (ชอบความสุกระดับไหนสั่งได้ตามใจนะครับ) ทานกับข้าวเหนียวนึ่งสูตรเด็ดที่ต่อให้ทิ้งไว้นานแล้วก็ยังนุ่มอยู่ และน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บ เด็ดเลยครับอาหารร้านนี้
ใครอยู่แถวนั้นหรือจะตั้งใจไปเลยก็ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่
> http://goo.gl/8rzX8Z <
หวัดดีคับ วันนี้จะมารีวิวร้านอาหารแหล่งชิลล์เอาท์ใหม่ สุดฮิป เปิดใหม่ในย่านเกษตรนวมินทร์กัน ร้านที่ว่าคือ "Mint Cafe by Peppermintfield" ร้านมินท์คาเฟ่ต์ นี้ตั้งอยู่ในซอยโยธินพัฒนา3 (ซอยเดียวกับร้านบ้านก้ามปู)
[พิกัดที่ตั้งของร้านมินท์คาเฟ่ต์]
จากถนนประดิษฐ์มนูธรรม(ถนนเลียบด่วนเอกมัย ) ก่อนจะถึง CDC ประมาณสัก300เมตร ให้เลี้ยวซ้ายเข้ามาในซอยโยธินพัฒนา3 เมื่อเจอปั้มบางจากเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง แล้วก็ขับตรงมาประมาณอีกสัก 500 เมตรจะเจอ Mint Cafe อยู่ด้านซ้ายมือ
เดิมพื้นที่ของร้านนี้ ด้านในคือสนามปั่นจักรยาน Peppermint Bike Park เป็นสนามให้เช่าพื้นที่สำหรับคนรักการปั่นจักรยานโดยเฉพาะ โดยเป็นเจ้าของเดียวกันกับ ยาดม Peppermint Field และยาหม่องเซียงเพียง นั้นเอง ตัวสนามปั่นจักรยานน่าจะเปิดมาได้ปีกว่าๆแล้ว
แต่ตอนนี้ด้านหน้า ได้เพิ่มตึกใหม่ขึ้นมา เป็นอาคารขนาดใหญ่พอควรความสูง 2 ชั้น ออกสีรมควันเข้มๆ ตกแต่งออกแนวยุโรป ดูสวยๆเก๋ๆไม่เบา เดินสำรวจรอบนอกร้าน มีโซนที่นั่งด้านข้าง เป็นโต๊ะเก้าอี้หวายพลาสติกสีน้ำตาลเข้ม เหมือนอยู่ในสวนขนาดย่อมๆ ถ้ามาช่วงเย็นๆแดดร่มลมโชย มุมตรงนี้น่าจะชิลล์ดี
ส่วนอีกโซนด้านหน้าร้าน มีโต๊ะเก้าอี้หวายเทียมสีขาวๆ ตั้งอยู่อีกหลายตัว ก็เหมาะสำหรับมานั่งทานข้าว จิบกาแฟ ชิลล์เย็นๆเช่นกัน ลองเข้าไปดูบรรยากาศภายในร้านกันต่อ ด้านในเป็นห้องแอร์ มีโต๊ะอาหาร วางเรียงรายอยู่เยอะเหมือนกัน บรรยากาศร้านออกสไตล์ Loft ดูเก๋ๆ ชิคๆ ออกสีแนวเอิร์ทโทน โดยมีจักรยานหลายคัน แขวนห้อยไว้อยู่รอบร้าน แต่ละคันดู Limited Edition มากๆท่าทางเจ้าของร้านจะรักจักรยานมากจริงๆ ถ้าให้เดาราคาแต่ละคันนี้น่าจะหลายหมื่นถึงเหยียบแสนขึ้นไปแน่ๆ พอดีผมไม่ใช่สายปั่นจักรยานซะเท่าไร เลยไม่ค่อยรู้ดีเทลตรงนี้มากนัก
การตกแต่งภายใน โดยรวมดูดีมากๆ เหมาะสำหรับการมานั่งชิลล์ๆจิบกาแฟ ทำงานเพลินๆ หรือมาสังสรรค์ทานข้าวกับเพื่อนพ้องก็น่าจะเหมาะมาก ลองแอบขึ้นไปดูที่ชั้น 2 เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ น่าจะเอาไว้สำหรับจัดงานเลี้ยง งานปาร์ตี้ อะไรได้ด้วย พื้นที่เยอะมากทีเดียว
มาเข้าเรื่องอาหารกันเลยดีกว่า วันนี้ชาวแก็งค์มากัน 3 คน อยากจัดอาหารอร่อยๆฟินๆเต็มเหนี่ยว เลยสั่งเมนูแนะนำไปหลายอย่าง
-ปลาหมึกทอด Fried Calamari [185 บาท]
จานแรกเรียกน้ำย่อยกันด้วยหมึกชุปแป้งทอด เป็นหมึกกล้วยชุปแป้งทอด ออกสีเหลืองอ่อนๆแล้วโรยด้วยผง สโมคปาปริก้า เสิร์ฟพร้อมกับดิปปิ้งทาร์ทาซอส
-ขาหมูเยอรมันทอด Pork Knuckle [385 บาท]
เป็นจานแนะนำของร้านมิ้นท์คาเฟ่ เลยต้องลองซะหน่อย ขาหมูเสิร์ฟมาจานใหญ่พอควรเลย หั่นมาให้เป็นชิ้นๆแล้วด้วย ไม่ต้องเหนื่อยแรง
1จานคือ1ขาเต็มๆเลย ได้รสสัมผัสที่ดีทีเดียว ตัวหนังกรอบเคี้ยวได้ง่ายๆ ตัวเนื้อด้านในนุ่มแน่นไม่เหนียวเลยคับ ขาหมูทอดของร้านนี้ เสิร์ฟมาพร้อมด้วยซาวเคร้า2สีมีกระหล่ำขาว+กระหล่ำม่วงดองจนได้รสเปรี้ยวกำลังดี น้ำจิ้มซีฟู้ดใส่ใบมิ้นต์ปั่นลงไปด้วย และอีกถ้วยเป็นแมสโปเตโต้
-หอยเชลซอสบัลซามิค Scallop Balsamic sauce [395 บาท]
หอยเชลล์นำเข้าตัวใหญ่ทีเดียว กริลล์จนสุกแล้ว เสิร์ฟมาบนซัลซ่าที่ปรุงผสมด้วยผักหลายอย่างพริกหวาน หอม มะเขือเทศ อะโวคาโด เม็ดสน เสิร์ฟพร้อมผักใบมีทั้ง ใบร็อกเก็ต กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เรดดิชิโอ ราดด้วยบัลซามิค
-เนื้อย่างจิ้มแจ่ว-ข้าวเหนียว Grilled Sirloin Chili dipped [385 บาท]
เป็นสเต็กเนื้อย่างสไตล์ไทยๆ แต่อร่อยเทพมากๆ โดยร้านใช้เนื้อออสเตรเลียส่วนสะโพกบน(แลมป์) ย่างให้สุกระดับมีเดียม สีเนื้อด้านในออกสีชมพูๆเรืองๆอยู่เลย ดูน่าทานมั๊กๆ ข้าวเหนียวนี้ก็นำพันธุ์มาจากเชียงรายเพื่อมานึ่งเสิร์ฟในร้าน นุ่มอร่อยจริงๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว รสชาติแบบสุดๆไปเลย
- เบอร์เกอร์เนื้อ Charcoal Beef Burger [255 บาท]
เป็นเบอร์เกอร์ชาร์โคลสุดฮิต ข้างในเป็นเนื้อบดจากส่วนสะโพกโคขุน หมักด้วยโรสแมรี่ หอมใหญ่ พริกไทยนำไปย่างจนสุกหอม ใส่เชดด้าชีส พร้อมซอสมัสตาร์ดการ์ลิค ในเซ็ทจะเสิร์ฟพร้อมกับ Wedge Fried โรยผงปาปริก้านิดนึงอร่อยดี และซอสทาร์ทาร์ ไว้จิ้มกินเพลินๆ
- พาสต้า CEO (Pasta CEO -Aglio Olio) [255 บาท]
พาสต้าซีอีโอ จานนี้เขาบอกว่ามาจากเจ้าของร้านชอบทานสปาเก็ตตี้มากๆ จึงคิดสูตรส่วนผสมเมนูนี้ขึ้นมา เส้นสปาเก็ตตี้ต้มแบบ Al dente คือข้างนอกเหนียวนุ่ม พอกัดเข้าไปด้านในยังได้ความกรึบๆของเส้นอยู่ ซึ้งต้องใช้ประสบการณ์ของคนต้มเส้นให้ได้ระยะเวลาที่เหมาะสม
ส่วนประกอบในจานที่เห็นจะมีกุ้งกะหมึกเป็นหลัก แต่เด่นที่เครื่องปรุง มีทั้งมะกอกดำ พริก กระเทียม เบซิล โขกรวมกันจนได้ซอสที่มีความเข้มข้นและอร่อยลงตัว เผ็ดติดปลายลิ้น
-ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สูตรคุณแม่ (Mom's Kua gai noodle) [95 บาท]
เป็นเมนูทานง่ายๆอีกจานของร้าน เส้นใหญ่เหนียวหนับกำลังดี ใส่ไก่ชิ้นใหญ่ พร้อมผักกาดหอม ทางร้านบอกเมนูผัดๆของร้านนี้ทั้งหมดจะใช้น้ำมันคาโนล่าออยท์ เพื่อสุขภาพอีกด้วย
[Dessert]
-กล้วยหอมทอด (Goldenbrown fried banana) [85 บาท]
กล้วยหอมสุกกำลังดี ชุปแป้งทอด แล้วราดน้ำผึ้งหอมหวานกำลังดี โรยด้วยไอซิ่งอีกนิด และมีเกล็ดน้ำตาลรสใบเตย(สีเขียวอ่อนๆ) โรยมาด้วย ให้รสสัมผัสกรุบๆเวลาเคี้ยว ตัวแป้งที่ชุปค่อนข้างเบา กินแล้วรู้สึกได้ว่าเขาชุปมาไม่หนาจนเกินไป
-Mint Cafe Triple Sorbet with Waffle [135 บาท]
ขนมหวานซิกเนอเจอร์ของทางร้าน เพื่อให้เข้ากับร้านมินต์คาเฟ่ต์ ของหวานจานนี้คือมีกิมมิคอยู่ที่ไอศกรีมโฮมเมดที่ใส่ส่วนผสมของใบมิ้นท์ลงไปด้วย
เป็นไอศกรีม 3 ลูกที่ทางร้านทำขึ้นเอง เป็นโฮมเมดไอศกรีม รสเชอร์เบททั้ง 3 ลูก ได้แก่เลมอนฮันนี่ สตรอเบอร์รี่ และเสาวรส ผสมมิ้นต์ลงไป ทางร้านบอกเราว่าทำไอศกรีมขึ้นมาเองเลยไม่ได้ใส่สารให้ความคงตัว เลยเห็นว่ามันจะค่อนข้างหลอมเร็วมาก (ซึ้งปกติโรงงานทำไอศกรีมจะใส่สารให้ความคงตัว เป็นFood Additiveอย่างนึงที่ใช้ในเชิงอุตสาหกรรม เพื่อให้เวลาตักไอติมมาเป็นลูกๆแล้ว มันยังคงสถานะอยู่ได้นาน..เอ่อ...จบฟู้ดซายน์มาก็งี้ รู้อะไรมาก็อยากบอก^^)
โดยมีวัฟเฟิลเป็นฐานอยู่ด้านล่าง วางไอติมเชอร์เบททั้ง3ลูกโป๊ะข้างบนพร้อมลูกสตรอเบอร์รี่และบลูเบอร์รี่ โรยไอซิ่งนิดนึง เมนูนี้สาวๆมาต้องกรี๊ดแน่นอน
-Affogato 135 บาท
กาแฟเอสเพรสโซช็อต พร้อมไอติมวนิลลา *เมนูนี้ถ้าตัวเอสเพรสโซช็อต คัดเลือกเมล็ดที่คุณภาพดีมาทำ เมื่อเทราดลงบนไอติมวนิลลา มันจะได้รสชาติที่อร่อยลงตัวจริงๆ ซึ้งที่ร้านนี้ทำให้เราได้อร่อยไม่ผิดหวัง ลืมถามไปว่าเป็นกาแฟคั่วบดของแบรนด์อะไร มาจากไหน?
คร่าวหลังลองแวะมาสั่งกาแฟร้อนทานอีกดีกว่า เพราะดูแล้วใช้กาแฟดีจริงๆ
[Drinks]
เครื่องดื่มของที่ร้านมิ้นท์คาเฟ่ต์ ไฮไลน์จะอยู่ที่การคิดใส่ส่วนผสมใบมิ้นท์ลงไปในหลายๆเมนูของร้าน เราเลยสั่งเมนูซิกเนเจอร์ของร้านมาลองกันหลายแก้วเลย
1. Mint Fizz มินท์ฟิซ เสาวรสปั่น [75 บาท]
เป็นเครื่องดื่มเสาวรสปั่นมีส่วนผสมของใบมิ้นท์ ทุกแก้วในตระกูล Mint Fizzจะใส่ใบมิ้นต์ เพื่อให้คงคอนเซ็ปของร้าน รสออกเปรี้ยวๆหวานๆ ดื่มแล้วสดชื่นดี เสิร์ฟมาในแก้วมัค ท็อปปิ้งด้านบนด้วยลูกเสาวรสสดพร้อมใบมิ้นต์ดูกิ๊บเก๋ดี
2. มะนาวโมฮิโต้ Lime Mint-cooler Mojito [85 บาท]
มีน้ำตาลทรายแดงเป็นฐานด้านล่าง คั่นมะนาวใส่ผสมโซดาและใบมิ้นต์ แก้วนี้เปรี้ยวๆซ่าๆ สดชื่นมากทีเดียว กว่าจะได้ถ่ายทิ้งไว้นานไปนิด เลยเริ่มนอนก้นนิดหน่อย
3.Mint Fizz มินท์ฟิซ ลิ้นจี่ปั่น [75 บาท]
เป็นอีกแก้วในตระกูลMint Fizz ประกอบด้วยโซดา+มะนาว+ลูกลิ้นจี่ปั่นรวมกัน ท็อปด้านบนด้วยลิ้นจี่อีก1ลูก
4.Mixology Green Apple (Perrier) [170 บาท]
อีกเครื่องดื่มรสชาติแตกต่าง โดยการผสมSparkling Mineral water ของ Perrier กับน้ำหวานรสผลไม้+ใส่เนื้อผลไม้ลงไปด้วย แก้วนี้เป็นแอปเปิ้ลเขียว ให้รสเปรี้ยวซ่า สดชื่น (แต่ราคาแอบสูงไปนิด ก็เปอริเอ้นิเนอะ)
ตัวเลขราคาอาหารของร้านนี้รวมแวตไปแล้วนะคับ แต่ว่ายังไม่รวม +10% Service Charge
เนื้อคล้ายกับที่ใช้ในHamburgerแต่แน่นกว่า ทำให้มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และยังมีกลิ่นหอมจากความสดของผักกาดแก้วที่แอบใส่ปนมา แต่กลับทำให้กลิ่นสัมผัสของเมนูนี้ลงตัวและสมบูรณ์ ไม่สามารถหาได้จากเมนูน้ำตกทั่วไป
ในด้านของรสชาติค่อนข้างเข้มข้น แต่ติดหวานไปนิดนึง ส่วนความเปรี้ยว เค็ม และเผ็ด ออกมาค่อนข้างดี
ถ้าจะให้แนะนำ ควรลดหวานและเพิ่มเค็มขึ้นอีกเล็กน้อย
โดยรวมของเมนูนี้ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะกลิ่นหอมของเนื้อแฮมเบอเกอร์และความหอมของผักกาดแก้ว ซึ่งไม่สามารถหาในเมนูน้ำตกที่ไหนได้
ราคาลงตัวที่ 59 B ถือว่าคุ้มค่าพอควร
เดินผ่านกี่ทีก็ไม่เห็นมีคนกินเลยอ่ะ ดูน่ากลัว และ คงจะแพง ใครไปกินคงต้องวัดดวงนิดนึงว่าจะอร่อยป่าว
ร้านอุด้งเปิดใหม่บนชั้น 4 Big C ราชดำริห์ มาพร้อมกับใบปลิวแถม เทมปุระ 1 ชิ้นเมื่อซื้ออุด้ง 1 ชาม
ใบปลิวมีกุ้งเทมปุระ ชิกุวะเทมปุระ ฟักทองเทมปุระ และ ผักเทมปุระ
แน่นอนผมเลือกกุ้งอยู่แล้ว...
และเพิ่มไก่ทอด 29 บาทอีกอันนึง ขนาดใหญ่กว่าไปซื้อกินที่ KFC สองเท่าได้
อุด้งนั้นเลือกเป็นแบบน้ำซุปใสแบบเค็ม (เรียกว่าอะไรไม่รู้จำไม่ได้ คาเกะๆ สักอย่างนี่แหละ)
และ สั่งข้าวปั้นเมนไทโกะอีกอัน
รสชาดเส้นอุด้งเทพมาก เส้นสดดูดน้ำซอสเต็มที่ กินกับเทมปุระอร่อยดี
(ร้านนี้เติมหอมซอย และ เศษเทมปุระได้ไม่อั้นครับ)
ส่วนตัวคิดว่าเทมปุระกุ้ง 39 บาทแพงเกินไป เพราะว่ากุ้งตัวไม่ใหญ่มาก แต่วันนี้ได้ฟรี ส่วนไก่ทอดนั้นคุ้มจริงๆ แนะนำให้สั่งครับ
ข้าวปั้นเมนไทโกะโอนิกิริ มาแบบร้อนๆเพิ่งทำเลย อร่อยดีครับ ดีกว่าที่ขายตามซุปเปอร์เพราะว่ามันร้อนนี้แหละ และ ที่สำคัญ โชยุที่ร้านนี้ใช้เป็นแบบของดีครับ จิ้มปุ๊ปรู้เลยว่าดีกว่าคิกโคแมนบ้านเราหลายเท่าตัว และ วาซาบิร้านนี้เป็นแบบสดครับ กินนิดเดียวจี๊ดขึ้นสมองมึนไป ห้าวิเลยครับน้ำตาร่วงทีเดียว
ร้านนี้เปิด 24 ชม. ผมว่าโอเคที่จะใช้เป็นที่ฝากท้องยามดึกได้คับ เพราะว่าย่านสยาม แค่ 3 ทุ่มก็ปิดกันหมดแล้ว (ถ้าเป็นพวกห้าง สี่ทุ่มก็ปิดกันหมด) ราคาก็โอเคสำหรับย่านสยามเลยคับ หกเจ็ดสิบต่อถึงร้อยนิดๆ ต่อจาน ส่วนรสชาติ ผมว่าพวกอาหารแนะนำในเมนูก็รสชาติใช้ได้ทีเดียวคับ พวกข้าวหมูแดงสไตล์ฮ่องกง ผัดซีอิ้วฮ่องกง (หรือที่เค้าเรียกว่า chow fun) ที่จะใส่ถั่วงอกแทนคะน้า ผมว่ารสชาติก็ใช้ได้เลย
ร้าน Love Eat Bistro เป็นร้านอาหารปักษ์ใต้แท้ๆสูตรบ้านพังงา จากสำรับกับข้าวของคุณเพลิน บุญสูง ที่เป็นคุณแม่ของเจ้าของร้าน ดังนั้นแต่ละเมนูจะมีรสชาติจัดจ้านตามสไตล์อาหารใต้ และวัตถุดิบแต่ละอย่างก็คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันเพื่อนำมาปรุงอาหารครับ
ขอเริ่มที่เมนูสำคัญที่ขาดไม่ได้เมื่อมาทานอาหารปักษ์ใต้ครับ "แกงปูสูตรบ้านพังงา กับกะทิคั้นสดและเครื่องแกงสูตรลับ เสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่" 495 บาทครับ แกงปูรสชาติเข้มข้นมาก เนื้อปูก็ให้มาก้อนใหญ่ๆ ตักน้ำแกงราดลงบนเส้นหมี่แล้วทานพร้อมๆกัน อร่อยจริงๆครับ ถ้าเผ็ดเกินไป ก็มีสับปะรดเสิร์ฟมาคู่กันให้ทานแก้เผ็ดครับ
และยังมีอีกหลายเมนูที่ห้ามพลาด "คั่วกลิ้งคอหมูกับผักแนม" ราคา 255 บาท หรือถ้าไม่ทานหมูก็สั่งเป็นคั่วกลิ้งไก่ได้นะครับ รสชาติจัดจ้านตามแบบคั่วกลิ้งใต้ขนานแท้ "แกงเขียวหวานเนื้อตุ๋น" 285บาท อร่อยมากครับ ประทับใจ เนื้อตุ๋นชิ้นใหญ่แต่นุ่มไม่มีกลิ่นคาว น้ำแกงก็หอมมากๆ ซึ่งนอกจากพริกแกงเขียวหวานตามปกติแล้วก็ยังมีเพิ่มเติมเครื่องเทศสูตรพิเศษลงไปด้วยครับ "ผัดสามเหม็น" ราคา 295 บาทครับ สามเหม็นที่ว่าคือ สะตอ ชะอม และกระเทียมโทนดองครับ ผัดให้เข้ากันกับวุ้นเส้น ช่วยเบรคความเผ็ดของอาหารจานอื่นๆได้ดีเลยครับ
เมนูของหวานก็อร่อยน่าประทับใจไม่แพ้อาหารคาวครับ "กล้วยเชื่อมไอศกรีมมะพร้าวเผา คาราเมลน้ำตาลโตนด" ราคา 185 บาทครับ ไอศกรีมมะพร้าวเผาสูตรพิเศษที่ทางร้านทำขึ้นเอง ราดด้วยคาราเมลที่ทำจากน้ำตาลโตนดสด เสิร์ฟพร้อมกับกล้วยเชื่อม "ลาวาใบเตย" ราคา 215 บาท เค้กลาวาเนื้อนุ่มๆ ทำจากน้ำใบเตยคั้นสด ด้านในเป็นครีมลาวาใบเตยหอมๆ เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลาครับ
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่
https://goo.gl/PpYwUg
ขอบคุณครับ
ร้านนี้เคยเป็นส่วนนึงของร้านขายโคมไฟข้างๆ ค่ะ เค้าแบ่งเนื้อที่มาทำร้านกาแฟ อยู่ชั้นสอง แต่งบรรยากาศได้น่ารักมากเลย >.< สาวๆ น่าจะชอบนะคะ ออกแนวโทนอบอุ่น มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่มองออกไปข้างนอกได้สบายๆ มีเด็กมศว.มานั่งติวกันเยอะเหมือนกันเลยค่ะ
ส่วนราคากาแฟก็โอเคนะคะ กาแฟอเมริกาโน่ก็ประมาณ 75 กาแฟเค้ามีกลิ่นหอมๆ อะไรซักอย่างด้วยค่ะ รสชาติก็โอเคเลย และก็เห็นมีขายอาหารญี่ปุ่นด้วย พวกข้าวแกงกะหรี่อะไรแบบนี้อะค่ะ แต่ไม่ได้ลองค่ะ
ทีชอบอีกอย่างก็คือ ปิดดึกด้วยค่ะ 3 ทุ่ม เพราะว่าร้านกาแฟในซอยอโศกนี่ส่วนมากปิดเร็วกันนะคะ ไม่เกินทุ่มก็ปิดกันหมดแล้ว เผื่อจะมานั่งคุยงานกันดึก หรือนั่งชิลรอรถหายติดก่อนกลับบ้านก็ดีเหมือนกันค่ะ
ขอติอย่างนึงนะคะ เห็นมีที่เสียบปลั๊กไฟ แต่เสียบแล้วไม่มีไฟอะคะ แบตโน้ตบุคจะหมดอะคะ >.<
ปล.ขำตรงที่บอกว่าแบตจะหมดนี่แหละคับ 555
ดู link ข้างล่างนะ
http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2008/12/D7285940/D7285940.html
วันนี้มาทานร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โฮมเมด "คิวทาโร่" ย่านลาดพร้าววังหินครับ จากแยกโลตัสวังหิน เลี้ยวซ้ายเข้ามาในซอยโชคชัย4 เพียง 100 เมตรก็จะเจอกับร้าน "Kyutaro" แล้วครับ
เนื่องจากว่า ร้านคิวทาโร่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบโฮมเมด อาหารทำสดใหม่ทุกจาน ก็ต้องรออาหารกันนิดนึงนะครับ แต่ไม่นานจนรอไม่ไหวแน่นอน ระหว่างที่รอ ทางร้านจะเสิร์ฟออเดิร์ฟสำหรับทานเล่น ซึ่งออเดิร์ฟนี้ก็จะเปลี่ยนเมนูไปเรื่อยๆนะครับ สำหรับวันนี้เป็น "ผักกวางตุ้งคลุกน้ำมันงา" หอมอร่อยครับ
สำหรับเมนูแนะนำก็ได้แก่ "สลัดปูนิ่ม" ที่ช่วงนี้มีโปรโมชั่น จากจานละ 359 บาท เหลือเพียง 199 บาทเท่านั้น ซึ่งผักสดกรอบ ปูนิ่มชุบแป้งทอดให้มาหลายชิ้น น้ำสลัดซีซ่าร์สูตรพิเศษ คลุกให้เข้ากันแล้วทาน อร่อยมากครับ
"ข้าวหน้าเนื้อไข่ออนเซ็น" ราคา 165 บาท ที่ใช้เนื้อสามชั้นนำเข้าจากอเมริกา หมักกับเครื่องเทศแล้วผัดกับกระเทียมและซอสหวาน เสิร์ฟพร้อมไข่ออนเซ็น จานนี้คนรักเนื้อห้ามพลาดครับ
"ชาชูราเมง" ชามใหญ่ยักษ์แต่ราคาเพียง 145 บาทเท่านั้น ซึ่งหมูชาชูของที่นี่เด็ดมากๆ ใช้เวลาเคี่ยวในน้ำซอส 7 ชั่วโมง แล้วแช่ทิ้งไว้อีกหนึ่งวันเพื่อให้ซอสซึมเข้าเนื้อหมู โดยในราเมงหนึ่งชาม ให้หมูชาชูมาห้าชิ้นใหญ่ๆเลยครับ ส่วนน้ำซุปจะเป็นซุปมิโสะที่ทำจาหมิโสะ ปลาแห้ง และเห็ดหอม เข้ากันได้ดีกับเส้นราเมงเหนียวนุ่มและหมูชาชูรสเข้มข้นครับ
เมนูอื่นๆที่ไม่อยากให้พลาดก็จะมี "เทมปุระโรลมากิ" ที่นำกุ้งเทมปุระทั้งตัวมาโรลเป็นมากิซูชิ "ซาชิมิรวม" ที่ประกอบไปด้วย แซลมอนสด ปลาโอสด ปลาซาบะดอง ปูอัด และไข่หวาน ซึ่งปลาซาบะดองของร้านคิวทาโร่ทำได้ดีมากๆ ไม่มีกลิ่นคาวเลยแม้แต่นิดเดียว และ "กุ้งเทมปุระ" ที่ใช้กุ้งแชบ๊วยไซส์ใหญ่สุด มาคลุกด้วยแป้งทอดกรอบสูตรพิเศษที่ทางร้านคิดค้นขึ้นเอง ได้เปลือกนอกที่บางกรอบไม่เหมือนใคร ต้องมาลองครับ
วันนี้มาทำธุระย่านลาดพร้าววังหิน ใจอยากกินอาหารญี่ปุ่นแนวๆซาชิมิ โรลมากิ อะไรแบบนี้ เลยชวนน้องๆไปลองทานอาหารกันที่ร้าน "Kyutaro Japanese Restaurant" ร้านคิวทาโร่ ร้านญี่ปุ่นเล็กๆสไตล์โฮมเมด ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ Makro สาขาวังหิน
[พิกัด]
ร้านอยู่ในโซนลาดพร้าววังหิน จากแยกโลตัสวังหิน วิ่งตรงไปทางโชคชัย4 ประมาณ 100 เมตรนิดๆ เจอร้านลุงใหญ่(อาหารอีสาน) ถัดไปอีกห้องก็จะเจอร้าน Kyutaro ซึ้งมองไปตรงข้ามก็จะเจอแมคโครสาขาวังหินพอดี
คือร้านค่อนข้างเล็ก ประมาณ 1 ห้อง โต๊ะมี 5-6 โต๊ะเองในร้าน แต่ดูลิสต์เมนูอาหารและดูโปรโมชั่นของร้านแล้ว ทำให้อยากมาลองมากกว่า (โปรเยอะ ทั้งเช็คอิน ทั้งแอดไลน์ ได้น้ำฟรี ได้ยำสาหร่ายฟรี รออะไรละคับของฟรีชอบอยู่แล้ว อิอิ)
[Decor]
บรรยากาศในร้านเป็นห้องแอร์ ดูเรียบง่าย ภายในร้านตกแต่งแบบ Minimal มีตุ๊กตาตัวเล็กๆ พวกโดราเอมอนและผองเพื่อนอีกมากมายตั้งเรียงรายกันบนชั้นวางของ ผนังของร้าน
[Food & Beverage]
ร้านนี้มีอาหารญี่ปุ่นหลากหลายแนวให้บริการ ทั้งประเภทซูชิ ซาชิมิ ข้าวหน้าดงบุริ ราเม็ง อูด้ง เทมปุระ หรือพวกอาหารเซ็ท ปลาซาบะย่าง ปลาแซลมอน ปลาไหลย่าง เสิร์ฟแบบเป็นเซ็ทพร้อมข้าวและมิโซะซุปก็มี
พวกเบียร์ก็มีทั้งเบียร์ไทย เบียร์นอก เบียร์ญี่ปุ่น Kirin Asahi ก็มีขายด้วยเช่นกัน เมนูที่ได้ลองสั่งมาทานมีดังนี้
อ่อ..นิดนึงร้านนี้ลูกค้าทุกโต๊ะที่มาทาน จะมีออเดิร์ฟเสิร์ฟให้คนละถ้วยด้วยนะ แต่ละวันจะหมุนเวียนกันไป วันนี้ผมได้ "ผักกวางตุ้งคลุกน้ำมันงา" เอาไว้กินเป็นเครื่องเคียงได้เพลินๆ
- สลัดปูนิ่มทอด 359฿ ลดเหลือ 199 ฿
เห็นโปรนี้ที่ร้านก็เลยลองสั่งดูเพราะลดเยอะ เป็นสลัดผัก แล้วใส่ปูนิ่มทอด มาให้ หั่นเป็นชิ้นๆ ผักสลัดสดและกรอบดี มีท็อปปิ้งด้วยยำสาหร่ายวากาเมะ และไข่กุ้งด้านบน ราดน้ำสลัดครีม
- ข้าวหน้าเนื้อไข่ออนเซ็น 165฿
เสริ์ฟมาพร้อมซุปมิโซะ1ถ้วยและกิมจิอีก1ถ้วยเล็ก ถือว่าคุ้มค่ามากเช่นกัน เนื้อหั่นชิ้นหนา นำไปย่างไฟ แล้วราดซอส กลิ่นหอมมากทีเดียว ในชามมีเนื้อให้มา 4 ชิ้นเลยนะ ขนาดของชิ้นเนื้อถือว่าไม่เล็ก ถ้ามาทานมื้อเที่ยงคนเดียว เซ็ทนี้ก็คุ้มค่ามาก
- ชาชูราเม็ง 145฿
ขอชอบว่ากินราเม็งของร้านนี้แล้ว ปลื้มมาก.... น้ำซุปมิโสะ ข้นกำลังดี กินหมดชามนี้แทบซดน้ำเกลี้ยง ที่เซอร์ไพร์มากๆก็คือ หมูชาชู จ้าร้านนี้ใส่มา ตั้ง 5 ชิ้น ถึงขนาดจะดูไม่ใหญ่นัก แต่หั่นชิ้นหนา กัดแล้วฟินจริงๆนะ (ส่วนตัวชอบไปกินชาบูตงบ่อยๆ เราว่าราคาร้านชาบูตงยังแพงกว่าเลย แถมหมูชาชูก็ไม่หนาแบบนี้อีกด้วย) ชามนี้เอาไปเลย 5ดาว (ไม่ใช่ไก่ย่างน้าาา)
- เทมปุระโรลมากิ 250฿
เป็นโรลที่มีไส้ในเป็นกุ้งเทมปุระ และก็มีปูอัด แตงกวา ไข่หวาน ม้วนโรลเป็นมากิ แล้วคลุกด้านนอกด้วยไข่กุ้ง เสิร์ฟมา 1 ถาดขนาด 8 ชิ้น ถือว่าเป็นเมนูที่แนะนำน่ามาลอง
- ซาชิมิรวม 395 ฿
เซ็ทซาชิมิของร้านนี้เสิร์ฟมาบนโบล์สแตนเลสชามใหญ่ มี 5 อย่างด้วยกันได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาโอ(หรือปลาทูน่า) ปูอัด ปลาซาบาะดอง และ ไข่หวาน
แซลมอนและปลาโอ หั่นชิ้นใหญ่ ลายสวยงามตามท้องเรื่อง ส่วนปลาซาบะดอง ปกติไม่ค่อยชอบกิน เพราะเคยกินร้านอื่นๆแล้วมันออกคาวๆ แต่ของร้านนี้ทำมาดีมากคับ ไม่มีกลิ่นคาวปลาเหลืออยู่เลย ดูจากจำนวนชิ้นปลาและราคาที่ขาย ถือว่าคุ้มค่าอยู่นะ
- กุ้งเทมปุระ 120฿
ฟินต่อเนื่องจากเทมปุระโรลมากิ เลยสั่งเมนูนี้มาเพิ่ม ในจานมีกุ้งเทมปุระ 3 ตัวใหญ่ๆ ชุปแป้งเทมปุระ กรอบกำลังดี เสิร์ฟมาพร้อมกับ แครอท หัวหอม และใบโอบะชุปแป้งทอดเช่นกัน มีด้านหลังเป็นคล้ายๆบะหมี่เอามาทอดกรอบ จิ้มน้ำจิ้มกินอร่อยดีนะ ร้านนี้ชุปแป้งไม่หนามาก กัดไปนิดเดียวก็ถึงเนื้อกุ้งแล้ว (ไปกินบางร้านนี้ ชุปแป้งหน้าเป็นเซนติเมตรเลย)
ความดีงามของร้านนี้คือมีโปรเยอะ และสามารถใช้ร่วมกันได้อีกด้วย
เช่นถ้ามาทานตอน 15.30 - 20.00 น. จะได้ลดราคาอาหารไปอีก 20 % โฮโฮโฮ ดีจัง
แถมมีโปรถ่ายรูปเช็คอิน Facebook แล้วได้เครื่องดื่มฟรีอีกด้วย (น้ำชาเขียว , โค้ก หรือน้ำเปล่าก็ได้)
และยังมีโปรแอดเฟรนด์ Line@ ของร้าน ได้ฟรียำสาหร่ายวากาเมะอีกถ้วย
สรุปคือถ้าไปช่วงบ่าย3ครึ่ง - 2ทุ่ม แล้วกดเช็คอินและแอดไลน์ร้าน นี้คือได้ทั้งส่วนลด ได้ทั้งน้ำฟรี ได้ของทานเล่นอีก1ถ้วย คุ้มกว่านี้คงไม่มีอีกแล้วละ ....^^
ใครอยู่ย่านลาดพร้าว วังหิน โชคชัย4 น่าแวะไปลองมากครับ ร้านคิวทาโร่เปิดทุกวันนะ ตั้งแต่เที่ยงวัน-ยันเที่ยงคืน
วันก่อนไปทานกับที่บ้านค่ะ ไม่ได้มาทานคุโรดะนานมากแล้ว พอดีคุณแม่บ่นว่าอยากหาอะไรใหม่ๆทานบ้าง เลยลองแวะมาที่นี่ดูค่ะ เพราะเคยมาเมื่อหลายปีก่อน
บรรยากาศร้าน ค่อนข้างโทรมเลยนะคะ ^_^"" ทีแรกก็รู้สึกว่าแพงเหมือนกัน กับราคา 450net ต่อหัวแหนะ แถมไม่มีไอติมให้ด้วยค่ะ
แต่พออาหารมา รสชาติดีทีเดียวค่ะ อร่อยแทบจะทุกอย่างเลย ปลาดิบก็สดใช้ได้ พวกของทอดก็อรอ่ยเลย ไม่แย่เหมือนบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นหลายๆ ทีเลยนะคะที่เค้าคุมคุณภาพกันไม่ค่อยอยู่ ขนาดปลาไข่ย่างธรรมดา ยังประทับใจเลยค่ะ ย่างได้หอมมากๆ เลย
ถ้าอยากหาร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นอร่อยใช้ได้ทาน ก็ลองมาสาขานี้ดูนะคะ แต่บรรยากาศกับบริการไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอกค่ะ เน้นทานอย่างเดียว ^_^
เห็นว่ามีดีลกาแฟ 1 แถม 1 จาก facebook กินแชร์ เลยขอตามมารีวิวคับ
ชอบบรรยากาศร้านนี้มากๆ ดีไซน์เหมือนเป็นห้องรับแขกหรูๆ หลุดออกมาจากนิตยสารบ้านยังไงอย่างงั้นเลยคับ โซฟาหรูหรานุ่ม ร้านดูดีโทนสีออกเอิร์ธโทน สบายๆ แต่ก็มีมุมให้นั่งนอกร้านสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศแบบเอาท์ดอร์คับ
= กาแฟ =
สั่งกาแฟไปสองแก้วมาลอง คือ iced mocha กับ latte ราคาผมว่าค่อนข้างแพงมากเหมือนกันคับ คือ mocha แก้วเล็กสุดก็อยู่ที่ 110 บาทแล้ว - -' และรสชาติทั้งคู่ออกมาออกแนวหวานมากๆ เหมือนกันคับ
ยังดีที่ mocha ผมว่าหอมโกโก้ที่ใช้เหมือนกัน แต่ลาเต้นี่ออกแนวหวานอย่างเดียวไปหน่อยคับ
= บริการ =
ผมว่าพนักงานบริการธรรมดามากไปหน่อยครับ ยิ่งถ้าเทียบกับร้านระดับหรูแบบนี้แล้ว ถามว่ามีโปร 1 แถม 1 ก็เหมือนถามคำตอบคำ ถามว่ามีไวไฟไหมก็ตอบว่า มีค่ะ จบ แต่ไม่บอกรายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ ไม่ยิ้มไม่ทักทาย ในจุดนี้ยังสู้สตาร์บัคส์ไม่ได้พอควรคับ ทั้งๆ ที่ร้านหรูกว่าและราคาสูงกว่า
แถมเห็นร้านเค้ามีชั้นลอย เลยเดินขึ้นไปดู ตอนลงมา เห็นมีพนักงานมาแอบด้อมๆ มองๆ ดูด้วย เลยรู้สึกแปลกๆ เกินไป - -'
สรุปคือ เป็นร้านที่เหมาะกับมานั่งชิล นั่งนัดคุยกับเพื่อนหรือนัดเดท รวมถึงเหมาะมานั่งทำงานคับ เพราะมีปลั๊กไฟ มีเน็ท (แต่เป็นของ True ) คับ แต่มาบ่อยๆ อาจจะราคาสูงไปหน่อยคับ
โพสรูปต่อคับ