All reviewing comments
Search for comments
พอดีว่าหนูต้องทำโปรเจค อยากทราบว่ ''เมนูไหนที่คนมาซื้อมากที่สุด และราคาเท่าไหร่ค่ะ"
"ร้านนี้จัดว่าเด็ด ไปฟาดกันให้เรียบ ที่ฟาดเรียบซีฟู้ด"
สำหรับผู้รักในการทานอาหารทะเลแนวปิ้งๆย่างๆ ต้องไปโดนกันคับร้านนี้ "ฟาดเรียบซีฟู้ด" โดยคิดคนละ 399฿ ไม่จำกัดเวลา (ถ้าเลือกแบบไม่กินแอลกอฮอลล์)
แต่ถ้าทานเบียร์ หรือเหล้า ก็จะเป็น 399 บาท ทานได้ 1ชั่วโมงครึ่ง
พิกัดร้าน : ย่านกัลปพฤกษ์ 4แยกกำนันแม้นเลยครับ เลยร้านซ้งโภชนาการไปไม่ไกลนัก
จุดเด่นคือบุฟเฟ่ต์ทะเลมีของให้เลือกเยอะมาก กุ้ง ปู หมึก หอย หลากหลาย และมีหลายชนิดเช่น หอยหวาน หอยตลับ หอยแมลงภู่ , กุ้งเป็นกุ้งก้ามกราม ตัวใหญ่บ้าง เล็กบ้าง คละไซค์กัน (คือราคานี้ ถึงจะไปเจอกุ้งตัวเล็กหน่อยก็ยอมนะ เพราะมันกินได้ไม่อั้นไง) ปูจะเป็นปูลายเสือกะปูม้า ไซค์กลางๆ
จุดเด่นที่นอกจากจะมีไลน์ของทะเลให้เลือกหลายอย่างแล้ว คือร้านนี้ยังมีอาหารเพิ่มที่อยู่ในชุดบุฟเฟ่ต์แล้วให้อีกคือ
1.ปลากะพง (คือตอนแรกงง ว่าเอามาให้ทำไร พอถามพนักงานบอกว่า โรยเกลือห่อฟรอยด์แล้วเอาไปเผาบนเตาได้ แจ้งน้องพนักงานให้มาช่วยโรยเกลือได้เลยนะ บริการฉับไวดี)
2.เย็นตาโฟหม้อไฟ เป็นอาหารเสริมอีกอย่างที่แจ้งพนักงานได้ อยากได้อะไรใส่ลงในหม้อไฟ เลือกได้เลย ทั้งกุ้ง หมึก ปู หอย และลูกชิ้นต่างๆ คือดีอะ
3.กุ้งอบวุ้นเส้น ปูอบวุ้นเส้น เป้นอาหารเสริมอีกอย่างที่ดูเซอร์ไพร์ดี อยากกินเมนูอะไร ก็แจ้งพนักงาน บอกเบอร์โต๊ะไป เดี๋ยวเค้าทำเสร็จ ก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะเราได้เลย
4. แจ่วฮ้อน หรือจิ้มจุ่ม ก็รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์อีกด้วย อันนี้ก็เซอร์ไพร์ดี นอกจากปิ้งย่างแล้ว อยากกินอะไรต้มๆ ทางร้านก็เลยจัดแจ่วฮ้อน หมู/ไก่ มาเพิ่มให้ลูกค้าอีก คือดีงาม
ส่วนเครื่องดืม จะเป็นตู้น้ำอัดลม มีทั้งพวก EST โคล่า น้ำแดง น้ำเขียว น้ำไลม์ เราสามารถไปหยิบเปิดฝาเองได้เลย (คือดีที่มาเป็นขวดๆ บางร้านให้แบบเครื่องกดน้ำ แล้วเขาใส่หัวเชื้อน้อย กินแล้วเจือจางมาก)
ถ้าไม่ทานแอลกอฮอลล์ ทางร้านไม่จำกัดเวลาด้วยนะครับ นั่งชิลล์ๆ ปิ้งไปทานไปได้สบายใจ
แต่ถ้าเลือกทานเบียร์ เหล้าไม่อั้น ร้านเขาให้เวลา 90 นาทีนะ
ผมและพรรคพวกไปทานกันมาตั้งแต่กลางเดือนกุมภาแล้วนะ บอกเลยฟินมว๊ากกก ล่าสุดเห็นในเพจร้านบอกว่ามีชีส ยืดๆให้อีกด้วยคนละถ้วย เสิร์ฟมาเป็นถ้วยฟรอยด์วางบนเตา (ตอนนี้ร้านแนวชีสกำลังมา) แต่ถ้าอยากกินแบบบุฟเฟ่ต์ชีส เพิ่มอีก100 บาทได้ชีสไม่อั้นด้วย คุ้มสุดๆละ
ส่วนเรื่องโปรโมชั่น มีอยู่เรื่อยๆนะ ต้องไปตามดูจาก FB page ของร้านเขา ล่าสุดเดือนมีนาคมนี้เห็นมีโปรมา 6 ฟรี 1 อีกด้วย ใครอยู่ย่านกัลปพฤกษ์ ราชพฤกษ์ พระราม2 เอกชัย บางบอน อะไรงี้ ต้องไปลองคับ จัดว่าเด็ดร้านนึงเลย
สุดยอดร้านสาย Vegan ใจกลางเมืองกรุง "Veganerie" ร้านตั้งอยู่ด้านหลังสวนเบญจสิริครับ
ถ้ามาทางบีทีเอส ออกทางออกที่สองที่อยู่ด้านข้างเอ็มโพเรียม แล้วเดินมาด้านหลัง
ผ่านเอ็มโพเรียมสวีท จะเจอซอยเล็กๆด้านขวามือ เดินเข้าไปนิดเดียวก็เจอร้านแล้วครับ
หรือถ้าชอบความร่มรื่น จะเดินทะลุสวนเบญจสิริ ออกมาทางด้านหลังก็เจอร้านเลยเช่นกันครับ
Veganerie เป็นร้านสายวีแกนแบบจัดเต็ม เนื่องจากเจ้าของร้านเป็นคนที่ทานวีแกนแบบดั้งเดิมซุ่งจะงดทุกอย่างที่เป็นสัตว์และผลผลิตจากสัตว์ด้วยเช่นกัน จึงเข้าใจถึงแก่นความเป็นวีแกน
อาหารทุกจานของที่ร้าน ปรุงสดใหม่ ด้วยวัตถุดิบคัดสรรพิเศษ วีแกนล้วนๆ ทั้งของคาวและของหวาน สำหรับสาวกวีแกน ร้านนี้มั่นใจได้แน่นอนครับ
สำหรับวันที่ไปผมได้ลองทานอาหารหลายอย่าง แต่ที่ประทับใจมากๆคือ Vegan Papaya Salad &Fried Chicken นั่นคือส้มตำกับไก่ทอดแบบวีแกนนั่นเอง
ซึ่งส้มตำก็สามารถสั่งได้นะครับว่าเผ็ดน้อยเผ็ดมาก ส่วนไก่ทอดนั้น แน่นอนว่าไม่ใช่เนื้อไก่จริงๆ แต่เป็นเห็ดไต้หวันที่นำมาผสมกับเครื่องปรุงสูตรพิเศษของทางร้าน
ทอดจนกรอบหอม ทานกับส้มตำอร่อยมากๆครับ
จานแนะนำอีกหนึ่งจานคือ Vegan Pulled BBQ Pork Burger ครับ เป็นเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ เสิร์ฟพร้อมเฟร้นช์ฟรายโรยผงปาปริก้า และซอสสามแบบครับตัวไส้เบอร์เกอร์ประกอบไปด้วยเห็ด
ซอสบาบีคิว และผักกะหล่ำ ให้มาเยอะมากๆครับ จริงๆทานชิ้นเดียวก็อิ่มได้เลย
และอีกเมนูที่ห้ามพลาดคือ Green Curry & Roti โรตีแกงเขียวหวานแบบวีแกนครับ เป็นแกงเขียวหวานเต้าหู้ เสิร์ฟพร้อมกับโรตีมาเลเซียทอดแบบไร้น้ำมันครับ รสชาติเข้ากันดีมากๆ อันนี้ผมสั่งกลับบ้านอีกหนึ่งชุดเลยครับ
สำหรับเมนูของหวานและเครื่องดื่ม ก็เป็นวีแกนแท้ๆ Brownie Frappe นี่เข้มข้นถึงใจมากๆเลยครับพลาดไม่ได้เลย ต้องลองทั้งหนุ่มๆและสาวๆต้องชอบแน่นอน แม้กระทั่งวิปครีมเองก็ทำจากถั่ว ไอศครีมก็เข้มข้นแบบไม่มีที่ไหนเหมือน สายเบเกอรี่ห้ามพลาดนะครับโดยเฉพาะ Red Velvet Waffles ตัววัฟเฟิลกรอบนอกนุ่มในมีกลิ่นหอมของเบอร์รี่อร่อยมากๆ สีก็สวยสมชื่อน่าทานสุดๆ ท็อปปิ้งด้วยกีวี่และสตอแบรี่สด
เสิร์ฟพร้อมไอศครีมชอคโกแลตสูตรพิเศษแบบโฮมเมต คุ้มค่าฟินมากๆ ขนาดที่ทุกคนบอกอิ่มแล้วยังแย่งกันทานแปบเดียวเกลี้ยงเลยครับต้องไปลองครับ ร้านเปิดให้บริการ ตั้งแต่ สิบโมงเช้าถึงสี่ทุ่มเลยครับปิดวันพฤหัสนะครับ
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่ http://goo.gl/Xqeu5w
วันนี้มาเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างครับ กับร้านซูชิ-ซาชิมิราคาประหยัด ร้าน"ข้าวนิ่มซูชิ" ที่ศูนย์การค้า Happyland Center ครับ
ร้านจะอยู่ในศูนย์อาหารแฮปปี้แลนด์ครับ เดินเข้ามาจะอยู่ทางซ้ายมือร้านแรกๆเลย
เป็นร้านซูชิแบบเลือกเอง คีบเองครับ แต่ขอบอกเลยว่าคุณภาพ ความสดใหม่ ไม่แพ้ร้านดังๆแน่นอน ที่สำคัญคือ ราคาสบายกระเป๋ามากๆครับ
ซูชิ (และมากิ) จะมีราคาอยู่ที่ชิ้นละ 10-30 บาทเท่านั้น
ที่ขอแนะนำเลยคือ ไข่หวานแซนวิช ที่เป็นไข่หวานชิ้นใหญ่ทอดจนฟู แล้วผ่ากลางใส่ไข่กุ้งมายองเนสเข้าไป เป็นเมนูขายดีของทางร้านครับ
หน้าเป๋าฮื้อมายองเนสก็อร่อยไม่แพ้กัน เป๋าฮื้อกรุบกรอบมากๆ
ซูชิกุ้ง ซาบะ แซลมอนหรือปลาไหล ก็มีให้ได้ทานนะครับ แน่นอนว่าราคาก็ไม่แพงเลย ชิ้นละ ไม่เกิน 30 บาทครับ
ที่น่าสนใจคือ ร้านข้าวนิ่มซูชิ มีแซลมอนซาชิมิให้ได้ทานด้วยครับ ในราคาเพียงแค่ 120 บาท สำหรับจานเล็ก 10 ชิ้น และ 160 บาท สำหรับจานใหญ่ 14 ชิ้นครับ
เห็นราคาแล้วไม่ต้องตกใจไป ปลาของที่ร้านนี้คุณภาพดี สดใหม่ไม่มีกลิ่นคาวครับ แล่มาชิ้นหนามากๆ ทานกันสะใจเลย
เนื่องจากร้านตั้งอยู่ในศูนย์อาหาร ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่า จะทานที่ร้านหรือใส่กล่องกลับไปทานที่บ้านก็ได้ครับ
จากที่สังเกต ลูกค้าแต่ละท่านที่มาซื้อ คีบกันไม่ต่ำกว่า 5-6 ชิ้นเลยครับ ผมเองก็จัดใส่กล่องไปฝากคนที่บ้านประมาณ 2-3 กล่องเลยครับ คุ้มค่าประหยัดฟินสะใจ แน่นพุงทั้งที่นี่และคนที่บ้าน รวมๆยังถูกกว่าบุฟเฟ่ต์มากมายนัก การันตีความสด คุ้มค่าแน่นอนครับ
ร้านที่มาบ่อยมาก เพราะอาหารง่ายๆ และรสชาติเฉลี่ยแล้วอร่อยมาก (เว้นแต่บางเมนูที่เคยสั่งแล้วเฟล เช่น ข้าวไข่ข้น - -)
วันก่อนไปกินมาอีกรอบ เลยโพสรูปเล่นๆ ดูคับ
Catty Pretty A&Wสาบา ปตท.ถ.รามคำแหง สุขาภิบาล3 พนง. คุณวิราวรรณ ไล่ให้ไปนั่ง หลังจากสั่งอาหารเสร็จ แต่ดิฉันต้องการสั่งอาหารต่อ เลยขยับออกจาก เคาว์เตอร์ แล้วยืนดูเพื่อจะสั่งต่อ บอกขอยืนแล้วกัน พนง.สวนว่า คนอื่นก็มีมารยาท ไปนั่งกันทั้งนั้นแหละ (เวลา 19.20น.
วันนี้ผมไปทานอารที่ร้านนี้มาเจอยายป้าหรือคนบ้าต่อว่าน้องๆที่บริการน่าสงสาร
ไม่พึงสังวอนตัวเองเลยคิดแค่ว่าตนเองเป็นลูกนึกจะว่าใครก็ได้มันไม่สมควรออกมาจากมารยาทแย่ๆของคนๆหนึ่งเอง.....เป็นกำลังใจให้น้องๆๆที่รักงานบรการน่ะครับ
วันนี้มารีวิวร้านที่เหมาะสำหรับคนชอบกินลมชมวิว ริมคลอง บรรยากาศดีๆห่างไกลเสียงรถราในเมืองกรุง
คร่าวนี้ได้ไปทานร้าน "จินดาคาบาน่า" อีกหนึ่งรอบ เคยมาแล้วเมื่อปีเศษๆที่ผ่านมา ตอนนั้นก็ว่าเจ๋งแล้วนะ ร้านอะไรมีกิจกรรมทางน้ำทั้ง เจ็ตสกี พายเรือคายัค บอลลูนน้ำ เล่นน้ำ แทมโพลีน เลี้ยงแกะ คือมากันได้ทั้งครอบครัวเลย
มาครั้งที่ 2 นี้มีเพิ่มเมนูก๋วยเตี๋ยวปากอ้า ขาห้อย ณ จินดา เพิ่มมาอีก (อารมณ์คล้ายๆก๋วยเตี๋ยวห้อยขา พิษณุโลก ฟิวชั่นกับก๋วยเตี๋ยวดูดี๋ ที่มีชื่อเมนูแปลกๆมีระดับความเผ็ดหลายๆเลเวลให้เลือกสั่ง)
ลองสั่งไป 2 ชาม
>> ชามแรก ของน้อง สั่งก๋วยเตี๋ยวกันตวิชญ์ เป็นเส้นเล็ก ใส่หมูแดง หมูบด ลูกชิ้นหมูเด้ง ไม่ใส่พริก ชื่อก๋วยเตี๋ยวเป็นชื่อรร.อนุบาลในย่านนครปฐม ราคา 30 บาท (น้องบอกอร่อยมาก ไม่เผ็ดเลย ชอบมาก > ใช่สิก็มันเป็นก๋วยเตี๋ยวระดับอนุบาล เด็กน้อยกินนิหว่า)
>> อีกชาม ของผมเอง สั๋งก๋วยเตี๋ยว รด. ราคา35บาท เป็นบะหมี่ ใส่หมูแดง หมูบด ลูกชิ้น คล้ายๆชามแรก แต่ว่าใส่พริกมา 1ช้อนครึ่ง (คือความเผ็ดมีหลายระดับ เริ่มต้นที่ รด. แล้วก็มีเผ็ดมากขึ้นไปเรื่อยๆ) ชื่อก๋วยเตี๋ยวร้อยตรี >ก๋วยเตี๋ยว Ranger > ก๋วยเตี๋ยวหน่วยซีล > ก๋วยเตี๋ยว Recon และอีก 3-4 ชื่อจำไม่ได้ละ คือเพิ่มเลเวลความเผ็ดไปเรื่อยๆ ราคาอยู่ในช่วง 30 -50 บาท คือถ้าอยู่ใกล้ๆบ้าน ผมนี้คงไปกินประจำเป็นแน่แท้
ความชิลล์ คือมุมสำหรับนั่งทานก๋วยเตี๋ยว ทางร้านทำเป็นที่นั่งวิวริมคลอง ไว้ให้ นั่งทานไป ดูน้ำใสๆ ไหลเย็น บรรยากาศโครตดี
พอทานเสร็จก็เดินเล่น ดูแกะ ดูนก อะไรไปเพลินๆ เห็นมีคนพายเรือคายัคเล่นกันด้วย (คือกิจกรรมทางน้ำ ของร้านบริการฟรี ยกเว้นเจ็ตสกี ที่ต้องจ่ายค่าน้ำมัน ค่าเช่าเล่น แต่อย่างอื่นฟรีหมด)
มาต่อกันที่ Main Course กันครับ (คนอ่านรีวิวกล่าวในใจ>>นี้แกกิน ก๋วยเตี๋ยวเป็น appetizer เหรอเนี้ย)
เนื่องจากทางร้านเพิ่มเมนูสเต็กมาเพิ่มเติมหลายอย่าง ดูน่าทานมาก มาคราวนี้เลยขอลองแนวสเต็กสักหน่อย
>> Steak T-bone ริมโขง 220 บาท
เป็นสเต็กเนื้อส่วนทีโบน ชิ้นใหญ่พอดู มาพร้อมส้มตำ ข้าวเหนียว และน้ำพริกหนุ่ม ถือว่าเป็นสเต็กลูกครึ่งอีสานฟิวชั่น ที่ลองแล้วชอบมาก ตัวเนื้อสเต็กย่างมาสุกกำลังดีราดน้ำจิ้มแจ่วมา แล้วให้เราหั่นจิ้มกินกับน้ำพริกหนุ่ม ตามด้วยข้าวเหนียว-ส้มตำ แซ่บอีหลี สะใจหลายๆ
>> สเต็กหมูเนยสมุนไพร 120 บาท
จานนี้เป็นหมูส่วนสันใน นำไปกริลล์แล้วท็อปปิ้งข้างบนมาด้วยเนยที่ผสมสมุนไพรมา (ตอนกินจะมีรสคล้ายๆกะเนยกระเทียมด้วยนะ) เสิร์ฟมาพร้อมน้ำเกรวี่ ครัวซองค์ ผักสลัด และเฟรนฟรายด์ มาอย่างละเล็กๆน้อยๆ เสิร์ฟทั้งหมดมาบนกระทะร้อน
>> ไส้กรอกเยอรมัน 180 บาท
เป็นไส้กรอกหมูและไส้กรอกพริกไทดำ กริลล์สุกมา 2 ชิ้น เสิร์ฟพร้อมซาวเคร้าท์(ผักดองแก้เลี่ยน) และครัวซองค์อีก 1 ชิ้น ตอนทานราดมัสตาร์ดอีกนิดหนึ่ง เข้ากันดีนะ
>> ไก่อบสมุนไพร 200 บาท
จานนี้เห็นอยู่ในเมนูแนะนำของร้านเลยลองสั่งมาทานดู เป็นอาหารไทยเหมาะทานแกล้มกะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดีจัง เป็นไก่หมักด้วยเครื่องเทศหลายอย่าง เช่นขมิ้น,รากผักชี ,ตะไคร้,ใบมะกรูด,ข่า,นมสด แล้วน้ำไปอบ รสชาติสมุนไพรเข้าถึงเนื้อดี
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านชิลล์ ย่านสามพราม นครปฐม ที่ควรค่าแก่การมานั่งชิลล์ ทานอาหารกัน แผนที่ทางไปร้านก็หาไม่ยากครับ กูเกิลด้วยคำว่า "จินดาคาบาน่า" แล้วก็จะเจอหมุดปัก Google map มาให้เห็นเลย กดจากมือถือให้นำทางไปถึงร้านได้เลย
ร้านนี้เป็น 1 ใน 5 ร้านที่ติดอันดับ ร้านน่านั่งชิลล์ ริมน้ำท่าจีน นครปฐม จากเว็บชิลไปไหน.com อีกด้วย (ลองไปหาบทความอ่านกันดู)
สวัสดีครับ วันนี้มารีวิวอีกแล้ว ที่ร้าน จินดาคาบาน่า ครับ
พอดีได้ข่าวมาว่า ทางร้านปรับปรุง และเพิ่มเมนูใหม่ๆหลายแบบ จึงพลาดไม่ได้ต้องมาลิ้มลองซักหน่อยครับ
เดิมทีจินดาคาบาน่าเป็นร้านอาหารป่านะครับ เมนูใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาได้แก่ "ก๋วยเตี๋ยวปากอ้าขาห้อย" และ เมนูสเต็กครับ
มาลองก๋วยเตี๋ยวกันก่อนเลยครับ นั่งทานกันตรงริมคลองเลย เป็นม้านั่งยกสูง เลยเรียกชื่อว่า ขาห้อย ครับ
ตัวก๋วยเตี๋ยวมีหลายรูปแบบให้เลือกนะครับ แต่ทีเด็ดคือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำแบบโบราณสูตรถั่วคั่วครับ
มีชื่อให้เรียกตามระดับความเผ็ดนะครับ ลองสอบถามทางร้านดูก่อน แต่เครื่องก๋วยเตี๋ยวเด็ดมากจริงๆ
ทั้งหมูสับ หมูเด้ง หมูบะช่อ หรือเครื่องทะเลก็มีนะครับ
พี่ที่ไปด้วยกันสั่ง "ก๋วยเตี๋ยว รด." ครับ เป็นบะหมี่ต้มยำ ระดับความเผ็ดพริกหนึ่งช้อนครึ่ง
ส่วนของผมเป็น"ก๋วยเตี๋ยวกันตวิชญ์" เป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก ใส่หมูแดง หมูบด ลูกชิ้นหมูเด้ง ไม่ใส่พริกเลยครับ
(ที่ชื่อว่า กันตวิชญ์ เพราะเป็นชื่อรร.อนุบาลที่คนนครปฐมรู้จักกัน หมายถึงก๋วยเตี๋ยวไม่ใส่พริกนั่นเองครับ เด็กน้อยม๊ากก 55+)
มาต่อกันที่เมนูสเต็กครับ ทางร้านจินดาคาบาน่า สั่งเตาย่างเนื้อมาจากเมืองนอกเลยนะครับ รับประกันความอร่อยครับ
เมนูแนะนำคือ "สเต็กทีโบนริมโขง" ที่นำเนื้อส่วนทีโบนมากริลล์จนสุก เสิร์ฟพร้อมกับข้าวเหนียว ส้มตำ และน้ำพริกหนุ่ม เป็นสเต็กฟิวชั่นลูกครึ่งอึสาน
เนื้อทีโบน ทานเดี่ยวๆก็อร่อยเข้มข้น ทานกับข้าวเหนียวส้มตำก็แปลกไปอีกแบบ แต่ไม่น่าเชื่อว่า เอามาทานกับน้ำพริกหนุ่มแล้วเข้ากันมากๆครับ
หรือ "สเต็กหมูเนยสมุนไพร" ที่นำสันในหมูมากริลล์จนสุก ราดด้วยเนยสดผสมสมุนไพรสูตรเด็ด ทานคู่กับครัวซอง เฟร้นฟราย และสลัดครับ
จบไปอีกทริปฟินๆ สนุกสนานทั้งกิจกกรมที่ทางร้านมีให้เล่นต่างๆและอาหารก็อร่อยคุ้มค่า เห็นว่าเดี๋ยวจะลง ซีฟู๊ดเซตใหญ่อีก
โอ๊ย อยากกลับอีกมากๆครับ เพื่อนพี่น้องที่สนใจและเคยไปมาแล้ว กลับไปอีกรอบรับรองไม่มีเบื่อครับทางร้านอัพเดตอะไรใหม่ๆโอๆ
อยู่เรื่อยๆเลยครับ สนใจสอบถามติดตามได้ที่ทางเพจของทางร้านดูได้เลยครับ
อ่านReview ฉบับเต็มได้ที่
http://goo.gl/GSGLRo
ขอบคุณครับ
ได้ผ่านไปยังศูนย์อาหารแฮปปี้แลนด์ ครั้งล่าสุด ไปลองร้านซูชิเล็กๆร้านนึง แต่อร่อยและปลาดิบชิ้นใหญ่ ได้ใจมากๆ เลยอยากจะมาแนะนำกันครับ ชื่อร้าน ข้าวนิ่มซูชิ เป็นบู๊ธเล็กๆบูธหนึ่งในศูนย์อาหาร แต่เดินผ่านแล้วดูขนาดของชิ้นปลา แล้วแอ๊ะใจ...มันใหญ่ปิดข้าวเกือบทุกชิ้นเลย ดูราคาแล้วก็ตกชิ้นละ 10-15-20 เอง มีบางชิ้น 30 บาทแต่ก็น่าลองมาก
เลยขอลองดูสักหน่อยละกัน ร้านนี้จะเป็นสไตล์แบบหยิบคีบเอง เดินเข้าไปร้านก็บอกพนง.ได้เลยว่า จะใส่จานกินในศูนย์ หรือจะใส่กล่องกลับบ้าน
เมนูที่ชิมแล้วอยากแนะนำคือ
- แซลมอนห่อไข่ปลา 30 บาท [เป็นแซลมอนชิ้นหนาท็อปปิ้งด้วยไข่แซลมอนด้านบน มีข้าวก้อนเล็กอยู่ข้างใน ฟินมากๆชิ้นนี้]
- ซูชิหอยเชลล์ 20 บาท [เป็นสไตล์มากิ แต่ใส่หอยเชลล์ญี่ปุ่นตัวย่อมๆมา 2-3ชิ้น ปกติร้านระดับนี้ไม่ค่อยเจอหอยเชลล์เท่าไรนัก]
- ไข่หวานแซนวิช 15 บาท [เป็นไข่หวานที่หั่นเป็นชิ้นๆเหมือนแซนวิช ใส่ไข่กุ้งไว้ด้านใน]
- ซูชิหน้าหมึกทาโกะกรอบ 20 บาท [เป็นมากิ ท็อปปิ้งด้วยทาโกะจัง หมึกปรุงรสเข้มข้น]
- ซูชิท้องปลาแซลมอนย่าง 20 บาท [เป้นส่วนท้องปลาแซลมอนเอาไปเบิร์นให้สุกกำลังดี อร่อยเยิ้มๆ]
- ซูชิหน้าปลาไหลย่าง 20 บาท [เมนูปลาไหลย่าง ก็เป้นเมนูที่ไม่ค่อยเห็นร้านแนวนี้เอามาขายเท่าไร ก็อร่อยดีแต่ราดน้ำซอสหวานมาน้อยไปนิด ยังไม่ฟินเท่าไร]
- มีแซลมอน ซาชิมิ ขายด้วย มี 2 ไซต์ กล่องใหญ่ กะกล่องเล็ก เห็นขนาดชิ้นปลาแล้ว ต้องบอกว่าสุดคุ้ม
กล่องเล็ก จะมีแซลมอน 10 ชิ้น 120 บาท
กล่องใหญ่ จะมีแซลมอน 14 ชิ้น 160 บาท
ผมว่าด้วยขนาดของชิ้นปลาดิบที่ให้มา กับราคาแค่นี้ คือบอกได้คำเดียว สุดคุ้มครับ ใครๆที่ชอบไปกินบุฟเฟ่ต์แซลมอน หัวละ 499 , 599 บาท อยากให้มาลองร้านนี้กัน บางทีคุณคีบใส่จาน กินพอๆกะตอนไปร้านบุฟเฟ่ต์ แต่ราคาของร้านนี้ อาจทำให้จ่ายได้ถูกกว่าแบบไปกินร้านบุฟเฟ่ต์อีกซะด้วยนะ
ลองคุยกะคนขาย เขาบอกว่าที่ร้านสั่งปลาแซลมอนสด มาแล่เองที่ร้านทุกวัน (ช่วงบ่ายๆร้านจะแล่แซลมอนทั้งตัว ออกมาเป็นชิ้นๆยาวๆ ก่อนจะเอาไปหั่นเป้นคำๆ อีกทีนึง ร้านบอกว่าเน้นความคุ้มค่าให้ลุกค้าได้ทานแบบจุใจ ไม่เน้นกำไรมากมายนัก (คือตั้งราคาไว้ไม่สูง แต่อยากให้ลูกค้าสามารถหาแซลมอนทานได้ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป และกลับมาทานบ่อยๆได้ ประมาณนั้น)
ใครสนใจ ลองไปโดนสักหนครับ ร้านข้าวนิ่มซุชิ ในศูนย์อาหารแฮปปี้แลนด์ เซ็นเตอร์ ด้านหลังห้าง N-Mark Plaza บางกะปิ (ตรงข้ามกะ The mall บางกะปิ นั้นแหละ)
ได้ผ่านไปยังศูนย์อาหารแฮปปี้แลนด์ ครั้งล่าสุด ไปลองร้านซูชิเล็กๆร้านนึง แต่อร่อยและปลาดิบชิ้นใหญ่ ได้ใจมากๆ เลยอยากจะมาแนะนำกันครับ ชื่อร้าน ข้าวนิ่มซูชิ เป็นบู๊ธเล็กๆบูธหนึ่งในศูนย์อาหาร แต่เดินผ่านแล้วดูขนาดของชิ้นปลา แล้วแอ๊ะใจ...มันใหญ่ปิดข้าวเกือบทุกชิ้นเลย ดูราคาแล้วก็ตกชิ้นละ 10-15-20 เอง มีบางชิ้น 30 บาทแต่ก็น่าลองมาก
เลยขอลองดูสักหน่อยละกัน ร้านนี้จะเป็นสไตล์แบบหยิบคีบเอง เดินเข้าไปร้านก็บอกพนง.ได้เลยว่า จะใส่จานกินในศูนย์ หรือจะใส่กล่องกลับบ้าน
เมนูที่ชิมแล้วอยากแนะนำคือ
- แซลมอนห่อไข่ปลา 30 บาท [เป็นแซลมอนชิ้นหนาท็อปปิ้งด้วยไข่แซลมอนด้านบน มีข้าวก้อนเล็กอยู่ข้างใน ฟินมากๆชิ้นนี้]
- ซูชิหอยเชลล์ 20 บาท [เป็นสไตล์มากิ แต่ใส่หอยเชลล์ญี่ปุ่นตัวย่อมๆมา 2-3ชิ้น ปกติร้านระดับนี้ไม่ค่อยเจอหอยเชลล์เท่าไรนัก]
- ไข่หวานแซนวิช 15 บาท [เป็นไข่หวานที่หั่นเป็นชิ้นๆเหมือนแซนวิช ใส่ไข่กุ้งไว้ด้านใน]
- ซูชิหน้าหมึกทาโกะกรอบ 20 บาท [เป็นมากิ ท็อปปิ้งด้วยทาโกะจัง หมึกปรุงรสเข้มข้น]
- ซูชิท้องปลาแซลมอนย่าง 20 บาท [เป้นส่วนท้องปลาแซลมอนเอาไปเบิร์นให้สุกกำลังดี อร่อยเยิ้มๆ]
- ซูชิหน้าปลาไหลย่าง 20 บาท [เมนูปลาไหลย่าง ก็เป้นเมนูที่ไม่ค่อยเห็นร้านแนวนี้เอามาขายเท่าไร ก็อร่อยดีแต่ราดน้ำซอสหวานมาน้อยไปนิด ยังไม่ฟินเท่าไร]
- มีแซลมอน ซาชิมิ ขายด้วย มี 2 ไซต์ กล่องใหญ่ กะกล่องเล็ก เห็นขนาดชิ้นปลาแล้ว ต้องบอกว่าสุดคุ้ม
กล่องเล็ก จะมีแซลมอน 10 ชิ้น 120 บาท
กล่องใหญ่ จะมีแซลมอน 14 ชิ้น 160 บาท
ผมว่าด้วยขนาดของชิ้นปลาดิบที่ให้มา กับราคาแค่นี้ คือบอกได้คำเดียว สุดคุ้มครับ ใครๆที่ชอบไปกินบุฟเฟ่ต์แซลมอน หัวละ 499 , 599 บาท อยากให้มาลองร้านนี้กัน บางทีคุณคีบใส่จาน กินพอๆกะตอนไปร้านบุฟเฟ่ต์ แต่ราคาของร้านนี้ อาจทำให้จ่ายได้ถูกกว่าแบบไปกินร้านบุฟเฟ่ต์อีกซะด้วยนะ
ลองคุยกะคนขาย เขาบอกว่าที่ร้านสั่งปลาแซลมอนสด มาแล่เองที่ร้านทุกวัน (ช่วงบ่ายๆร้านจะแล่แซลมอนทั้งตัว ออกมาเป็นชิ้นๆยาวๆ ก่อนจะเอาไปหั่นเป้นคำๆ อีกทีนึง ร้านบอกว่าเน้นความคุ้มค่าให้ลุกค้าได้ทานแบบจุใจ ไม่เน้นกำไรมากมายนัก (คือตั้งราคาไว้ไม่สูง แต่อยากให้ลูกค้าสามารถหาแซลมอนทานได้ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป และกลับมาทานบ่อยๆได้ ประมาณนั้น)
ใครสนใจ ลองไปโดนสักหนครับ ร้านข้าวนิ่มซุชิ ในศูนย์อาหารแฮปปี้แลนด์ เซ็นเตอร์ ด้านหลังห้าง N-Mark Plaza บางกะปิ (ตรงข้ามกะ The mall บางกะปิ นั้นแหละ)
มีโอกาสไปไกลถึงคลองสี่ กับร้านอาหารที่พลาดไม่ได้ "ทะเลทิพ" ครับ
เป็นร้านอาหารทะเลที่มีเด็ดคือ เจ้าของร้านนี้ (คุณทิพ) เป็นดีลเลอร์ที่ส่งอาหารทะเลให้กับโรงแรมชื่อดังครับ ไหนๆก็ส่งแล้ว ทำเองด้วยเลยดีกว่า ดังนั้นคุณภาพของวัตถุดิบ บอกเลยว่าไม่ผิดหวังครับ
ตัวร้านเป็นบ้านเรือนไทยดัดแปลงครับ มีห้องแอร์ให้บริการ หรือท่านใดที่พาสัตว์เลี้ยงมาด้วย ทางร้านก็มีโซนเอ้าท์ดอร์สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะครับ
สำหรับเมนูแนะนำที่ห้ามพลาดสำหรับการมาทานที่รานทัเลทิพก็ได้แก่ "แกงส้มหน่อไม้ไข่ปลาริวกิว" โดยไข่ปลาริวกิวมาเป็นเม็ดใหญ่ๆนะครับ ไม่ได้มาแบบเป็นพวง แกงแบบโบราณโดยใช้น้ำส้มจี๊ดแทนน้ำมะขาม หน่อไม้ดองหั่นเป็นชิ้นบางๆทานง่าย รสชาติเปรี้ยวนำตามด้วยเผ็ดร้อน อร่อยมากๆครับ
หรือท่านไหนเป็นคอต้มยำ ก็ขอแนะนำต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน ที่ใช้น้ำมะพร้าวน้ำหอมพร้อมเนื้อมะพร้าวเป็นน้ำซุป ใส่กุ้งก้ามกรามไซส์ใหญ่แต่ผ่าครึ่งเพื่อความสะดวกในการรับประทาน และใส่เห็ดออรินจิแทนเห็ดฟางเพราะมีรสชาติเข้มข้นกว่า ขอบอกเลยว่าจานนี้รสชาติแปลกใหม่ครับ ซดน้ำต้มยำแล้วจะได้กลิ่นหอมของน้ำมะพร้าวด้วย
เมนูอื่นๆที่ควรแก่การสั่งก็มี "ส้มตำสาหร่ายพวงองุ่น" ที่นำสาหร่ายพวงองุ่นมาแช่น้ำจนกรุบกรอบ ทานคู่กับน้ำส้มตำรสแซ่บ หรือ ปลาแรดทอดน้ำปลา ที่ใช้ปลาแรดตัวขนาดหนึ่งกิโล ทอดจนเหลืองหอมด้วยน้ำมันที่เปลี่ยนใหม่ทุกวันครับ
และทางร้านทะเลทิพ จะไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นะครับ แต่ท่านสามารถนำมาเองได้ โดยทางร้านไม่คิดค่าเปิดขวดครับ
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่
http://goo.gl/Ws7ymd
ขอบคุณครับ
ไปลองร้านซีฟู้ดเปิดใหม่ โซนรังสิต-ธัญบุรีมาครับ ร้านทะเลทิพ คลอง 4 อาหารซีฟู้ดสดอร่อยๆ และรสชาติไม่ธรรมดาเลย พิกัดร้านอยู่ตรงรังสิต คลอง4 ก็คือพอผ่าน Dreamworld (คลอง3) ถัดไปอีก1กิโลก็จะเจอถนนคลอง4 (ที่ปากซอยคือร้านบ่อเงิน ขับตรงเข้าไปอีก 1 กิโลเลี้ยวขวาซอยริชแมนชั่น ได้เลยครับ ร้านนี้จะอยู่ตรงข้ามกับริชแมนชั่น)
[Decor]
ร้านนี้ดูจากภายนอกจะเหมือนบ้านทรงไทยหลังนึง แต่พอเข้าไปแล้วก็คือร้านอาหารที่มี 2 ชั้น โต๊ะ-เก้าอี้เป็นไม้สัก แต่มีความเก๋ที่ฐานของโต๊ะอาหารทำมาจากจักรเย็บผ้ารุ่นเก่า ซึ้งที่เห็นคือยังมียี่ห้อ Singer ติดอยู่เลย มีโคมไฟระย้าสวยงาม ตกแต่งอยู่หลายอันภายในร้าน เดินขึ้นไปดูชั้น 2 ก็มีโต๊ะอาหารอีกหลายโต๊ะ เป็นห้องแอร์เหมือนกัน แต่ก็มีโซน Outdoor ด้วย มองวิวภายนอกได้
วันที่ไปทานได้เจอกับทางเจ้าของร้านด้วย ชื่อพี่ทิพ พี่เขาแนะนำอาหารได้ดีและบอกรายละเอียดต่างๆได้เยอะมากๆ เขาบอกว่าก่อนเปิดร้านมีการทดลองทำอาหาร คิดสูตรอาหารมาก่อนเป็นปีๆกว่าจะลงตัวแต่ละเมนู และพี่เขาทำธุรกิจส่งอาหารทะเลให้กับห้องอาหารโรงแรมและร้านอาหารในกรุงเทพหลายๆที่ เลยมีจุดเด่นอีกอย่างนึง คือร้านนี้จะได้ปลา กุ้ง หอย และวัตถุดิบที่สดใหม่เสมอ และคัดไซต์ปลาขนาดที่ต้องการได้
[Food]
มาดูอาหารที่สั่งมาทานกัน
- แกงส้มไข่ปลาริวกิว 350 บาท
เมนูนี้ค่อนข้างหาทานได้ยากมากแล้ว ณ ตอนนี้ เพราะไข่ปลาริวกิวหาไม่ได้ง่ายๆเหมือนแต่ก่อน แต่ของร้านนี้คือมาแบบไซต์ใหญ่ทีเดียว มากันเป็นพวงๆเลย เป็นแกงส้มที่รสชาติเข้มข้น แต่ก็ไม่เผ็ดจนเกินไป ใส่หน่อไม้ดองมาเป็นตัวหลัก ทางร้านบอกใช้ส้มจี้ดที่คั้นเอาน้ำมาใส่แทนมะนาว ซึ้งให้รสชาติความเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์มากกว่ามะนาว
- ออส่วนนิ่ม 220 บาท
ของที่ร้านนี้ใช้ทั้งหอยนางรมและหอยเชลล์มาฟิวชั่นรวมกันในออส่วนนิ่ม เพราะจะช่วยลดคลอเรสตอรอลลงด้วยสำหรับคนที่กังวัลเรื่องนี้ มีความนุ่มและนิ่มละมุนลิ้นมากๆ จานนี้เสิร์ฟมาบนชามทองเหลืองดูดีมากๆ (แต่ก็หนักพอสมควรเลย) พร้อมน้ำจิ้มเป็นซอสพริกศรีราชาและจิ๊กโฉ่
- ปลาแรดทอดน้ำปลา 280 บาท
ปลาที่นี้จะคัดไซต์มาให้ขนาดเท่าๆกัน 1 กิโล (มากินกี่ครั้งก็จะได้ปลาที่คัดไซต์มาแล้ว ไม่ต้องกังวัลว่าจะเจอปลาตัวใหญ่บ้างเล็กบ้าง เหมือนบางร้าน) ทอดบนกระทะทองเหลือง แล้วราดซอสน้ำปลา (ตัวซอสน้ำปลาก็มีสูตรเฉพาะของทางร้าน ออกรสเค็มๆหวานๆ อร่อยไม่เหมือนใคร)
- ต้มยำกุ้งก้ามกรามมะพร้าวอ่อน 290 บาท
ร้านนี้ทำต้มยำที่มีสูตรไม่เหมือนใครดีครับ คือเขาจะใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน และใช้น้ำมะพร้าวน้ำหอมมาเป็นส่วนหนึ่งของน้ำซุปด้วย ทำให้รสชาติของน้ำต้มยำไม่เผ็ดแรงจนเกินไป มีความหอมและหวานของน้ำมะพร้าวร่วมอยู่ด้วย ส่วนกุ้งจะใช้กุ้งก้ามกรามไซต์กลางๆ ผ่าครึ่งใส่มา ทำให้เวลาทานก็สะดวกดี แกะกุ้งง่าย
-ส้มตำสาหร่ายพวงองุ่น 180 บาท
เป็นเมนูฟิวชั่นแปลกใหม่ ที่เพิ่งเคยลองทานแล้วชอบมาก ก็คือเป็นส้มตำไทย มาฟิวชั่่นกันกับสาหร่ายพวงองุ่น เวลาทานคู่กันจะได้สัมผัสกรุบกรอบของตัวสาหร่ายและพอได้น้ำส้มตำผสมเข้าไป ก็เลยกลายเป็นส้มตำไทยที่อร่อยขึ้นมากเลย (ปกติเคยทานแต่สาหร่ายพวงองุ่นเปล่าๆ พี่สาวเคยซื้อมาให้ลองกัน รสมันออกเค็มๆปะแล่มๆ กินแล้วไม่ค่อยชอบเท่าไร) พอมาฟิวชั่นกันกับส้มตำแล้วมันเข้ากันมากๆเลยนะ จานนี้ต้องมาโดนกันครับ
- ข้าวผัดปู (ไซต์กลาง) 150 บาท
ข้าวเม็ดร่วนดีอร่อยมาก สั่งไซต์กลางมาแต่เสิร์ฟมาจานใหญ่มากเยอะมากเลย ตอนแรกนึกว่าสั่งผิดเป้นไซต์ใหญ่ แต่จานไซต์นี้ในราคา 150 บาทนี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆ และจุดเด่นคือที่ร้านบอกว่าปูที่เอามาใส่ในข้าวผัดจะเป็นปูที่นึ่งและแกะเองจากสดๆ ทำให้ได้เนื้อปูเน้นๆ (สมัยนี้มันมีปูก้อนขายเป็นถุงๆ ร้านที่มักง่ายเน้นสะดวกหน่อย ก็มักจะไปซื้อปูก้อนที่แกะไว้แล้วขายตามตลาดสด มาใส่ในข้าวผัดกัน)
[Dessert]
- เฉาก๊วย 40 บาท
เฉากีวยที่นี้เป็นรูปทรงหกเหลี่ยม ตัวเฉาก๊วยมีความหนึบหนับกำลังดี สีออกน้ำตาลเข้มๆ แต่ไม่ดำเหมือนร้านทั่วๆไป
-สาคูแคนตาลูป 40 บาท
แคนตาลูปที่ตักมาเป็นทรงกลมพร้อมสาคูต้มจนได้ความนุ่มกำลังดี รสชาติกลางๆครับ
ทางร้านแจ้งว่าอาหารทั้งหมดจะไม่ใส่ผงชูรสเลย และเชฟมีหลายคน แต่ละคนมีหน้าที่ทำอาหารเฉพาะส่วนๆไป พอได้ฟังสตอรี่และที่มาของอาหารแต่ละอย่างจากร้านจากปากเจ้าของ (พี่ทิพ) แล้วก็อึ้งกันมากเพราะไม่เคยได้ยินร้านไหนใส่ใจในทุกกระบวนการ ก่อนจะเปิดร้านขนาดนี้ ตอนมาทานพี่เขาบอกว่าร้านเปิดได้ประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้เอง แต่ก่อนเปิดมีการเทรนพนักงานล่วงหน้าเป็นเดือนๆ เทรนเชฟก่อนเปิดร้านล่วงหน้า 2-3 เดือน สุดยอดมากๆ
ทางร้านทะเลทิพ ไม่เน้นขายสุรา เหล้า ไวน์ นะครับ (เขาบอกไม่ค่อยสนับสนุนให้คนกินสุรากัน) แค่มีเบียร์ขายนิดหน่อย แต่ถ้าลูกค้าจะหิ้วสุรามาทานกันที่ร้านก็ได้ ไม่คิดค่าเปิดขวดใดๆ
ก่อนกลับเห็นมีรูปภาพวาดการ์ตูนผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมิน ของคุณชัย ราชวัตร ติดอยู่ที่ฝาผนังของร้านด้วย เขียนรูปเป็นผู้ใหญ่มากับไอ้จ่อยยืนคู่กันพร้อมยกนิ้วโป้งเหมือนคนกดไลท์ โดยมีคำบรรยายว่า "ไม่เคยมาทะเลทิพ อย่าคุยว่ารู้จักร้านอร่อย" ถามไปถามมาถึงทราบว่าคุณชัย ราชวัตร มาตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟใกล้ๆนี้แล้วแวะมาทานอาหารที่ร้าน ด้วยความที่ชอบมากเลยวาดรูปการ์ตูนการันตีความอร่อยให้กับทางร้านไว้ด้วย
ใครอ่านรีวิวนี้จบแล้ว ผมว่าหลายๆคนต้องสนใจอยากมาลองแน่ๆ ร้านทะเลทิพ คลอง4 เปิดทุกวันตั้งแต่ตอนเที่ยง - 4ทุ่มครับ มาลองทานสักครั้งแบบผมแล้วอาจจะติดใจเหมือนผมก็ได้
มีโอกาสได้ไปจังหวัตภูเก็ตมาครับเจอร้านอาหารเด็ดๆ ย่านสี่แยกราชภัฎภูเก็ตมาครับ ร้านอยู่ในซอยกู้กู (ถนนรัษฎานุสรณ์) เลยครับตรงเข้าไปเพียง 100 เมตรพอจะโค้งก็ชะลอได้เลยครับจะเจอ"ร้านกอบัว"อยู่ด้านขวามือ จะเห็นเป็นอาคารหลังสีขาวนั่นครับ แสดงว่าไม่ผิดแน่นอนแล้วครับเลี้ยวเข้าไปได้เลยครับ ...
ร้านตกแต่งร้านสไตล์โคโลเนียล แบบชิโนโปรตุกีส ตามสไตล์ดั้งเดิมของภูเก็ต ร้านแบ่งเป็นสองโซนครับมีโซนระเบียงด้านนอกดูแล้วก็น่านั่งชิลล์ดีครับ ฝรั่งสายชิลล์ๆ คงชอบครับ โซนหลักของร้านบ้างครับ บรรยากาศดีมากๆ ตกแต่งได้สวยงาม
เรื่องอาหารนี่เด็ดเลยครับ ทั้ง"ผักเหมียงผัดกุ้งเสียบ"นี่มาเสิร์ฟปุ๊บหอมจนอยากจะวางกล้องแล้วซัดเลย พอได้ชิมก็ติดใจครับเบิ้ลก่อนเลยอร่อยมาก ๆ ฟินสุดๆอร่อยจริงๆครับ "หมูฮ้อง" ที่เป็นของขึ้นชื่อของภูเก็ตร้านนี้ก็ไม่แพ้ใครรสชาติหวานเค็ม เนื่องจากใช้เวลาเคี่ยวนาน หมูชิ้นใหญ่ทานง่ายมากๆ เนื้อนุ่มหอมหวาน
ทานคู่กับแกงส้มที่มีรสชาติเผ็ดร้อน เข้ากันดีมากๆครับ และทีเด็ดอีกอย่าง..
"ขนมจีนแกงปู"แกงปูก้อนมาพร้อมขนมจีนและเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงชุดใหญ่เลยตัวแกงใช้เครื่องแกงใต้สูตรพิเศษ เคี่ยวจนได้ที่แล้วใส่เนื้อปูก้อนลงไป รสชาติเข้มข้นอีกจานที่มาพร้อมกันเป็นขนมจีนและเครื่องเคียงสไตล์ปักษ์ใต้ มีทั้งถั่วงอกหัวโตที่หากินได้ที่ภาคใต้เท่านั้น ยำไชโป๊ว ไข่ต้ม ปลาชิ้งชั้ง ผักกาดดอง สับปะรด พริกแห้ง มะเขือ ถั่วฝักยาว แตงกวา และสะตอ ตักขนมจีนใส่จาน ราดด้วยแกงปู ทานพร้อมเครื่องเคียงก็อร่อยเด็ดหรือใครจะทานกับข้าวสวยก็ได้ อร่อยไม่แพ้กัน เนื้อปูเป็นก้อนๆกินแล้วได้รสปูเต็มๆ เยอะมากๆ สดอร่อยนี่ขนาดทางร้านแจ้งก่อนแล้วว่าวันนี้เนื้อปูได้ชิ้นเล็กนะครับ ยังได้เยอะ สะใจสุดๆตักไงก็เจอคุ้มราคาสุดๆไปเลยจานนี้ลืมร้านชื่อดังที่แชร์ๆกันไปได้เลยทีเดียวเจอแบบนี้เข้าไป
เครื่องดื่มร้านนี้ทั้งน้ำส้มคั้นก็อร่อยสมราคามากใช้ส้มอย่างดีเลยไม่ได้หวานน้ำตาลหวานธรรมชาติแท้ๆเลยครับฝาดๆอร่อย น้ำอัญชัญก็ใช้ดอกที่ปลูกเองเลย
พูดถึงเรื่องเบียร์...ร้านนี้จัดเบียร์ paulaner มาครับเป็นเบียร์ชื่อดังจากเยอรมัน ที่ก่อตั้งมากว่า 3 ทศวรรษ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบาวาเรีย
มีคุณภาพตามตำหรับดั้งเดิมมาตลอด ที่ร้านมี 2 แบบให้เลือก รสดั้งเดิม alc. 4.9%เบาดื่มง่าย รสผลไม้ alc. 5.5% เข้มข้น ครับ
ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาดี ตอนแรกนึกว่าต้องจ่ายหนักซะแล้วดูจากบรรยากาศการตกแต่งทั้งหลาย
นี่หารๆกันแล้วยังถูกกว่าเที่ยวจุดอื่นในเมืองเยอะมากครับ ฟินสุดๆ ชาวภูเก็ตหรือขาจรจากกทม.แบบผมหรือใครได้ไปภูเก็ตต้องแวะลองให้ได้ครับ
ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ รับประกันได้เลยบริการก็ดีมากกกก กันเองสุดๆอีก
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่
http://goo.gl/dJL0q8
ได้เจอกับร้านอาหารสุดชิคย่านเลียบทางด่วนเอกมัยรามอิทรา ร้าน Mint Cafe by Peppermint Field ครับ
มาถึงแล้วตกใจเลย พื้นที่กว้างมากๆครับ นอกจากส่วนของร้านอาหารแล้ว ยังมีส่วนของ Peppermint Bike Park สำหรับคนรักการปั่นจักรยานอีกด้วย แอบไปสำรวจมาแล้ว ขอบอกว่ายอดเยี่ยมจริงๆครับ พื้นที่กว้างขวาง ปั่นได้สบาย มีห้องน้ำบริการพร้อม และมีจักรยานให้เช่าด้วยนะครับ
ส่วนเรื่องอาหารที่นี่ก็ไม่ธรรมดาเลยครับ เป็นลูกผสมระหว่างอาหารไทยกับอาหารอิตาเลี่ยน เช่น ขาหมูเยอรมัน อาหารยอดฮิต ที่ร้าน Mint Cafe ใช้วิธีทอดแบบไร้น้ำมัน ดังนั้นคุณสาวๆสบายใจได้ครับ ขาหมูจานนี้หนังกรอบ เนื้อนุ่มแน่น มันบดและซาวเคร้าก็เยี่ยมยอดครับ หรือจะเป็นจานเบสิคอย่าง สปาเกตตี้CEO ที่ร้านนี้ก็ปรุงแบบไม่ธรรมดา โดยนำมะกอกดำ พริก กระเทียม อิตาเลียนเบซิลมาโกรวมกันเพื่อทำเป็นซอส ดังนั้นสปาเกตตี้จานนี้รสชาติจะเข้มข้น หอมกลิ่นเครื่องเทศครับ
เมนูไทยๆก็มีนะครับ แนะนำเลยกับ เนื้อย่างจิ้มแจ่วข้าวเหนียว ที่ใช้เนื้อนำเข้าจากออสเตรเลีย ย่างแบบมีเดียมเพื่อความฉ่ำน้ำเนื้อ (ชอบความสุกระดับไหนสั่งได้ตามใจนะครับ) ทานกับข้าวเหนียวนึ่งสูตรเด็ดที่ต่อให้ทิ้งไว้นานแล้วก็ยังนุ่มอยู่ และน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บ เด็ดเลยครับอาหารร้านนี้
ใครอยู่แถวนั้นหรือจะตั้งใจไปเลยก็ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่
> http://goo.gl/8rzX8Z <
มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ภูเก็ต มาเมื่อเดือนก่อน ตั้งใจว่าต้องไปหาร้านอาหารพื้นเมืองท้องถิ่นแบบสไตล์ภูเก็ตแท้ๆ ชิมสักมื้อนึง มีเพื่อนคนท้องที่แนะนำร้านกอบัว ภูเก็ต มาให้ว่าควรลองไปชิมร้านนี้ เลยไปจัดมื้อเที่ยงของทริปวันแรกของแก็งค์เราเลย
[พิกัดร้านกอบัว ภูเก็ต Korbua Phuket]
ร้านอยู่ในย่านตัวเมืองภูเก็ตนะครับ ถ้าจากสนามบิน วิ่งเข้าทางตัวเมืองภูเก็ต พอผ่านอนุเสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ก็วิ่งตรงมาเรื่อยๆจนมาถึงแยก ม.ราชภัฎภูเก็ต เลี้ยวเข้าซอยกู้กู (ถนนรัษฎานุสรณ์) วิ่งเข้ามาอีกเพียง 30-40 เมตรก็จะเจอร้านกอบัว อยู่ด้านขวามือเลย หาไม่ยาก สังเกตุป้ายร้านสีเขียวๆได้คับ
[Decor]
การตกแต่งของร้านนี้ ถ้ามองจากข้างนอกจะเห็นเป็นอาคารสีขาว สไตล์โคโรเนียล แบบชิโนโปรตุกีส ร้านมีทั้งโซน Ourdoor นั่งรับลมด้านนอก และโซน Indoor ในห้องแอร์เย็นๆ
เข้าไปด้านในร้าน ออกธีมสีขาวครีม ดูคลาสสิคมากๆครับ ตกแต่งสวยงามตามสไตล์โคโรเนียล ผสมผสานความเป็นยุโรป จีนกับความเป็นท้องถิ่นแบบภูเก็ตดั้งเดิม สัมผัสได้ถึงความสวยงามที่ออกคลาสสิค มองไปมุมไหนก็สวยงาม แถมด้านหลังร้านเป็นต้นไม้เขียวๆอยู่มากมาย มองทะลุช่องหน้าต่างออกไปก็ได้สีเขียวจากใบไม้ เพิ่มความสดชื่นขึ้นไปอีก
วันที่เข้าไปทาน โชคดีได้เจอเจ้าของร้านคุณก้อง คุณจอย พี่ทั้ง2ใจดีมากๆ ได้พูดคุยกันหลายอย่าง พร้อมแนะนำเมนูฮิตๆของร้านให้เรารู้จักหลายอย่างเลย คนต่างถิ่นแบบผมก็ไม่รอช้า เมนูไหนขายดี ก็สั่งกันเลยสิคับ รอไร
สังเกตุที่ผนังร้านเห็นมีติดกรอบรูป เป็นคอลัมภ์แนะนำร้านภูเก็ตทาวน์ ทองหล่อ อยู่หลายกรอบภายในร้าน พอได้คุยกับทางเจ้าของร้านถึงบางอ้อว่า ที่แท้แล้วร้าน Phuket Town ตรงทองหล่อซอย6 นี้เป็นร้านของน้องสาวพี่ก้อง ไปเปิดนั้นเอง เพราะเคยได้ยินหลายคนพูดถึงกันว่าถ้าอยากกินอาหารใต้สไตล์ภูเก็ตแท้ๆ ถ้าอยู่กรุงเทพต้องไปร้านภูเก็ตทาวน์ เพราะขึ้นชื่อลือชา เรื่องความอร่อยมาก
พอมารู้ว่าร้านกอบัว เจ้าของร้านเป็นพี่ชายของร้านภูเก็ตทาวน์ ทองหล่อ ผมนี้ยิ้มเลย งานนี้ถ้ากลับไปกรุงเทพ นึกอยากกินอีก ไม่ต้องไปไกลแล้ว มุ่งตรงไปร้านนี้ได้เลย สูตรอาหารเดียวกันเป๊ะ
[Food]
-ผักเหมียงผัดกุ้งเสียบ 120บาท
ใบเหมียงหรือใบเหลียง พื้นท้องถิ่นพบได้เยอะในแถบภาคใต้ นำมาผัดกับไข่ กุ้งเสียบ โรยหอมเจียว โป๊ะอีกนิด ใบเหมียงรสชาติจะออกมันๆ หวานนิดๆ ผัดเข้ากันกับไข่ กลิ่นหอมและอร่อยมากๆ เป็นเมนูที่ Reccommend เลยว่าถ้ามาร้านนี้ต้องสั่ง อร่อยโดนใจจริงๆ
-หมูฮ้อง 150 บาท
เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ถ้าไปภูเก็ต ต้องกินเมนูนี้เลย หาได้หลายร้านในตัวเมืองภูเก็ต ความอร่อยอยู่ที่การตุ๋นเนื้อหมูสามชั้น(ซึ้งน่าจะใช้เวลานานอยู่)เพราะรสชาติมันเข้าถึงเนื้อในมากๆมาพร้อมไข่ต้มและกระเทียม หอมกลิ่นเครื่องเทศ ดูๆตอนแรกจะเหมือนพะโล้ แต่ว่าหมูฮ้อง จะเคี่ยวจนน้ำเหือดเข้าไปในตัวเนื้อเยอะ และเคี้ยวง่ายอีกด้วย ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรอยจังฮู้
- ขนมจีนแกงปู 200 บาท
เป็นขนมจีนแกงปู ตัวน้ำยาปูเน้นเครื่องแกงใต้ รสเผ็ดจัดจ้านพอสมควรเลยนะ ใส่ปูก้อนชิ้นใหญ่ๆ ตักขึ้นมาเห็นเป็นชิ้นๆเลย เสิร์ฟพร้อมขนมจีนม้วนเป็นก้อนๆ พร้อมผักเคียงหลากหลายมากๆในเซ็ทนี้ มีไชโป๊วยำ ถั่วงอกหัวโต ไข่ต้ม กะหล่ำดอง มะเขือ แตงกวา สะตอ ถั่วฝักยาว ปลาฉิ้งฉ้าง พริกแห้ง สัปปะรด
-แกงส้มโชน 180 บาท
เป็นแกงส้มแบบปักษ์ใต้ ออกสีเหลืองเพราะใส่ขมิ้น และใส่โชน ลักษณะเป็นท่อนๆ (คล้ายๆบอน) ใส่เนื้อปลากะพงขาวลงไปชิ้นใหญ่พอควร ปลาเนื้อแน่นและไม่มีกลิ่นคาวเลย น้ำแกงส้มรสเด็ดถูกใจ ตัวโชนจะอุ้มน้ำไว้ค่อนข้างมาก รสเผ็ดพอสมควร
-หมูคั่วเกลือ 120 บาท
เป็นหมูสามชั้นหั่นขนาดพอดีคำ หมักด้วยเครื่องเทศน่าจะหลายอย่างเลย รสออกเค็มๆ กินกับข้าวสวยและแกงส้มเข้ากันดีมาก
-ข้าวเปล่า 15 บาท (ถ้าสั่งแบบโถ 45 บาท)
ร้านนี้ถ้าสั่งข้าวเป็นจานๆ ร้านเขาจะเสิร์ฟมาเป็นทรงกรวยสูงๆแบบในภาพนี้ ก็แปลกตาดีนะคับ
[Drink]
-น้ำแดงมะนาวโซดา
-น้ำส้มคั้น 55
-น้ำมะพร้าว เสิร์ฟมาทั้งลูก 40 บาท มีช้อนให้แคะเนื้อมะพร้าวอ่อนแคะง่าย ชอบมั๊กๆ
คือติดใจร้านนี้มากคับ ตอนแรกกะว่าจะลองทานแค่มื้อเดียว...ปรากฎว่าสั่งแค่นี้ก็อิ่มกันแล้ว....แต่ยังไม่ได้ลองอีกตั้งหลายเมนู..เลยต้องมาจัดอีกมื้อก่อนกลับกรุงเทพ
วันนี้ขอมารีวิวร้านซูชิฟู้ดคอร์ท แต่ความอร่อยระดับทองหล่อ กันนะครับ ร้านนี้ชื่อว่าร้าน "ไข่หวาน บ้านซูชิ" เป็นร้านซูชิเล็กๆขายอยู่ในศูนย์อาหารเมืองทองธานี ใกล้ๆตลาดต้นประดู่
เคยมากินครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นร้านมีแค่ล็อกเดียว เดินผ่านแล้วเอ๊ะใจทำไมคนมุ่งหน้าร้านกันเต็มเลย เลยขอลองแวะซื้อกินบ้าง ปรากฎคือเหมือนพบขุมทรัพย์ความอร่อยกลางเมืองทองเลยบร๊ะเจ้า...คือขายซูชิราคาระดับคำละ 10-15-20 บาท แต่พี่เขาปั้นซูชิหน้าตาออกมาเกินราคาที่ขายมากๆ
เพราะร้านนี้ ซูชิเขาหั่นปลาให้ชิ้นใหญ่กว่าข้าวญี่ปุ่น แบบไม่ใช่ว่าใหญ่ธรรมดา แต่มันคือหั่นปลาชิ้นใหญ่มาก ถ้าสั่งซูชิแบบ Nigiri หรือที่เป็นชิ้นปลาอยู่ท็อปด้านบนของข้าว จะเห็นเลยว่าปลาชิ้นใหญ่ระดับที่ว่าปลาปิดข้าวมิดเลย แต่ขายอยู่ที่คำละ 20 บาทเท่านั้น (ซึ้งถ้าไปเข้าร้านดังๆ คำนี้น่าจะ 30-40 อัพแน่ๆ)
มากินคร่าวนี้ พบว่าร้านได้ขยายขนาดมากขึ้นจากเดิมแค่ล็อกเดียว เพิ่มมาเป็น 2 ล็อก อยู่ในโซน A ของศูนย์อาหารเมืองทองธานี (Log A.07-08) ร้านเปิดตั้งแต่ 17.00 - 23.00 น. ทุกวัน ถามแล้วเดือนนึงปิดร้านแค่ 2 วันคือทุกวันอาทิตย์ที่ 2 และ 4 ของเดือน ที่เหลืออีก28วันขายตลอด
แก็งค์เราไปถึงร้านตอนประมาณ 5 โมงเศษๆ ร้านยังปั้นซูชิออกมาวางได้ไม่กี่ถาดเอง แต่ก็เริ่มมีลูกค้าขาประจำเข้ามารอคิว ตักๆคีบๆซูชิกันแล้ว เราก็เลยรอสักพัก ซูชิหน้าต่างๆก็เริ่มทะยอยออกมาวางบนถาด เต็มพื้นที่หน้าร้านทั้ง 2 ล็อก ลูกค้าทั้งขาประจำ และขาจร ก็เดินมาเลือกคีบซูชิกันตามสะดวก
วิธีสั่งอาหารร้านนี้ เวลามาถึงหน้าร้านแม่ค้าจะถามว่าจะทานที่นี้(คือทานในฟู้ดคอร์ท) หรือว่าจะกลับบ้าน ถ้าเราเลือกทานที่นี้ แม่ค้าจะส่งจานพลาสติกมาให้พร้อมที่คีบซูชิเป็นอาวุธประจำกาย1อัน ถ้าเราเลือกสั่งกลับบ้านแม่ค้าก็จะหยิบกล่องพลาสติกสีดำๆแบ่งเป็นล็อกๆมาให้พร้อมที่คีบ ก็เลือกคีบชิ้นที่ชอบได้เลย หรือถ้าจะสั่งเอาแซลมอซาชิมิ หรือปูอัดซาชิมิ ก็บอกแม่ค้าได้เลย เขาจะตักใส่จานมาให้
ราคาของปูอัดซาชิมิ อยู่ที่ชุดละ 39 บาท (พร้อมวาซาบิ+โชยุ)
ราคา Salmon Sashimi จะมี 2ราคา ชุดเล็ก(10ชิ้น) 130 บาท ชุดใหญ่(15ชิ้น) 180 บาท
ส่วนซูชิที่ร้านขายทุกอย่างจะขายเป็นคำๆ คำละ 10 -15-20 บาท อยากทานชิ้นไหนก็คีบได้เลย เอาที่ชอบ โดยทุกจานทางร้านจะให้ขิงดอง หัวไชเท้าขูดเป็นเส้นๆมาแก้เลี่ยน พร้อมกับวาซาบิและโชยุครบครัน
Sushi ที่นี้ส่วนใหญ่แบ่งเป็น 3 ราคา ซึ้งก็ขึ้นอยู่กับราคาของวัตถุดิบนั้นแหละ
Sushi คำละ 10 บาท จะเป็นพวกซูชิหน้าไข่กุ้ง ,ซูชิทูน่าไข่กุ้ง ,ทูน่าสลัด,ซูชิปูอัด,ซูชิหน้ายำสาหร่าย,ฟูโตมากิ อะไรประมาณนี้
Sushi คำละ 15 บาท จะเป็นพวกซูชิหน้ากุ้งแก้ว, ซูชิหน้าไข่หวาน, ซูชิหน้าปลาซาบะดอง, ไข่หวานแซนวิช, หน้ากุ้งแก้ว,หน้ากุ้งกิมจิ,หน้าหมึกซอสหวาน(ทาโกะจัง),หน้าสลัดหอยเป๋าฮื้อ,หน้าเอ็นหอยเชลล์กิมจิ
Sushi คำละ 20 บาท จะเป็นพวกซูชิหน้าแซลมอน, หน้าปลาทูน่า(มากุโร่), หน้าปลาไหลย่างซีอิ๊ว, แซลมอนโรล,โรลไข่หวาน,โรลปูอัด,หน้าแซลมอนสลัด (พวกคำละ20 บาทนี้ มีแต่หน้าที่ผมชอบๆทั้งนั้นเลย)
ส่วนหน้าที่แพงที่สุดของร้านนี้ก็คือ ikura sushi หรือซูชิหน้าไข่ปลาแซลมอนนั้นเอง คำละ 55 บาท (แต่ก็ให้เยอะจัดเต็มเหมือนกันนะถึงราคาจะสูงก็ตาม)
วันนี้แก๊งค์เราไปกัน 3 คนเลยตักซูชิมาทานกัน 2 จานเต็มๆ + แซลมอนซาชิมิชุดใหญ่ อีก 1 จาน คิดราคา3จานนี้รวมกัน 610 บาท หาร 3 แล้วตกคนละ 200 บาทเอง คุ้มค่าจริงๆ
คือที่ชอบร้านนี้เป็นเพราะว่า ผมเคยไปนั่งคำนวณราคา เวลาไปกินที่ร้านญี่ปุ่นแบบที่เป็นพวกซูชิบุฟเฟ่ต์หัวละ 399 -499 บาทกินได้ 90 นาที ไรงี้ เอาเข้าจริงๆเราสั่งมากินได้ไม่กี่คำเราก็อิ่มกันแล้ว 499 ที่จ่ายไป ถ้าเอามาหารเป็นต่อคำ บางครั้งเราว่ามาสั่งซูชิร้านนี้กินยังจะคุ้มซะกว่า
เพราะร้านซูชิบุฟเฟ่ต์ เขามักมีเวลาจำกัดให้เรา และบางร้านเขาก็เน้นไปที่ปลาแซลมอนอย่างเดียวไปเลย คือเอาแซลมอนมาทำเป็นเมนูSushiหลายๆอย่างให้ดูเหมือนมีให้เลือกหลายๆหน้า ส่วนปลาอย่างอื่นก็แทบไม่มีให้เลือกเลย และก็มีแค่พวกไข่หวาน ปูอัด มิโซะซุป ยำสาหร่ายเครื่องเคียงอีกนิด เท่านั้นเอง
สำหรับงวดนี้ก็เช่นเคย...หลังจากอิ่มอร่อยกันแล้ว...ก็สั่ง Salmon Sahimi กลับบ้านอีก 1 ชุดพร้อม Sushi อีก1 กล่องจัดเต็ม เอาไว้ฟินต่อเป็นมื้อเช้าพรุ่งนี้อีกมื้อ
เสียดายไกลบ้านไปนิดนึง....มาซื้อได้เฉพาะช่วงที่มาเดินงาน Expo ที่เมืองทอง ถ้าบ้านอยู่ใกล้ คงได้แวะบ่อยๆแน่นอน
หวัดดีคับ วันนี้จะมารีวิวร้านอาหารแหล่งชิลล์เอาท์ใหม่ สุดฮิป เปิดใหม่ในย่านเกษตรนวมินทร์กัน ร้านที่ว่าคือ "Mint Cafe by Peppermintfield" ร้านมินท์คาเฟ่ต์ นี้ตั้งอยู่ในซอยโยธินพัฒนา3 (ซอยเดียวกับร้านบ้านก้ามปู)
[พิกัดที่ตั้งของร้านมินท์คาเฟ่ต์]
จากถนนประดิษฐ์มนูธรรม(ถนนเลียบด่วนเอกมัย ) ก่อนจะถึง CDC ประมาณสัก300เมตร ให้เลี้ยวซ้ายเข้ามาในซอยโยธินพัฒนา3 เมื่อเจอปั้มบางจากเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง แล้วก็ขับตรงมาประมาณอีกสัก 500 เมตรจะเจอ Mint Cafe อยู่ด้านซ้ายมือ
เดิมพื้นที่ของร้านนี้ ด้านในคือสนามปั่นจักรยาน Peppermint Bike Park เป็นสนามให้เช่าพื้นที่สำหรับคนรักการปั่นจักรยานโดยเฉพาะ โดยเป็นเจ้าของเดียวกันกับ ยาดม Peppermint Field และยาหม่องเซียงเพียง นั้นเอง ตัวสนามปั่นจักรยานน่าจะเปิดมาได้ปีกว่าๆแล้ว
แต่ตอนนี้ด้านหน้า ได้เพิ่มตึกใหม่ขึ้นมา เป็นอาคารขนาดใหญ่พอควรความสูง 2 ชั้น ออกสีรมควันเข้มๆ ตกแต่งออกแนวยุโรป ดูสวยๆเก๋ๆไม่เบา เดินสำรวจรอบนอกร้าน มีโซนที่นั่งด้านข้าง เป็นโต๊ะเก้าอี้หวายพลาสติกสีน้ำตาลเข้ม เหมือนอยู่ในสวนขนาดย่อมๆ ถ้ามาช่วงเย็นๆแดดร่มลมโชย มุมตรงนี้น่าจะชิลล์ดี
ส่วนอีกโซนด้านหน้าร้าน มีโต๊ะเก้าอี้หวายเทียมสีขาวๆ ตั้งอยู่อีกหลายตัว ก็เหมาะสำหรับมานั่งทานข้าว จิบกาแฟ ชิลล์เย็นๆเช่นกัน ลองเข้าไปดูบรรยากาศภายในร้านกันต่อ ด้านในเป็นห้องแอร์ มีโต๊ะอาหาร วางเรียงรายอยู่เยอะเหมือนกัน บรรยากาศร้านออกสไตล์ Loft ดูเก๋ๆ ชิคๆ ออกสีแนวเอิร์ทโทน โดยมีจักรยานหลายคัน แขวนห้อยไว้อยู่รอบร้าน แต่ละคันดู Limited Edition มากๆท่าทางเจ้าของร้านจะรักจักรยานมากจริงๆ ถ้าให้เดาราคาแต่ละคันนี้น่าจะหลายหมื่นถึงเหยียบแสนขึ้นไปแน่ๆ พอดีผมไม่ใช่สายปั่นจักรยานซะเท่าไร เลยไม่ค่อยรู้ดีเทลตรงนี้มากนัก
การตกแต่งภายใน โดยรวมดูดีมากๆ เหมาะสำหรับการมานั่งชิลล์ๆจิบกาแฟ ทำงานเพลินๆ หรือมาสังสรรค์ทานข้าวกับเพื่อนพ้องก็น่าจะเหมาะมาก ลองแอบขึ้นไปดูที่ชั้น 2 เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ น่าจะเอาไว้สำหรับจัดงานเลี้ยง งานปาร์ตี้ อะไรได้ด้วย พื้นที่เยอะมากทีเดียว
มาเข้าเรื่องอาหารกันเลยดีกว่า วันนี้ชาวแก็งค์มากัน 3 คน อยากจัดอาหารอร่อยๆฟินๆเต็มเหนี่ยว เลยสั่งเมนูแนะนำไปหลายอย่าง
-ปลาหมึกทอด Fried Calamari [185 บาท]
จานแรกเรียกน้ำย่อยกันด้วยหมึกชุปแป้งทอด เป็นหมึกกล้วยชุปแป้งทอด ออกสีเหลืองอ่อนๆแล้วโรยด้วยผง สโมคปาปริก้า เสิร์ฟพร้อมกับดิปปิ้งทาร์ทาซอส
-ขาหมูเยอรมันทอด Pork Knuckle [385 บาท]
เป็นจานแนะนำของร้านมิ้นท์คาเฟ่ เลยต้องลองซะหน่อย ขาหมูเสิร์ฟมาจานใหญ่พอควรเลย หั่นมาให้เป็นชิ้นๆแล้วด้วย ไม่ต้องเหนื่อยแรง
1จานคือ1ขาเต็มๆเลย ได้รสสัมผัสที่ดีทีเดียว ตัวหนังกรอบเคี้ยวได้ง่ายๆ ตัวเนื้อด้านในนุ่มแน่นไม่เหนียวเลยคับ ขาหมูทอดของร้านนี้ เสิร์ฟมาพร้อมด้วยซาวเคร้า2สีมีกระหล่ำขาว+กระหล่ำม่วงดองจนได้รสเปรี้ยวกำลังดี น้ำจิ้มซีฟู้ดใส่ใบมิ้นต์ปั่นลงไปด้วย และอีกถ้วยเป็นแมสโปเตโต้
-หอยเชลซอสบัลซามิค Scallop Balsamic sauce [395 บาท]
หอยเชลล์นำเข้าตัวใหญ่ทีเดียว กริลล์จนสุกแล้ว เสิร์ฟมาบนซัลซ่าที่ปรุงผสมด้วยผักหลายอย่างพริกหวาน หอม มะเขือเทศ อะโวคาโด เม็ดสน เสิร์ฟพร้อมผักใบมีทั้ง ใบร็อกเก็ต กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เรดดิชิโอ ราดด้วยบัลซามิค
-เนื้อย่างจิ้มแจ่ว-ข้าวเหนียว Grilled Sirloin Chili dipped [385 บาท]
เป็นสเต็กเนื้อย่างสไตล์ไทยๆ แต่อร่อยเทพมากๆ โดยร้านใช้เนื้อออสเตรเลียส่วนสะโพกบน(แลมป์) ย่างให้สุกระดับมีเดียม สีเนื้อด้านในออกสีชมพูๆเรืองๆอยู่เลย ดูน่าทานมั๊กๆ ข้าวเหนียวนี้ก็นำพันธุ์มาจากเชียงรายเพื่อมานึ่งเสิร์ฟในร้าน นุ่มอร่อยจริงๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว รสชาติแบบสุดๆไปเลย
- เบอร์เกอร์เนื้อ Charcoal Beef Burger [255 บาท]
เป็นเบอร์เกอร์ชาร์โคลสุดฮิต ข้างในเป็นเนื้อบดจากส่วนสะโพกโคขุน หมักด้วยโรสแมรี่ หอมใหญ่ พริกไทยนำไปย่างจนสุกหอม ใส่เชดด้าชีส พร้อมซอสมัสตาร์ดการ์ลิค ในเซ็ทจะเสิร์ฟพร้อมกับ Wedge Fried โรยผงปาปริก้านิดนึงอร่อยดี และซอสทาร์ทาร์ ไว้จิ้มกินเพลินๆ
- พาสต้า CEO (Pasta CEO -Aglio Olio) [255 บาท]
พาสต้าซีอีโอ จานนี้เขาบอกว่ามาจากเจ้าของร้านชอบทานสปาเก็ตตี้มากๆ จึงคิดสูตรส่วนผสมเมนูนี้ขึ้นมา เส้นสปาเก็ตตี้ต้มแบบ Al dente คือข้างนอกเหนียวนุ่ม พอกัดเข้าไปด้านในยังได้ความกรึบๆของเส้นอยู่ ซึ้งต้องใช้ประสบการณ์ของคนต้มเส้นให้ได้ระยะเวลาที่เหมาะสม
ส่วนประกอบในจานที่เห็นจะมีกุ้งกะหมึกเป็นหลัก แต่เด่นที่เครื่องปรุง มีทั้งมะกอกดำ พริก กระเทียม เบซิล โขกรวมกันจนได้ซอสที่มีความเข้มข้นและอร่อยลงตัว เผ็ดติดปลายลิ้น
-ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สูตรคุณแม่ (Mom's Kua gai noodle) [95 บาท]
เป็นเมนูทานง่ายๆอีกจานของร้าน เส้นใหญ่เหนียวหนับกำลังดี ใส่ไก่ชิ้นใหญ่ พร้อมผักกาดหอม ทางร้านบอกเมนูผัดๆของร้านนี้ทั้งหมดจะใช้น้ำมันคาโนล่าออยท์ เพื่อสุขภาพอีกด้วย
[Dessert]
-กล้วยหอมทอด (Goldenbrown fried banana) [85 บาท]
กล้วยหอมสุกกำลังดี ชุปแป้งทอด แล้วราดน้ำผึ้งหอมหวานกำลังดี โรยด้วยไอซิ่งอีกนิด และมีเกล็ดน้ำตาลรสใบเตย(สีเขียวอ่อนๆ) โรยมาด้วย ให้รสสัมผัสกรุบๆเวลาเคี้ยว ตัวแป้งที่ชุปค่อนข้างเบา กินแล้วรู้สึกได้ว่าเขาชุปมาไม่หนาจนเกินไป
-Mint Cafe Triple Sorbet with Waffle [135 บาท]
ขนมหวานซิกเนอเจอร์ของทางร้าน เพื่อให้เข้ากับร้านมินต์คาเฟ่ต์ ของหวานจานนี้คือมีกิมมิคอยู่ที่ไอศกรีมโฮมเมดที่ใส่ส่วนผสมของใบมิ้นท์ลงไปด้วย
เป็นไอศกรีม 3 ลูกที่ทางร้านทำขึ้นเอง เป็นโฮมเมดไอศกรีม รสเชอร์เบททั้ง 3 ลูก ได้แก่เลมอนฮันนี่ สตรอเบอร์รี่ และเสาวรส ผสมมิ้นต์ลงไป ทางร้านบอกเราว่าทำไอศกรีมขึ้นมาเองเลยไม่ได้ใส่สารให้ความคงตัว เลยเห็นว่ามันจะค่อนข้างหลอมเร็วมาก (ซึ้งปกติโรงงานทำไอศกรีมจะใส่สารให้ความคงตัว เป็นFood Additiveอย่างนึงที่ใช้ในเชิงอุตสาหกรรม เพื่อให้เวลาตักไอติมมาเป็นลูกๆแล้ว มันยังคงสถานะอยู่ได้นาน..เอ่อ...จบฟู้ดซายน์มาก็งี้ รู้อะไรมาก็อยากบอก^^)
โดยมีวัฟเฟิลเป็นฐานอยู่ด้านล่าง วางไอติมเชอร์เบททั้ง3ลูกโป๊ะข้างบนพร้อมลูกสตรอเบอร์รี่และบลูเบอร์รี่ โรยไอซิ่งนิดนึง เมนูนี้สาวๆมาต้องกรี๊ดแน่นอน
-Affogato 135 บาท
กาแฟเอสเพรสโซช็อต พร้อมไอติมวนิลลา *เมนูนี้ถ้าตัวเอสเพรสโซช็อต คัดเลือกเมล็ดที่คุณภาพดีมาทำ เมื่อเทราดลงบนไอติมวนิลลา มันจะได้รสชาติที่อร่อยลงตัวจริงๆ ซึ้งที่ร้านนี้ทำให้เราได้อร่อยไม่ผิดหวัง ลืมถามไปว่าเป็นกาแฟคั่วบดของแบรนด์อะไร มาจากไหน?
คร่าวหลังลองแวะมาสั่งกาแฟร้อนทานอีกดีกว่า เพราะดูแล้วใช้กาแฟดีจริงๆ
[Drinks]
เครื่องดื่มของที่ร้านมิ้นท์คาเฟ่ต์ ไฮไลน์จะอยู่ที่การคิดใส่ส่วนผสมใบมิ้นท์ลงไปในหลายๆเมนูของร้าน เราเลยสั่งเมนูซิกเนเจอร์ของร้านมาลองกันหลายแก้วเลย
1. Mint Fizz มินท์ฟิซ เสาวรสปั่น [75 บาท]
เป็นเครื่องดื่มเสาวรสปั่นมีส่วนผสมของใบมิ้นท์ ทุกแก้วในตระกูล Mint Fizzจะใส่ใบมิ้นต์ เพื่อให้คงคอนเซ็ปของร้าน รสออกเปรี้ยวๆหวานๆ ดื่มแล้วสดชื่นดี เสิร์ฟมาในแก้วมัค ท็อปปิ้งด้านบนด้วยลูกเสาวรสสดพร้อมใบมิ้นต์ดูกิ๊บเก๋ดี
2. มะนาวโมฮิโต้ Lime Mint-cooler Mojito [85 บาท]
มีน้ำตาลทรายแดงเป็นฐานด้านล่าง คั่นมะนาวใส่ผสมโซดาและใบมิ้นต์ แก้วนี้เปรี้ยวๆซ่าๆ สดชื่นมากทีเดียว กว่าจะได้ถ่ายทิ้งไว้นานไปนิด เลยเริ่มนอนก้นนิดหน่อย
3.Mint Fizz มินท์ฟิซ ลิ้นจี่ปั่น [75 บาท]
เป็นอีกแก้วในตระกูลMint Fizz ประกอบด้วยโซดา+มะนาว+ลูกลิ้นจี่ปั่นรวมกัน ท็อปด้านบนด้วยลิ้นจี่อีก1ลูก
4.Mixology Green Apple (Perrier) [170 บาท]
อีกเครื่องดื่มรสชาติแตกต่าง โดยการผสมSparkling Mineral water ของ Perrier กับน้ำหวานรสผลไม้+ใส่เนื้อผลไม้ลงไปด้วย แก้วนี้เป็นแอปเปิ้ลเขียว ให้รสเปรี้ยวซ่า สดชื่น (แต่ราคาแอบสูงไปนิด ก็เปอริเอ้นิเนอะ)
ตัวเลขราคาอาหารของร้านนี้รวมแวตไปแล้วนะคับ แต่ว่ายังไม่รวม +10% Service Charge
มาแวะอีกแล้ว ที่ร้าน "ไข่หวานบ้านซูชิ" (ศูนย์อาหารเมืองทองธานี) ซูชิคุณภาพดีในราคาสบายกระเป๋าที่ทำให้เราประทับใจกันไปในคราวที่แล้ว มาคราวนี้ร้านเขยิบมาอีกหน่อยแล้วขยายเป็นสองล็อค A07-A08 ขอบอกเลยว่ามีเมนูใหม่ๆเพิ่มขึ้นหลายเมนู แต่ละเมนูรสชาติไม่ธรรมดาแน่นอนครับ
เมนูเด็ดของร้านนี้คงหนีไม่พ้นซูชิที่ทำจากปลาแซลมอน เพราะใช้แซลมอนนำเข้าจากนอร์เวย์ สด ไม่มีกลิ่นคาว มีให้เลือกทั้งซูชิหน้าปลาแซลมอนที่หั่นชิ้นปลามายาวมากๆ หรือท่านไหนชอบแบบซาชิมิก็มีให้ทานนะครับ แต่ที่ขอแนะนำเลยคือ เมนูน้องใหม่ ซูชิท้องปลาแซลมอนเบิร์น ที่นำท้องปลาแซลมอนมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม เบิร์นจนสุกหอม ชิ้นนี้จะได้ทั้งรสชาติเข้มข้นจากน้ำมันที่ท้องปลา กับความสดชื่นจากข้าวซูชิ อร่อยมากๆครับ
เมนูอื่นๆก็เด็ดไม่แพ้กันนะครับ แซนวิชไข่หวาน ที่เป็นไข่หวานชิ้นโตสอดไส้ด้วยไข่กุ้งและมายองเนส ซูชิหน้าเป๋าฮื้อ ที่นำเป๋าฮื้อหั่นเต๋าคลุกเคล้ากับน้ำสลัด อร่อยหนุบหนับดีครับ มากิหน้าไข่ปลาบิน ท่านใดชอบไข่กุ้ง ขอแนะนำให้ลองไข่ปลาบินนะครับ เม็ดใหญ่กว่า เคี้ยวกรุบๆ ได้กลิ่นหอมของน้ำทะเลครับ
อันนี้ยังไม่หมดนะครับ ทึ่ร้านไข่หวานบ้านซูชิยังมีซูชิอีกมากมายหลายเมนูให้ท่านได้ลิ้มลอง ท่านใดชอบทานซูชิ แล้วอยากจะลิ้มลองซูชิคุณภาพดีในราคาสบายกระเป๋า ห้ามพลาดร้านไข่หวานบ้านซูชินะครับ
เพื่อนพี่น้องท่าใดสนใจลองไปอ่านรีวิวเต็มๆ ได้ที่
http://goo.gl/QOHUkG
ขอบคุณครับ
พอดีว่าหนูต้องทำโปรเจคอยากจะถามว่าเมนูของร้านมีอะไรบ้างหรอค่ะ