All reviewing comments
Search for comments
ชอบแซลมอนมากๆ ครับ คุ้มราคาสุดๆ แถมสดมาก O3O
อร่อยฟินๆกีบ ส้มตำสไตล์ลาวแท้ๆ ไม่ธรรมดากับ "เรื่องลาว"@CDC
มีโอกาสได้ไป CDC เลียบด่วนรามอินทราครับ ไปเจอกับร้านอาหารอีสาน "เรื่องลาว" ครับผม
ร้านเรื่องลาวเป็นร้านอาหารอีสานฟิวชั่น ที่เก๋ไก๋ทั้งสไตล์การตกแต่งร้านและเมนูอาหารอีสานที่ค่อนข้างแหวกแนวกว่าร้านอื่น
อย่างเช่น ตำหลวงพระบาง ที่มีมะละกอเส้นใหญ่ๆ กรุบกรอบ ตำมากับแคปหมูและหมูยอ สอบถามที่ร้านเลยทราบว่า มะละกอเส้นใหญ่ในส้มตำ เป็นที่นิยมในเมืองหลวงพระบางครับ
ส่วนมะละกอเส้นเล็กๆแบบที่คนไทยนิยมทานกันจะมาจากทางเวียงจันทน์ ดังนั้นจานนี้เลยเป็นตำหลวงพระบางแท้ๆ หอมอร่อยครับ
ส่วนที่ห้ามพลาดคือ คอหมูย่างกระทะร้อน ที่เป็นคอหมูชิ้นหนา หมักอย่างดี เสิร์ฟมาในกระทะร้อน ราดมาด้วยน้ำจิ้มแจ่ว ขอบอกว่าเขาหมักมาได้เข้าเนื้อจริงๆครับ
หรือถ้าชอบไก่ทอด ก็ต้องลอง ไก่ทอดเรื่องลาว ที่หนังกรุบกรอบ เพราะใช้วิธีการทอดแบบขาหมูเยอรมัน
อีกอย่างที่ห้ามพลาดคือ เกี๊ยวซ่าลาบหมู ที่นำลาบหมูปรุงรสจัดจ้านมาห่อด้วยแป้งเกี๊ยวซ่าแล้วทอดจนกรอบหอม เป็นอาหารฟิวชั่นที่สร้างสรรค์มากๆแถมยังอร่อยด้วยครับ
หรือถ้าชอบอาหารเพื่อสุขภาพต้องสั่ง แกงอ่อมปลาทับทิม นะครับ อร่อยไร้ไขมัน ใส่ผักเยอะมากๆ น้ำแกงกลมกล่อม หอมกลิ่นผักชีลาวครับ
ถ้าใครชอบอาหารอีสาน ที่มีทั้งอีสานพื้นบ้าน และอีสานฟิวชั่น อย่าลืมมาลองร้านเรื่องลาวนะครับ อร่อยติดใจแน่นอน
อ่านรีวิวเต็มๆของผมได้ที่blogครับ
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=akuchan&date=25-04-2015&group=1&gblog=36
ขอบคุณครับ
ตอนนี้น่าจะไปปิดไปแล้วครับ
มีโอกาสได้ไปแถวหลังรามครับ ผ่านซอยรามคําแหง 24 แยก 20 เยื้องๆฝั่งตรงข้ามราชมังคลากีฬาสถาน
จะมีหลายร้านเลยตรงนั้น ร้านเฝอทูยู จะอยู่ด้านในตรงลานจอดรถเลยครับ
ร้านบรรยากาศโอเคเลยครับแบ่งเป็นสองโซนไว้รองรับลูกค้าได้เพิ่มขึ้น น่าจะราวๆ 20-30โต๊ะได้เลย
ร้านนี้สั่งแบบใช้ใบติ๊กสั่งอาหารครับ ปกติร้านนี้จะเป้นแบบสั่งอลาคลาสเป็นจานๆ มีราคาบอกในใบนี้เลย...
แต่เพิ่งทราบว่าทางร้านเพิ่งเริ่มตัดสินใจทำ Buffet ไม่กี่วันนี้เองครับ จัดไปทันใด ตกท่านละ 269.-
ไม่รวมเครื่องดื่มและ ในใบไม่รวม กุ้งสด,หมึกสด,เบคอนรมควัน ครับ นอกนั้นสั่งได้เต็มที่ครับ
และนอกจากเนื้อต่างๆและเต้าหู้ชีสที่เด็ดร้านนี้จะมีเด่นตรงที่น้ำจิ้มครับ จะมีฮอยซินซอสและซอสพริกเวียดนาม มีสูตรปรุงแนะนำอยู่ครับขอทางร้านได้เลย
รายละเอียดรีวิวเต็มๆขอเชิญที่Blog
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=akuchan&date=03-03-2015&group=1&gblog=34
ครับผม ขอบคุณคร๊าบ
วันนี้ไปทานมาไม่ประทับใจเลยตั้งแต่รอพนักงานมารับออเดอร์นานมาก สั่งซุปมาทานช้อนสกปรกล้างไม่สะอาดมีคราบแข็งๆติดอยู่สั่งสลัดมาก็มีเส้นผมในจานรู้ก็ตอนทานอิ่มแล้วอีกทั้งบริเวณโต๊ะที่ทานก็มีแมลงวันด้วยอยากฝากให้ช่วยปรับปรุงด้วยค่ะเพราะคงเป็นครั้งสุดท้ายที่จะทาน
โกง point true black card ตัดแต้มเบิ้ล 2 ครั้งและไม่ได้ให้ใบเสร็จเป็นหลักฐาน เหมือนโกงเครื่องดื่มลูกค้าไป 2 แก้ว จนลูกค้าจะทราบเมื่อเอะใจเข้าระบบเพื่อเช็คแต้ม
มีโอกาสไปร้านTea room บรรยากาศดีดี โรแมนติกๆ ใจกลางเมืองมาครับ
กับร้านที่มีชื่อว่า " Chan & Yupa Tearoom " ร้านนี้เป็นร้านที่นำเอาบ้านไม้สักอย่างดี
โดยช่างที่มีชื่อเสียงสมัยเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่ราวปี พ.ศ. 2497 มาปรับปรุงให้เป็น
ร้านน้ำชา บรรยากาศดีๆ ใจกลางเมือง โดยชื่อร้านก็เป็นชื่อของคุณตาฉันท์และคุณยายยุพา
เพื่อเป็นเกียรติและต้องการให้ร้านนี้ดูสดใสมีชีวิตชีวาเหมือนตอนคุณตาและคุณยายยังอยู่ครับ
ฟังมารอบแรกแล้วซึ้งเลยทีเดียว TTwTT
สรุปแล้วฟินๆพอดีพุงกันไปครับ ร้านนี้ชอบมากครับ บรรยากาศก็ดีเวอร์ สงบ สวย
ตกแต่งได้เข้าท่าเข้าทีสุดๆ
อาหารก็ไม่ใช่เล่นๆครับโฮมเมดทุกระเบียบนิ้วละยังอร่อยอีก ราคาก็สมเหตุสมผล
บางอย่างถูกกว่าที่คิดด้วยซ้ำ เท่าที่นั่งๆไปหลายชั่วโมง เสพไปทั้งบรรยากาศและอาหารจัดจานสวยๆ
วัตถุดิบดีๆแล้วก็เห็นได้ว่าลูกค้าส่วนมาก จะเป็นต่างชาติกัน80%upเลยครับ
ที่ตั้งร้านก็ไม่ไกลมากครับอยู่ระหว่างหลาง BTSนานากับ BTSอโศกครับ
หลังสวนชูวิทย์ ซอยสุขุมวิท10เข้าไปนิดเดียวเจอเลย
ผมมีรีวิวเต็มๆไว้ที่
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=akuchan&month=27-12-2014&group=1&gblog=33
ครับถ้าสนใจลองเข้าไปอ่านดูได้ครับ
ได้มีโอกาสไปทานร้านอาหารป่าที่มีactibityทางน้ำเยอะๆอย่างร้าน Jinda Cabana มาครับ
เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมน้ำครับ บรรยากาศในร้านสบายๆ มีทั้งโซนที่นั่งด้านนอกรับลม
ชมบรรยากาศหรือถ้าชอบความเป็นส่วนตัว ก็มีห้องแอร์ครับ ร้องคาราโอเกะได้ด้วยนะ
ร้านจินดาคาบาน่ามีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างเลย นอกจากจะมากินอาหารอร่อยแล้ว
ยังมีเจ็ตสกี มีลูกบอลน้ำ แพยาง เรือคายัค ไว้สำหรับผู้ที่ชอบความตื่นเต้นและมีน้องแกะ
ที่ทำหน้าตาน่ารักรอคอยอาหารจากเรา สำหรับคุณสาวๆที่อาจจะไม่ชอบความแอดเวนเจอร์
ก็มาเล่นกับน้องแกะได้ครับ
บรรยากาศแบบนี้หายากครับครบเครื่องมากๆ อาหารก็ อร่อยไม่แพง ใครอยู่โซนนั้น หรือชอบทางนี้ต้องแวะไปให้ได้เลยครับ รับรองติดใจแน่ๆ การเดินทางนี่ถ้าไม่เคยแถวบางช้างมาก่อนอาจจะงงๆนิดนึงครับผม วิ่งตามพิกัดGPSเอาแอบเลยไปนิด55+
(13.707690, 100.205305)
แต่ไปทีเสพทั้งบรรยากาศ เพื่อนฝูง อาหารอร่อยถูกปาก ราคาไม่แพง ทุกอย่างครบๆนี่คุ้มค่าเลยครับ
เชิญรับชมรีวิว เต็มๆ ได้ที่
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=akuchan&date=08-12-2014&group=1&gblog=32
ขอบคุณครับ
วันนี้ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาทานอาหารป่าดูบ้างจ้า หลังจากกรำศึก (ทำงานเยี่ยงทาส) มาหลายเพ-ลา
ขับรถออกมาไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่ แค่สามพราน นครปฐมนี่เอง ก็ได้ทานอาหารป่ารสจัดจ้านแบบต้นตำรับแล้ว
ร้านจินดาคาบาน่าไม่ใช่ว่าเป็นแค่ร้านอาหารนะคะ แต่ยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจหรือทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวได้ด้วย
เพราะที่นี่มีทั้งเจ็ตสกี ลูกบอลน้ำ แพยาง ฯลฯ มีน้องแกะให้เราป้อนอาหาร หรือถ้าอยากพักผ่อน ก็มีเปล มีเตียงผ้าใบให้นอนชมบรรยากาศริมน้ำด้วยค่ะ
ส่วนเรื่องอาหารก็เด็ดๆทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเมนูเบสิคอย่างไข่ตุ๋นทรงเครื่อง ที่จัดมาเต็มทั้งไข่และเครื่อง รวมมาในหม้อ
หรือเมนูยอดฮิตของร้านอาหารป่าอย่าง แกงป่าไก่ หรือต้มยำปลาคังน้ำใส ที่นี่ก็รสชาติจัดจ้านจากเครื่องแกงที่โขลกเองตามสไตล์ไทยแท้ค่ะ
แต่เมนูที่ห้ามพลาดเลยคือ เมนูที่ทำจากกบค่ะ
เพราะร้านจินดาคาบาน่าใช้กบคัดไซส์พิเศษ ที่เรียกว่ากบภูเขา นำมาทำเป็นอาหารป่าหลากหลายรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็นแกงป่า ทอดกระเทียม หรือยำแบบไทยโบราณ ก็อร่อยและรสชาติดีทั้งนั้น กบก็ตัวใหญ่เบิ้ม รับรองว่าคนที่ชื่นชอบเมนูกบต้องไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ^^
คออาหารป่า หรือผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมเอดเวนเจอร์ หรือครอบครัวสุขสันต์ที่หาที่พักผ่อนพร้อมทานข้าวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ อย่าลืมนึกถึงร้านจินดาคาบาน่านะคะ
ร้านอาหารสไตล์ชิลล์ๆ ฟังเพลงแจ๊สสดๆ เปียโนเพราะๆ หรูๆ สบายๆ กลางเมือง
ร้าน SALABAR(ศาลาบาร์) ที่เพิ่งย้ายมาเปิดใหม่ที่ซอยสุขุมวิท 61 ครับ
ร้านนี้เน้นบริการไปถึงจะพบกับพนักงานต้อนรับอย่างดีมากมายมากจนแอบเกรงใจกันเลย
และเน้นทานอาหารอร่อยๆ จัดจานสวยงาม พร้อมฟังดนตรีสดเพราะๆ
ฟินครับร้านนี้ ได้ทานอาหารอร่อยๆ วัตถุดิบดีๆ ตกแต่งจานสวยๆ บรรยากาศดีๆ
ที่สำคัญคือเพลงเพราะๆสดๆครับเพื่อนพี่น้องคนไหนอยากสัมผัสความอิ่มกับประสาทสัมผัสทั้งห้า
และอยากพาครอบครัว คนที่รักมามากเลยครับร้านนี้รายละเอียดของร้านลองติดต่อสอบถาม
ทางเพจของร้านเอานะครับ
Reviewเต็มๆขอเชิญที่
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=akuchan&date=04-11-2014&group=1&gblog=31
ครับผม
หากมีดาวติดลบ
จะให้ลบจมดิน
เคยได้ยินชื่อเสียงร้านนี้จากเพื่อนว่ามีร้านสวยมากหยั่งกับร้านเค้กสวยๆ
แต่ขายอาหารไทยอีสานซะงั้นที่ธัญญะ...ตอนนี้ร้านนัวนัวนี้ย้ายมา
เปิดที่ Mega bangna แล้ว ได้ฤกษ์ไปจัดซะที...
ร้านนัวนัวตั้งอยู่ใกล้ๆ กับโซนIKEA ครับ...เดินมาโซนoutdoor นิดหน่อยเจอร้านละ
หน้าร้านครับ มีสวน สะพานเล็กๆน่ารัก และเก้าอี้สำหรับนั่ง outdoor ถ้าอยากชิลล์จัดเชิญได้ครับ
เข้าร้านไปก็โอว จัดตกแต่งเพ้นท์ห้องสี่เหลี่ยมไม่ใหญ่เท่าไหร่ รองรับได้8-9โต๊ะได้สวยงามมีสไตล์ดีครับ
ส่วนเรื่องอาหรที่ได้ลองสั่งไปก็มี...
-ลาบหมูคุโรบูตะ ราคา ๑๒๐ บาท ครับลาบหมูอีสานแท้แต่เพิ่มรสชาติจากหมูธรรมดาเป็นหมูคุโรบูตะ
ทางร้านรับมาเป็นชิ้นใหญ่แล้วนำมาสับเองด้วยมือเพื่อเพิ่มเท็กซเจอร์เวลาเคี้ยว ไม่มีมัน
ปรุงรสเปรี้ยวเค็มเผ็ดลงตัว หอมข้าวคั่วพริกคั่วที่เชฟคั่วเองใหม่ๆทุกวัน ทานคู่กับผักสดเพื่อสุขภาพ
-ส้มตำปลาแซลมอน จานนี้ราคา๒๐๐บาทครับ ส้มตำไทยรสชาติจัดจ้านแบบอีสานแท้ๆดูสะอาดน่าทาน
มากจานยังดีไซน์มาเอียงๆให้น้ำไหลมาได้ซดกันแซ่บๆอีกตังหาก มะละกอกรอบมากๆ ถั่วฝักยาว
มะเขือเทศก็สดใหม่ บนส้มตำวางมาด้วยทางร้านบอกว่าปลาแซลมอนสดส่งตรงจากนอร์เวย์
เนื้อนุ่มไม่มีกลิ่นคาว กินส้มตำแซ่บๆพร้อมกับปลาแซลมอนมันๆ ฟินนนนน
-ปีกไก่ทอดสมุนไพร ราคา ๑๒๐ บาท ปีกไก่หมักแบบเค็ม ทอดพร้อมกับสมุนไพรไทย ตะไคร้ ใบมะกรูด
หนังกรอบอร่อย เนื้อนุ่มร่อนออกจากกระดูก รสชาติเค็มนิดๆ ทานกับข้าวเหนียวอร่อยมากๆ
-ไข่เจียวนัวนัว ราคา ๘๐ บาทครับ ไข่เจียวสูตรคุณแม่ของทางร้าน ทอดมาได้น่าหม่ำมากข้างในฟูนุ่ม
กัดแล้วได้รสชาติน้ำซุปหอมๆ ข้างนอกเหลืองทองหอมกลิ่นไข่ ทานเปล่าๆก็อร่อย ทานกับซอสพริก
ก็เข้ากันดี ตัวไข่เจียวมาเป็นก้อนกลมๆเลย ถามเชฟแล้วเชฟบอกว่าใช้กระทะทอดไม่ได้ใช่หม้อ
สอบถามวิธีทำมาเลยทราบว่าไม่ได้ใช้เครื่องตีไข่แต่ตีด้วยมือ สุดยอดจริงๆ
-ผัดหมี่โคราช ราคา ๗๐ บาท ผัดหมี่แบบดั้งเดิมของไทย ร้านนัวนัวใช้เส้นจันทน์แท้ๆผัดกับน้ำซอสสำหรับ
ผัดหมี่โคราช ที่เป็นสูตรลับของเชฟเอง รสชาติออกเผ็ดนิดๆจากพริกแห้งป่น (ซึ่งเชฟบอกว่าเป็นหนึ่งใน
ส่วนผสมของน้ำปรุงหมี่โคราช) ใส่กุยช่ายและถั่วงอก ซึ่งถั่วงอกนี้ก็จัดการเด็ดหัวเด็ดรากทิ้งออกจนหมด
เหลือแต่ต้นถั่วงอกขาวๆ (เชฟที่ร้านนัวนัวทำงานละเอียดจริงๆ) รสชาติผัดหมี่เข้มข้นกลมกล่อม
ติดใจเลยจานนี้อยากเบิ้ลมากๆแต่สั่งอาหารมาเยอะแล้ว แน่นพุงกันถ้วนหน้า
ส่วนพวกเครื่องดื่มจัดพวกน้ำตะไคร้ น้ำมะตูมมาแก้วละ ๖๐ บาท ไม่ถูกเท่าไหร่แต่ก็หอมอร่อยฟินอยู่ครับ
สรุปก็ฟินๆพุงตึงๆกันไปทั้งกรุ๊ป เพื่อนพี่น้องคนไหนอยู่โซนนั้นหรือไปเมกะบางนา IKEA แล้วอยากลอง
อาหารอีสานพรีเมียมๆสะอาดๆ อร่อยๆ ก็ลองไปดูกันได้นะครับ
ได้มีโอกาสแวะไปซอยทองหล่อ 10 อีกครั้ง คราวนี้ได้แวะร้าน เคบับสไตล์เยอรมัน-ตุรกีแท้ๆ
ร้านอยู่ทางเข้าลานจอดรถของตึก The OPUS ซึ่งถ้าเข้ามาจากปากซอยทองหล่อ10
ก็ไม่ถึง100เมตรซ้ายมือเลยครับ จะเห็นเป็นบาร์เล็กๆน่ารักๆสีแดงเด่น เลยครับ
หน้าเคาท์เตอร์ร้านมี ใบorderให้ติ๊กสั่งตามความต้องการได้เลยครับ
มีโต๊ะกลมถ้าช่วงเย็นๆคงนั่งชิลล์ๆได้อยู่ และฝั่งตรงข้ามก็มีที่นั่งรับรองเพิ่มอีก 3 โต๊ะครับ
ที่ลองได้ทานกับชาวแก๊งเป็น set combos ...
'Greek Salad' + 'Apple Tea' = 139 บาท คุ้เมค่ามากครับ ตัวกรีกสลัด
ผมว่าไม่แพงเลยสำหรับร้านในย่านนี้แถมมีชุดCombosรวมกับเครื่องดื่มก็แค่ 139 บาทเท่านั้น
คุ้มค่ามากๆเสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดสำหรับกรีกสลัดจานนี้เป็นกรีกบัลซามิกที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอก
ดีต่อสุขภาพมากส่วนประกอบในจานนี้ได้แก่ ไก่เคบับนุ่มหอมอร่อย สไตล์ตุรกีแท้ๆ
เป็นเนื้อไก่หมักเครื่องเทศย่าง เฟต้าชีส ผักสลัดก็มี มะกอกดำ มะเขือเทศราชินี หอมใหญ่
และผักสลัดโรเมน(ผักกาดคอส)ทานคู่กับน้ำสลัดแล้วเข้ากันมากๆครับ
ผักสดกรอบ เนื้อไก่หอมนุ่ม ชีสเฟต้าเข้มข้น เข้ากันดีทุกอย่างมากๆ ชอบเลยครับ
ชาแอปเปิ้ลรสชาติก็อืมม์กำลังดีไม่ปรุงรสให้หวานจัดอะไรเท่าไหร่คงเน้นสุขภาพจริงๆ
'The Romano Doner Kebab' + 'Lemon Tea' = 129 บาท
ปกติเปิดห่อถือทานงับๆได้เลยครับแต่นี่รีวิวดูไส้ในกันหน่อย... มีแต่ของดีๆทั้งนั้นเลย
เคบับไก่ ใส่ผักย่างต่างๆมะกอกดำ ชีสมอซซ่าเรล่า(หอมแน่นเยอะมากๆ) ซอสโพโมโดโร
สไตล์อิตาเลียน ครับ อร่อยติดใจ ห่อเดียวไม่พอ 55+
ส่วนชาดำตุรกีกลิ่นเลม่อนครับ ราคาเท่ากันลักษณะคล้ายๆชามะนาวบ้านเรา
แต่ชาหรือกาแฟสไตล์ตุรกีหรือแถบอาหรับเนี่ย ค่อนข้างจะเข้มและมีกลิ่นเฉพาะตัวครับ
ผมว่าพอเอามาผสมให้มีรสเปรี้ยวนิดๆแล้วกินกับอาหารของเค้าอร่อยมากครับ
และ'Best Dressed Fries' ราคา 129 บาท ถ่ายมาเหมือนไม่ใหญ่แต่ถ้วนเบิ้มลึกพอสมควรครับ
คลุกดูข้างล่างจะเป็นเฟรนฟรายด์ ที่มาพร้อมเนื้อไก่เคบับ สลัดผักออกานิค เฟต้าชีส มะกอกดำ
พริกหวานหั่นมะเขือเทศ คลุกกับซอสGarlic Aioli...รสชาติดีมากๆ
ชามนี้คือถ้าไม่กินจุเกินไปนี่อิ่มท้องสบายๆครับ อร่อยมากๆ
และยังฟินอิ่มอร่อยเลยสั่งกลับบ้านให้ที่บ้านได้ลองทานด้วย
เป็น 'Chicken Kebab Rice' + 'Mint Ayran(Salty)' = 139 บาทครับ
เป็นข้าวไก่เคบับ สไตล์ฝรั่งเศส มีข้าว saffron (สีเหลืองๆคล้ายข้าวอินเดีย)
พร้อมไก่เคบับ อโวคาโด้หั่นเต๋า(ชอบมาก) ผักสลัดออกานิคอีกนิดหน่อยพร้อมซอสGarlic Aioli
Mint Ayran สีน่าทานม๊ากกกก แต่รสชาตินี่คงไม่ถูกปากคนไทยอย่างผมครับ
แต่พี่ชอบ อยากรู้ต้องลองครับศึกษาสักนิดก่อนสั่งด้วยครับแก้วนี้555+ แต่ก็ดีต่อสุขภาพขิงๆแก้วนี้
สรุปแล้วก็ฟินๆกันไปอย่างไม่น่าเชื่อกับการได้ลองทานเคบับสไตล์แท้ๆ แถมยังเพื่อสุขภาพอีกตังหาก
แป้งเคบับบางกำลังดีหรอบหอมอร่อยมากๆ ซื้อฝากที่บ้านกว่าจะถึงไม่กรอบแล้วยังชมกันว่าอร่อย
นี่ถ้าอยู่ใกล้บ้านนี่คงได้เลิกสั่งพิซซ่าแน่ๆเลย เพื่อนพี่น้องถ้าแวะผ่านไปหรืออยู่แถวนั้นต้องลองครับ
เห้นว่าทางร้านมีdeliveryส่งแถวๆนั้นด้วยบริการได้ถึงแถวTerminal21 BTSอโศกเลยมั้งรู้สึก
ถ้ายังไงลองติดต่อสอบถามทางเพจของร้าน...ดูเพิ่มเติมนะครับ
ลิ้มลองหลากหลายเมนูไข่ๆ ณ ร้านอาหารบ้านต้นไข่@ถนนสามัคคี นนทบุรี
วันนี้ขอนำทุกท่านมาพบกับร้านที่มีเมนูสารพัดไข่มากมายที่ชื่อร้านว่า "บ้านต้นไข่" ครับ ร้านนี้ตั้งอยู่บนถนนสามัคคี ไม่ไกลจาก ม.ธุรกิจบัณฑิตครับ
ร้านบ้านต้นไข่เป็นร้านอาหารแนวโฮมเมด ที่คิดค้นและพัฒนาสูตรเองโดยเจ้าของร้าน และแน่นอนตามชื่อร้าน ร้านบ้านต้นไข่นี่จะเน้นสารพัดอาหารที่ทำจากไข่ครับ ไม่ใช่ไข่ธรรมดาๆที่เราทำกินกันทุกวันแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น ไข่กระทะแบบดั้งเดิม ที่นี่จะนำมาประยุกต์มาใส่ชีส ไส้กรอก แฮม ออกมาเป็นไข่กระทะดับเบิ้ลชีส หรือข้าวไข่ข้นอาหารยอดฮิต ที่ร้านบ้านต้นไข่นี้นำมาฟิวชั่นกับอาหารไทยดั้งเดิมนั่นคือ ต้มยำกุ้ง ออกมาเป็น ข้าวไข่ข้นต้มยำกุ้ง ที่รสชาติจัดจ้านร้อนแรง แต่แฝงด้วยความนุ่มละมุนของไข่ข้นครับ
ท่านไหนสนใจอยากลิ้มลองเมนูอาหารที่ทำจากไข่ รสชาติอร่อย ราคาไม่แพง ลองมาทานที่ร้านบ้านต้นไข่นะครับ ประทับใจแน่นอน
วันนี้มาไกลกันถึงถนนสามัคคีเลยจ้า (บ้านอยู่พระรามสอง - -)
มาลองลิ้มชิ้มรสสารพัดเมนูไข่ กับร้านอาหารที่มีชื่อเก๋ไก๋ว่า "บ้านต้นไข่" ค่ะ
แน่นอนว่าชื่อร้านก็บอกอยู่แล้วเนอะ ว่าร้านนี้เน้นเมนูอาหารที่ทำจากไข่ ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่า ไข่จะเอามาพลิกแพลงทำอาหารได้มากถึงขนาดนี้ (เพราะถ้าทำเองก็จะวนๆอยู่ไม่กี่อย่าง ไข่เจียว ไข่ดาว ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น ตามประสาแม่บ้านสมัยใหม่อย่างเรา ;P) อย่างอาหารธรรมด๊าธรรมดาอย่าง ไข่ดาว ที่ร้านบ้านต้นไข่นี้ ก็สามารถนำไข่ดาว มาแปลงร่างให้เป็น ไข่น้ำดอกไม้ โดยการนำไข่มาดาวบนพริกหวาน! (แล้วจะออกมาเป็นเหมือนรูปดอกไม้ที่เราวาดกันบ่อยๆสมัยเป็นเด็กประถม) หรือไข่เจียวที่เราเจียวกินกันบ่อยๆ ที่นี่นำมาดัดแปลง ใส่ผักโขมอบชีสลงไป ได้เป็นไข่เจียวทรงพลัง! นับถือการครีเอทเมนูของคุณเจ้าของร้านจริงๆค่ะ เพราะไม่ใช่แค่ทำให้แปลกเท่านั้น แต่รสชาติยังอร่อยด้วยนะเออ
ใครอยากรู้ว่า ไข่ไก่ไข่เป็ดธรรมดา จะทำเมนูได้แปลกใหม่ขนาดไหน มาลองเลยที่ร้าน "บ้านต้นไข่" แล้วคุณจะลืมเมนูไข่แบบเดิมๆไปเลยค่ะ :)
ก๋วยเตี๋ยวเรือที่คุณสำผัสได้ถึงการบริการที่ห่วยแตกขั้นเทพ ยอมเสียเงินฟรีแบบไม่กินเลยบริการห่วยขั้นเทพ มีลูกบอกลูกมีหลานบอกหลานมีเพื่อนบอกให้หมด เสียความรู้สึกมากมาย จะไม่เข้าไปเหยียบอีกเลย สาบาน
อร่อย มะลอง มะรู้
ไม่เห็นมีเลยอยู่ส่วนไหนของชั้น 6
รีวิวร้านเนื้อย่างเปิดใหม่ ย่านวัชรพล ร้านเดอะแกรนด์ บาร์บีคิว The Grand BarBQ เป็นร้านเนื้อย่างระดับพรีเมี่ยมสไตล์ออกแนวญี่ปุ่น แต่ว่าร้านใช้เนื้อวัวพันธุ์ไทยเป็นหลัก และทีเด็ดคือมีเนื้อสูตรเฉพาะของร้านที่บ่มแห้งแบบพิเศษคิดค้นขึ้นมาเองอีกด้วย ร้านนี้ตั้งอยู่ในห้างเนเบอร์เซ็นเตอร์ Neighbour Center ใกล้ๆ 5แยกวัชรพล ตรงข้ามกับปั้ม ปตท. ตัวร้านเดอะแกรนด์บาร์บีคิว จะอยู่ชั้น2 เป็นร้านเปิดใหม่มาสัก2-3เดือนนี้เองครับ ใครเคยมากินร้าน "เมี่ยงปลาหมุน 5แยกวัชรพล" ที่มีปลาเผาอร่อยๆออกทีวีมาแล้วหลายๆรายการ ก็นั้นแหละครับ สถานที่เดียวกัน จอดรถได้มากอยู่สัก 30-40 คันสบายๆ
ดูเมนูของทางร้านต้องบอกเลยว่า ที่นี้เน้นไปทางปิ้งย่างอย่างเดียวเลย โดยจะมีเนื้อวัวเป็นหลัก มีแทบทุกส่วนของวัวเลยแหละ แต่หากใครไม่ทานเนื้อ ก็ยังมีชุดหมู ไก่ และซีฟู้ด มาเป็นออปชั้นให้เลือกได้อีกหลายเมนูเช่นกัน แต่ถ้าเป็นประเภท Meat Lover นี้มาร้านนี้จะต้องชอบแน่ๆละ เพราะร้านมีเนื้อแทบจะทุกส่วนชำแหละออกมาให้เลือกทานตามใจชอบ
วันที่พวกผมไปทานเจอเจ้าของร้าน ชื่อพี่อั๋น มารับออเดอร์และพาเราไปดูตู้แช่เนื้อส่วนต่างๆ พร้อมกับชาร์จบอกส่วนประกอบว่า แต่ละส่วนของวัว อะไรอยู่ตรงไหนบ้าง ส่วนไหนของวัวที่ตัดออกมาเป็น Sirloin , Rib , Chuck , T-bone , Brisket พี่เขารู้หมดเลยว่าส่วนไหนมีมันเยอะ ส่วนไหนเนื้อเยอะ เนื้อนุ่ม หรือเหนียวกว่า ,ส่วนไหนเหมาะเอาไปย่าง ไปทำสเต็ก หรือเอาไปอบไปตุ๋น ไอ้ชาร์จนี้เคยเห็นอยู่บ้างสมัยเรียน ป.ตรี แต่ก็ไม่เคยจำเลย เวลาไปกินร้านสเต็ก ร้านเนื้อย่าง ก็สั่งๆไป ไม่เคยจำได้หรอกว่าเนื้ออะไร มันคือส่วนไหนของวัว 555 พอเราดูเปรียบเทียบระหว่างเนื้อในตู้โชร์กับชาร์จ Beef Cut ด้านบนแล้วก็มาสั่งได้เลยว่าอยากจะทานส่วนไหน มีพี่เชฟค่อยอธิบายส่วนประกอบของเนื้อว่าตรงไหนเรียกว่าอะไร แต่ละส่วนให้ฟัง
คุยไปคุยมากับพี่อั๋น เจ้าของร้าน ถึงเพิ่งมารู้ว่า พี่เขาเคยทำงานอยู่แผนกเนื้อในห้างใหญ่ชื่อดังมากว่า 10ปี เป็นตำแหน่งถึง Master Butcher เลยรู้เรื่องการชำแหละเนื้อ การหั่นเนื้อเป็นอย่างดีทุกโปรเซส พี่เขาบอกว่าเนื้อที่ร้านเอามาย่าง ส่วนใหญ่เป็นเนื้อสายพันธุ์ไทยวากิวและพันธุ์ชาโลเล่ ที่เลี้ยงในภาคอีสานบ้านเรานี้แหละ ทางร้านจะไปซื้อซากวัวมาทั้งตัวจากโรงเชือดมาเลย ไม่ได้อิมพอร์ตเนื้อมาจากเมืองนอก และท้าให้ลองรสชาติความอร่อยของเนื้อที่ร้านใช้เพราะการันตีความอร่อย ไม่แพ้เนื้อนำเข้าจากต่างประเทศเลยนะ
เราเลยสั่งจัดมาลองซัก 2-3 ชุดดังนี้
- Set Premium Beef 899 Baht เป็นรวมเนื้อพรีเมียมของร้าน4อย่าง (เนื้อสันคอพิเศษ,เนื้อท้องวัว,เนื้อกล้ามขาเกรดเอ,สันนอกพิเศษ พร้อมผักออกานิคอีก1ชาม) ดูลายของไขมันที่แทรกในเนื้อแล้ว บอกเลยแหล่มมั๊กๆ
- Set Grand Pork 355 baht (สันคอหมู,หมูสามชั้น,ไส้กรอกญี่ปุ่น พร้อมผักออกานิคสำหรับห่ออีก1ชาม)
- Dry Aged Beef ส่วน ribeye 900 baht เป็นเนื้อบ่มแห้ง ที่เป็นสูตรพิเศษของทางร้านทำขึ้นมา ไม่เหมือนใคร โดยการนำเนื้อมาบ่มไว้ที่อุณหภูมิต่ำประมาณ 0 - 2 องศา ในความชื้นที่เหมาะสม บ่มทิ้งไว้ประมาณ 21 -30 วัน พี่เขาบอกว่าเนื้อบ่มแห้ง ในเนื้อมันจะมีเอนไซม์ในตัวมันออกมาทำปฎิกริยากับตัวเนื้อทำให้มีความหอมและนุ่มมากยิ่งขึ้น เวลานำไปย่าง
- "แก้มหมู" 200 บาท เมนูนี้ร้านอื่นๆไม่ค่อยมีกัน เป็นส่วนของแก้มหมู มีเอ็นแทรกอยู่เยอะพอควร ตอนทานจะค่อนข้างเคี้ยวหนึบหนับมากกว่า ชิ้นส่วนอื่นๆของหมู (คือจะเหนียวกว่า นั้นเอง)
โต๊ะอาหารที่ร้านนี้ เป็นแบบมีหลุมถ่านเตาอยู่ในตัวโต๊ะเลย พอเตาถ่านมาลง ไฟกำลังแรงๆ ก็คีบเนื้อลงเตาไปเลย (เนื้อพรีเมี่ยมจะไม่ราดซอส แค่โรยเกลือและพริกไทดำ ก็อร่อยแล้ว) พี่บอกว่าเนื้อดีๆถ้าหมักซอสแล้วไปย่าง จะทำให้ลิ้นเราไม่ได้รับรสชาติของเนื้อที่แท้จริง แต่จะได้รสชาติของซอสไปแทน
ที่ร้านแนะนำวิธีปิ้งเนื้อย่างแบบให้ได้สัมผัสรสเนื้อแบบเต็มๆ คือให้คีบลงเตาไฟแรงๆ เบิร์นให้น้ำในเนื้อค่อยๆซึมออกมา พอสีเริ่มเปลี่ยนเป็นน้ำตาลก็พลิกกลับอีกด้าน
เพียงรอบเดียว ปิ้งสุกประมาณมีเดียมแล ก็พอ แล้วให้ลองชิมเนื้อแบบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มดู จะได้รับรู้ถึงรสเนื้อแท้ๆว่าหวานชุ่มนุ่มลิ้นเพียงใด แล้วชิ้นต่อไปค่อยจิ้มน้ำจิ้ม เพื่อเปรียบเทียบกัน
มาต่อกัน
- ซุปหางวัวแบบญี่ปุ่น 180 baht เป็นซุปน้ำข้นๆออกสีครีมๆ ทำจากเอ็นข้อวัว ใส่หางวัวที่ตุ๋นจนเปื่อย เนื้อนุ่มๆ น่าจะตุ๋นนานหลายชั่วโมงเลย น้ำซุปก็ข้นได้ใจทีเดียว
- ร้านมีข้าวกระเทียม และข้าวญีปุ่น ให้สั่งมาทานคู่กับเนื้อย่าง เลยลองสั่งข้าวกระเทียมมากิน (45 บาท) รสชาติดีทีเดียว
- ของหวาน เห็นที่ร้านมีไอติม Haagen-Dazs เป็นถ้วยๆแช่อยู่ในตู้ แต่ไม่ได้ลองเลยไม่รู้ราคา
สรุปโดยรวม ถือว่าเป็นร้านเนื้อย่างระดับพรีเมียม ที่น่าสนใจทีเดียว สำหรับคนรักเนื้อ ควรต้องมาลองทานกัน ถ้าได้เจอพี่อั๋น Master Butcher ด้วยจะยิ่งได้ความรู้เรื่องเนื้อมากขึ้นอีกตะหาก แต่หากไม่ทานเนื้อวัว ก็ยังมีหมู-ไก่และซีฟู้ด เป็นออปชั่นให้เลือกสั่งกันได้ ร้านมีโต๊ะประมาณ 10 กว่าตัว น่าจะรองรับคนได้สัก 50 -60 คนได้เลย ใครอยู่ย่านวัชรพล อยากหาทานกินยากินิคุ แบบเนื้อคุณภาพดีๆ แนะนำมาลองทานร้านเดอะแกรนด์บาร์บีคิว กัน