All reviewing comments
Search for comments
ร้านนี้ถือว่าอร่อยกว่าซูชิตามร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปครับ เนื้อปลาสรชาติดีมาก แต่วันที่ผมไปทานนั้นผมรู้สึกว่าข้าวแข็งไปนิดนึงครับ โดยรวมให้ผ่านครับ!
หน้าร้านก็สวยดีค่ะ
unbelievable time at this awful place, the rudest Japanese lady i have ever had the misfortune to meet and she was the owner!! i was polite,well dressed and i don't drink,so no idea why she was so rude.avoid!!
ได้คูปองลดราคามาเลยมาลองครับ ห้องคาราโอเกะบวกอาหาร อาหารที่นี่รสชาติดีมาก เป็นแนว
อาหารไทยที่แปลกๆ ไม่เหมือนร้านอื่นนิดนึง เช่น กุ้งเมืองลับแล ส้มตำยอดมะพร้าวหมูกรอบ อาหาร
ส่วนมากอร่อยประทับใจดีคับ ราคาก็อยู่ที่ประมาณจานลt100 กว่าถึง 300คับ (300 จะเป็นพวกปลา
เป็นตัวๆ ซะมาก)
อาหารที่เค้าแนะนำในเมนู เท่าที่สั่งมาก็อร่อยทุกอย่างเลยนะคับ
แต่ส่วนห้องคาราโอเกะ ระบบผมว่ามันยังไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ ไม่มีรีโมทใช้เลือกเพลง ต้องไปกดจอ
สัมผัสเอา และไมค์ก็เสียงเบา และบางทีหอนไปหน่อย เลยขอหักคะแนนบรรยากาศลง 1 ดาวคับ
ส่วนบรรยากาศในส่วนร้านอาหารนอกห้องคาราโอเกะ ผมว่าสวยดูดีเลยทีเดียว ออกแนวทางเหนือๆ
หน่อย แล้วก็มีวงดนตรีเล่นด้วย (แต่ไม่ได้ฟังเลย นั่งร้องเกะในห้องอย่างเดียว - -')
สรุปคือ ประทับใจอาหาร ส่วนห้องเกะยังเฉยๆ แต่ก็ไม่ถึงขั้นแย่ เรียกว่ากลางๆคับ
การเดินทาง ถ้าเข้าห้าง Esplanade ร้านจะอยู่หลังห้างเลยคับ เดินออกประตูหลังห้างก็เจอเลย
หรือถ้าขับรถ จะมีซอยที่อยู่ก่อนตัวถึง Esplanade คับ มีป้ายอยู่เลี้ยวเข้าไปเลย มีลานจอดรถกว้างดี
โดยรวมผมชอบครับ หักคะแนนเรื่องขนาดของห้องและคุณภาพเครื่องเสียงครับ
เคยได้ยินชื่อเสียงร้านนี้จากเพื่อนว่ามีร้านสวยมากหยั่งกับร้านเค้กสวยๆ
แต่ขายอาหารไทยอีสานซะงั้นที่ธัญญะ...ตอนนี้ร้านนัวนัวนี้ย้ายมา
เปิดที่ Mega bangna แล้ว ได้ฤกษ์ไปจัดซะที...
ร้านนัวนัวตั้งอยู่ใกล้ๆ กับโซนIKEA ครับ...เดินมาโซนoutdoor นิดหน่อยเจอร้านละ
หน้าร้านครับ มีสวน สะพานเล็กๆน่ารัก และเก้าอี้สำหรับนั่ง outdoor ถ้าอยากชิลล์จัดเชิญได้ครับ
เข้าร้านไปก็โอว จัดตกแต่งเพ้นท์ห้องสี่เหลี่ยมไม่ใหญ่เท่าไหร่ รองรับได้8-9โต๊ะได้สวยงามมีสไตล์ดีครับ
ส่วนเรื่องอาหรที่ได้ลองสั่งไปก็มี...
-ลาบหมูคุโรบูตะ ราคา ๑๒๐ บาท ครับลาบหมูอีสานแท้แต่เพิ่มรสชาติจากหมูธรรมดาเป็นหมูคุโรบูตะ
ทางร้านรับมาเป็นชิ้นใหญ่แล้วนำมาสับเองด้วยมือเพื่อเพิ่มเท็กซเจอร์เวลาเคี้ยว ไม่มีมัน
ปรุงรสเปรี้ยวเค็มเผ็ดลงตัว หอมข้าวคั่วพริกคั่วที่เชฟคั่วเองใหม่ๆทุกวัน ทานคู่กับผักสดเพื่อสุขภาพ
-ส้มตำปลาแซลมอน จานนี้ราคา๒๐๐บาทครับ ส้มตำไทยรสชาติจัดจ้านแบบอีสานแท้ๆดูสะอาดน่าทาน
มากจานยังดีไซน์มาเอียงๆให้น้ำไหลมาได้ซดกันแซ่บๆอีกตังหาก มะละกอกรอบมากๆ ถั่วฝักยาว
มะเขือเทศก็สดใหม่ บนส้มตำวางมาด้วยทางร้านบอกว่าปลาแซลมอนสดส่งตรงจากนอร์เวย์
เนื้อนุ่มไม่มีกลิ่นคาว กินส้มตำแซ่บๆพร้อมกับปลาแซลมอนมันๆ ฟินนนนน
-ปีกไก่ทอดสมุนไพร ราคา ๑๒๐ บาท ปีกไก่หมักแบบเค็ม ทอดพร้อมกับสมุนไพรไทย ตะไคร้ ใบมะกรูด
หนังกรอบอร่อย เนื้อนุ่มร่อนออกจากกระดูก รสชาติเค็มนิดๆ ทานกับข้าวเหนียวอร่อยมากๆ
-ไข่เจียวนัวนัว ราคา ๘๐ บาทครับ ไข่เจียวสูตรคุณแม่ของทางร้าน ทอดมาได้น่าหม่ำมากข้างในฟูนุ่ม
กัดแล้วได้รสชาติน้ำซุปหอมๆ ข้างนอกเหลืองทองหอมกลิ่นไข่ ทานเปล่าๆก็อร่อย ทานกับซอสพริก
ก็เข้ากันดี ตัวไข่เจียวมาเป็นก้อนกลมๆเลย ถามเชฟแล้วเชฟบอกว่าใช้กระทะทอดไม่ได้ใช่หม้อ
สอบถามวิธีทำมาเลยทราบว่าไม่ได้ใช้เครื่องตีไข่แต่ตีด้วยมือ สุดยอดจริงๆ
-ผัดหมี่โคราช ราคา ๗๐ บาท ผัดหมี่แบบดั้งเดิมของไทย ร้านนัวนัวใช้เส้นจันทน์แท้ๆผัดกับน้ำซอสสำหรับ
ผัดหมี่โคราช ที่เป็นสูตรลับของเชฟเอง รสชาติออกเผ็ดนิดๆจากพริกแห้งป่น (ซึ่งเชฟบอกว่าเป็นหนึ่งใน
ส่วนผสมของน้ำปรุงหมี่โคราช) ใส่กุยช่ายและถั่วงอก ซึ่งถั่วงอกนี้ก็จัดการเด็ดหัวเด็ดรากทิ้งออกจนหมด
เหลือแต่ต้นถั่วงอกขาวๆ (เชฟที่ร้านนัวนัวทำงานละเอียดจริงๆ) รสชาติผัดหมี่เข้มข้นกลมกล่อม
ติดใจเลยจานนี้อยากเบิ้ลมากๆแต่สั่งอาหารมาเยอะแล้ว แน่นพุงกันถ้วนหน้า
ส่วนพวกเครื่องดื่มจัดพวกน้ำตะไคร้ น้ำมะตูมมาแก้วละ ๖๐ บาท ไม่ถูกเท่าไหร่แต่ก็หอมอร่อยฟินอยู่ครับ
สรุปก็ฟินๆพุงตึงๆกันไปทั้งกรุ๊ป เพื่อนพี่น้องคนไหนอยู่โซนนั้นหรือไปเมกะบางนา IKEA แล้วอยากลอง
อาหารอีสานพรีเมียมๆสะอาดๆ อร่อยๆ ก็ลองไปดูกันได้นะครับ
ตอนที่ไปเป็นช่วงGrand Opening ของร้าน ร้านเลยค่อนข้างวุ่นวาย ระบบรับออเดอร์ต้องปรับปรุงอย่างแรงงง ออเดอร์ผ่านไอพอตของเธอว์กิ็บเก๋แต่ มั่วมว็ากกก ><''
ส่วนเรื่องอื่นๆดูดาวที่ให้ได้เลย
ได้ข่าวว่ามีร้านเปิดใหม่ใกล้ที่ทำงานจากFB Kinnshare แถมมีPromotion Grand Openingลด 50% (เดิมเป็น1แถม1) ในวันฝนตกพรำจึงลากGangที่ทำงานไปถล่ม ^^
ออเดอร์ทั้งหมดก็มีไม่กี่อย่างเพราะไปกินกันสามคน ก็แค่ ชุดเนื้อกะทะร้อน ชุดไก่เทปันยากิ หมูคัตสึเคอร์รี่ ซาชิมิทูน่าและแซลม่อน อาเงะเกี๊ยวซ่า หอยแมลงภู่ผัดกระเทียม แซลมอน2รอบเพราะเทพมาก :)
เริ่มกันเลยนะครับ แซลม่อนนั้นรสชาติดีมาก เนื้อปลาชิ้นหนา มีความหวานตามธรรมชาติ และชุ่มฉ่ำ รสสัมผัสดีมาก ทำให้ถึงกับต้องสั่งเพิ่มอีกจานโดยมติเป็นเอกฉันท์
ส่วนทูน่าไม่โอเลย เหนียวอีกต่างหากเพราะหันส่วนที่มีเหมือนพังผืดมาให้ ไม่ประทับใจครับ
เซตเนื้อกะทะร้อนคุณภาพเนื้อปานกลาง มีเหนียวอยู่บ้าง ปริมาณโอเค รสชาติติดหวานมากไปหน่อย ซุปมิโสะรสชาติดีมากก กลมกล่อมลงตัว กิมจิเปรี้ยวแหลมเกินไป ><
หอยแมลงภู่ผัดกระเทียม ตัวใหญ่พอสมควรเลย รสชาติโอเค จานนี้เพลินดีครับ
ส่วนเกี๊ยวซ่าเป็นแบบกรอบ รสชาติก็อร่อยตามมาตรฐานครับ
ส่วนชุดไก่เทปปันเพื่อนบอกรสชาติปานกลางครับ ส่วนแกงกะหรี่หมูทอดรสชาติยังไม่ถึงครับ(ผมดูจากสีเหลืองอ่อนๆก็พอจะเดาได้ ^^')
เรื่องบรรยากาศก็ปานกลางครับ วัสดุตกแต่งร้านดูด้อยไปนิดนึงครับ ส่วนเรื่องบริการไม่ต้องพูดถึงสำหรับช่วงGrand Opening รับออเดอร์ช้า ได้ของช้า ส่งผิด เป็นปกติครับ :)
สรุปร้านนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ครับ อาหารเมนูหลากหลาย ตั้งแต่ราเม็ง ปลาดิบ จนไปถึงอาหารเซตด้วยราคาปานกลาง ใครยังไม่เคยไปแนะนำให้ไปลองดูครับ ^^
วันนี้ขอมารีวิวร้านคาเฟ่น่ารักๆ สไตล์มินิมอล เจแปนนีส ร้าน Nikko Cafe (นิกโกะ คาเฟ่) อยู่ที่ซอยเอกมัย12
พิกัดของร้านนิกโกะ คาเฟ่ เอกมัย
ร้านจะอยู่ในซอยเอกมัย12 ถ้ามาจากเส้นสุขุมวิท ก็วิ่งเข้าซอยสุขุมวิท63 ตรงมาเรื่อยๆ สังเกตุขวามือเจอซอยเอกมัย12 ก็เลี้ยวเข้ามา ขับตรงมาอีกประมาณ 300 เมตร ร้าน Nikko Cafe จะอยู่ด้านขวามือ เป็นร้าน2ชั้น
ตอนนี้ถนนหน้าร้านขยายมากขึ้นเป็น 3-4 เลนแล้วด้วย เมื่อก่อนถนนจะแค่2เลนเท่านั้น ร้านนิกโกะก็ปิดร้านไปรีโนเวทใหม่ พร้อมๆกับถนนหน้าร้านไปพร้อมกัน
ถ้าขับรถมาที่ร้านก็สามารถจอดรถหน้าร้านได้เลย บริเวณหน้าร้านจอดได้ 6-7คัน แต่ถ้าโซนหน้าร้านเต็ม ก็สามารถไปจอดริมถนนถัดจากร้านได้ มีพื้นที่ว่างเยอะเลยจอดได้อีก8-9คันสบายๆ
[Decor]
สไตล์การตกแต่งของร้านนิกโกะ คาเฟ่ จะเป็นแบบ Minimalist Japanese Style คือเรียบง่าย แต่ดูดีในสไตล์ญี่ปุ่น เน้นเฟอร์นิเจอร์เป็นไม้สีโอ๊คธรรมชาติ ให้Mood&Tone ดูอบอุ่น นั่งชิลล์ รอบๆร้านมีต้นไม้เยอะ ภายในร้านก็มีสวนต้นไม้ขนาดย่อมๆอยู่ เลยทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากๆ มีโซน Outdoor เป็นโต๊ะเก้าอี้หวายท่ามกลางต้นไม้เขียวๆ น่านั่งดี // มีห้องกระจกเล็กๆมีโต๊ะอยู่ 2-3 ตัวมุมนี้ก็มานั่งเมาส์มอยกับเพื่อนได้เช่นกัน แต่ถ้าอยากได้ความสงบหน่อยมีโซนชั้น2ของร้าน จะมีห้องแอร์ไว้นั่งทำงาน อ่านหนังสือ พร้อมจิบกาแฟได้ / และก็มีโซน Outdoor ชั้น2 เป็นโซฟาหนังพร้อมหมอนใบใหญ่ บรรยากาศดูโล่งสบาย พร้อมทิวทัศน์รอบข้าง
เนื่องจากตัวร้านมีหลายโซนให้เลือกนั่งได้ ทำให้เหมาะสำหรับคนที่จะมาที่นั่งทำงาน, มานั่งคุยกับเพื่อน ,มานั่งอ่านหนังสือ, หรือถ้าค่ำๆหน่อยก็มานั่งแฮงค์เอ้าท์กันได้ยาวๆ
[Food]
มาเข้าเรื่องอาหารกัน ร้านนี้ตอนแรกเปิดเป็นร้านกาแฟมาก่อน จึงมีเครื่องดื่มประเภทกาแฟและชา ครบครัน และตอนนี้มีอาหารจานเดียวเพิ่มขึ้นมาหลากหลายชนิดทีเดียว เช่นสปาเก็ตตี้ สลัด ข้าวหน้าญี่ปุ่นแบบต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารจานเดียวแบบทานง่ายๆในราคาไม่แพงนัก
วันนี้กรุ๊ปเราก็ทะยอยสั่งของกินมาลองทานกันหลายๆแบบ ดังนี้
- Chicken Nanban Tartar Sauce (Open Sandwich) 170 บาท
ร้านเรียกว่าโอเพ่นแซนวิช ดูจากหน้าตาที่เสิร์ฟมาเลยขอเดาว่าเป็นแซนวิช ที่มีขนมปังมาด้านเดียว (ไม่ได้ประกอบ2ด้านเหมือนแซนวิชทั่วๆไป) โดยมีไก่ทอดชิ้นโตอยู่ข้างบน พร้อมราดทาร์ทาร์ซอสมาด้วย มีผักสลัดพวกกรีนโอ๊ค เรคโอ๊ค และฟิลเล่ย์พร้อมราดน้ำสลัดงาคั่วแบบญี่ปุ่น
ใช้มีดหั่นๆ ทานกินคู่กันทั้งเนื้อไก่+ขนมปัง แกล้มด้วยผักสลัด รสชาติเข้ากันดีทีเดียว จานนี้มาทานเป็น Breakfast ยังได้เลย
- 3 Days ago Ribs (หมู3วัน) 175 บาท
เมนูชื่อแปลกนี้ ได้การันตีจากรายการ The Dish เมนูทอง ช่องเวิร์คพ้อยท์มาด้วย เป็นซี่โครงหมูที่หมักนานถึง3วัน ก่อนนำมาอบเสิร์ฟให้ลูกค้า ทำให้เนื้อหมูนุ่มมาก แค่ปาดมีดลงไปเบาๆ เนื้อหมูก็ร่อนออกจากกระดูกซี่โครงแล้ว สมคำล่ำลือจากทางรายการ
เสิร์ฟมาพร้อมผักสลัดกรีนโอ๊คและใบฟิลเล่ย์เช่นเคย พร้อมมะเขือเทศซัลซ่า เมนูนี้อร่อยแย่งกันทาน แป็ปเดียวหมด จนต้องสั่งกลับบ้านอีก 2 ชุด [จานนี้แนะนำคับต้องมาลองกัน]
- Spaghetti Pesto Bacon 200 บาท
ต่อกันด้วยสปาเก็ตตี้เพสโต้เบคอน เส้นสปาเก็ตตี้ลวกมาสุกแบบอัลเดนเต้ มีความหนึบๆกรุบๆอยูด้านในนิดๆ คลุกเคล้ากับซอสโหระพา และมีเบคอนชิ้นใหญ่ๆ ให้มาเยอะพอสมควร ตัวซอสเพสโต้ทำออกมาได้ค่อนข้างดี หอมกลิ่นโหระพาและน้ำมันมะกอกกำลังดี
- Teriyaki Chicken Salad 180 บาท
สลัดผักพร้อมไก่ย่างเทริยากิ ขอบอกเลยว่า ไก่นุ่มมากๆ แถมชิ้นใหญ่อีกด้วย ตัวซอสเทริยากิเข้าถึงเนื้อในกำลังดี กินพร้อมกับผักสลัดหลากหลายชนิดทั้งกรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค ฟิลเล่ย์ มะเขือเทศราชินี ผักกาดแก้ว ราดมาด้วยน้ำสลัดงาซีอิ๊วญี่ปุ่นออกรสเปรี้ยวๆ ตัดรสชาติของไก่ย่างได้ดีทีเดียว จานนี้แนะนำเลยต้องมาโดนกัน
- Taco Rice 200 บาท
เห็นชื่อแปลกๆ ลองสั่งมาทานดู ออกแนวฟิวชั้นอาหารแม็กซิกันผสมญี่ปุ่น คือชั้นล่างสุดเป็นข้าวแบบญี่ปุ่น ถัดขึ้นมาเป็นหมูปรุงรสกับเครื่องเทศสไตล์แม็กซิกัน ถัดมาอีกชั้นเป็นชีสขูด ด้านบนสุดเป็นมะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นๆ เวลาทานจะตักลงไปให้ได้ส่วนประกอบมาทั้ง 4 อยู่ผสมกันเลยก็ได้ หรืออยากจะคลุกเคล้ากันแล้วค่อยทาน ก็ตามแต่ความชอบ ส่วนตัวว่าแปลกดีเมนูนี้ แต่ถ้ามาสั่งเมนูนี้จานเดียว จะออกติดรสเลี่ยนไปหน่อย...อยากแนะนำทางร้านให้เพิ่มผักบางตัวหรือวัตถุดิบบางอย่างที่ตัดรสชาติมาช่วยเติมในเมนูนี้หน่อย...น่าจะดีขึ้น..... ลืมบอกไปจานนี้เสิร์มาพร้อมกับน้ำซุปมิโสะ ด้วยอีก 1 ถ้วย ซุปมิโสะสูตรของร้านนี้แปลกกว่าทั่วๆไปคือใส่เผือก หั่นเป็นเต๋าลูกเล็กๆใส่ลงมาด้วย
[Drinks]
เครื่องดื่มเราก็สั่งมาลองกันหลายแก้ว ส่วนตัวคิดว่าที่นี้มีซิกเนเจอร์เจ๋งๆที่เป็นเครื่องดื่มหลายตัวเลย ทำออกมาได้มีเอกลักษณ์ของร้านมากๆ
- Iced Caramel Macchiato 125 บาท
แก้วแรกเป็นกาแฟคาราเมล มัคคิเอโต้ รสชาติกาแฟเข้มข้นกำลังดี
- Apple Mint Soda 100 บาท
แก้วนี้น้องสั่งมา ผมไม่ได้ชิม แต่ตกแต่งสวยงาม มีชิ้นแอปเปิ้ลฝ่านใส่มาด้วย น่าจะสร้างความสดชื่นได้ดีทีเดียว
- Cold Brew Sencha 125 บาท
เป็นชาเซนชะแบบสกัดเย็น ตัวแนะนำของทางร้านที่โชร์อยู่ในตู้กระจกตรงเคาเตอร์ ลองสั่งมาชิมดู เสิร์มาแบบเก๋ไก๋ดูดีทีเดียว มาพร้อมแก้วน้ำแข็งที่ใส่เลมอนฝ่านมาให้ รินชาลงแก้ว เวลาดื่มได้รสชาติชาเซนชะพร้อมหอมกลิ่นเลมอน สร้างความสดชื่นได้มากทีเดียว
ในตระกูล Cold Brew ยังมีให้เลือกเป็น Black Coffee และ Milk Coffee ไว้วันหลังค่อยไปลองตัวอื่นๆอีกที
- Passionfruit Tea 150 บาท
เป็นชาที่ทำจากเสาวรส เสิร์ฟใส่แก้วทรงกลมๆเตี้ยๆหน่อย พร้อมฝ่านผลเสาวรสที่มียังมีเนื้อและเมล็ดติดมาด้วยส่วนนึง เสียดายแก้วนี้ผมไม่ได้ชิม
ต่อกันที่หมวด [Nikko Signature] ของร้านเป็นตระกูลที่ผมว่า ต้องสั่งเลยถ้ามาที่ร้านนี้
- The Chocolate (Frappe) 160 บาท
คือหมวดนิกโกะ ซิกเนเจอร์ของร้าน เขาจะตั้งชื่อเป็น The Chocolate , The Coffee อะไรแบบนี้ แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะสั่งแบบ Hot , Cold , Frappe อย่างแก้วแรกนี้สั่ง The Chocolate Frappe ก็มาเป็นโกโก้ปั่น ราดซอสช็อคโกแลตไว้ที่ฐานแก้ว แล้วเพิ่มวิปครีม ท็อปด้วยช็อคชิพอีกเล็กน้อย แก้วนี้คนรักช็อคโกแล็คห้ามพลาดที่เดียว รสชาติดี ดูดไปเคี้ยวไปด้วย
- The Coffee (Hot) 130 บาท
นิกโกะซิกเนเจอร์ ตัวที่เป็นกาแฟ น้องสั่งมาเป็นแบบร้อน เสิร์ฟมาพร้อมมาร์ชเมลโล่ด้วย (ส่วนตัวชอบวิธีการพรีเซนเตชั่นและการจัดวาง) ของทางร้านมากๆ เลือกภาชนะและวิธีการเสิร์ฟมาแบบที่เรียกว่าเป็นใคร ก็ต้องยกมือถือมาถ่าย Snap ภาพไว้ก่อนกินแน่ๆละ
- The Matcha (Cube) 165 บาท
แก้วสุดท้ายในตระกูลนิกโกะซิกเนเจอร์ที่สั่งมา ขอลองแบบชาเขียวบ้าง เป็นอีกแก้วที่มีกิมมิคในการทานเช่นกัน คือเป็นมัทฉะที่เอาไปทำเป็นน้ำแข็งก้อนๆ แล้วก่อนทานเราก็เทราดด้วยชาเขียวนม ปล่อยให้ละลายสักนิดแล้วค่อยทาน
ตัวก้อนๆมันมีหลายๆสี ผมไม่แน่ใจว่าสีก้อนออกส้มๆและเขียวอ่อนคืออะไร แต่ผมได้ลองกินก้อนสีเขียวเข้มไป มันคือมัทฉะเข้มข้นมากๆ เป็นอีกแก้วที่ชอบกิมมิคในการนำเสนอของร้านนี้
[Desserts]
มาต่อที่หมวดขนมหวานกันบ้าง วันนี้สั่งมาลอง 3 เมนูคือ
- Belgian Chocolate Raspberry Lava 200 บาท
ช็อคโกแลตลาวา ที่มีไส้ในเป็นซอสราสเบอร์รี่ เสิร์ฟมาพร้อมไอติมอีก1สกู๊ปและวิปครีม ปกติไอติมที่เสิร์ฟมาจะเป็นวนิลลาแต่เราก็สามารถสั่งเปลี่ยนรสชาติเป็นอย่างอื่นได้นะ อร่อยกำลังดี เสียดายนิดที่ว่าซอสราสเบอร์รี่ภายในมันหนืดไปหน่อย เลยไม่ไหลเยิ้มออกมาให้เห็น
- French Toast with Ice Cream 180 บาท
หน้าตาดูดีมาก เป็นขนมปังชุปไข่นำไปปิ้งบนกระทะ หั่นออกมาเป็นแท่งๆ จัดเรียงมาแบบในรูป มีไอศกรีมคุกกี้แอนด์ครีมใส่ไว้ตรงกลาง พร้อมสตรอเบอร์รี่สดหั่นจัดวางให้สีตัดกันเล็กน้อย โรยด้วยไอซ์ซิ่งให้ฟิลลิ่งเหมือนหิมะ เสิร์ฟพร้อม Maple Syrup ให้เรามาราดเองก่อนทาน จานนี้ขนาดอิ่มๆกันแล้ว ยังหมดเกลี้ยงภายในพริบตา
- Melon Katsuo (เมล่อน ปลาแห้งคัตซึโอะ) 135 บาท
เมนูนี้ผมเคยเห็นครั้งแรกที่ร้านโคโรฟิลด์ ราชบุรี แต่ของร้านนิกโกะจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว ของที่นี้จะหั่นเมล่อนออกมาเป็นชิ้นๆ ใส่ถ้วยมาแล้วมีปลาแห้งคัตซึโอะ (แบบที่โรยหน้าโอโคโนมิยากินั้นแหละ) โรยมาด้วย ส่วนตัวเป็นคนชอบกินไอ้เจ้าปลาแห้งคัตซึโอะอยู่แล้ว มาเจอเมนูนี้ต้องลองเลย โดยทางร้านมีนมข้นหวานใส่กาเล็กๆ มาให้ราดด้วย หากชอบหวานหน่อยก็ราดได้ แต่จริงๆผมชอบกินแบบเมล่อน+ปลาคัตซึโอะแค่นี้ก็ฟินแล้ว
ดูเป็นเมนูที่ไม่น่าจะเข้ากันได้เลยเนอะ มันคือผลไม้กะของคาวที่เป็นปลาแห้ง แต่พอมาจับคู่รวมกันแล้ว กลายเป็นรสชาติที่อร่อยมาก เวลากินจะได้สัมผัสชุ่มฉ่ำตอนเคี้ยวเมล่อนและได้รสเค็มนิดๆจากปลาคัตซึโอะ
Nikko Cafe นั้นเป็นคาเฟ่สไตล์นั่งชิลสบายๆในซอยเอกมัย12 มีให้บริการครบครันทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มนะครับ วันนี้เลยขอจัดเมนูแนะนำมาหลายเมนูเลย
เนื่องจากได้ดูรายการ The Dish เมนูทอง เทปที่ทางร้านได้ไปออกรายการ เลยขอสั่งจานนี้มาลิ้มลอง "หมูสามวัน" ซี่โครงหมูที่หมักกับซอสสูตรพิเศษถึงสามวันเพื่อความนุ่ม นำไปย่างจนสุกหอม ทานคู่กับซัลซ่าสลัด จานนี้ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดนะครับ เพราะทานง่ายมากๆ เอามีดกดนิดเดียว เนื้อก็หลุดออกจากกระดูกแล้ว แถมรสชาติก็เข้มข้น ชุ่มฉ่ำน้ำเนื้อ จานนี้ประทับใจมากๆครับ
และที่ห้ามพลาดอีกก็ได้แก่ "ชิคเก้นนัมบันทาทาร์ซอส" หรือแซนวิชไก่ทอดสไตล์ญี่ปุ่น ที่นำขนมปังแผ่นไปกริลล์จนหอมเนย แล้ววางด้วยไก่ทอดชิ้นโตกรอบนอกนุ่มใน ทานกับทาทาร์ซอสครับ
"ข้าวทาโก้" อาหารเม็กซิกันแบบฟิวชั่นด้วยการนำข้าวสวยมาใช้แทนแผ่นแป้งทาโก้ โดยชั้นล่างสุดเป็นข้าวญี่ปุ่นนุ่มลิ้น ตามด้วยหมูผัดเครื่องเทศสไตล์เม็กซิกัน ต่อด้วยมอสซาเรลล่าชีสมาแบบพูนๆ ตบท้ายชั้นบนสุดด้วยมะเขือเทศสดหั่นเต๋า วิธีการทาน จะตักทานไปเรื่อยๆ หรือคลุกให้เข้ากันแล้วทานก็ตามใจชอบเลยครับ มีมะนาวหั่นซีกมาด้วยเผื่อใครชอบความจัดจ้านครับ
หรือเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับคุณผู้หญิงก็มีนะครับ "สลัดไก่เทริยากิ" ผักสดกรอบราดด้วยน้ำสลัดงาแบบญี่ปุ่นเข้ากับความกลมกล่อมเนื้อไก่เทริยากิได้เป็นอย่างดีครับ
นอกจากเมนูอาหารคาว ก็ขอแนะนำของหวานอร่อยๆด้วย "เบลเยี่ยมช็อกโกแลตไส้ราสเบอรี่"ทำคล้ายๆกับช็อกโกแลตลาวา แต่เปลี่ยนไส้ลาวาข้างในเป็นราสเบอรี่แทน ความเปรี้ยวหวานของราสเบอรี่ตัดกับความขมของช็อกโกแลตได้ดีมากๆ ตัวไอศกรีมที่เสิร์ฟมาก็สามารถเปลี่ยนรสชาติได้นะครับ
หรืออีกเมนู "เฟร้นช์โทสกับไอศกรีม" ที่นำขนมปังชุบไข่ไปกริลล์จนหอมกรุ่น จัดตกแต่งพร้อมไอศกรีมและสตรอเบอรี่ ราดน้ำเชื่อมเมเปิ้ลแล้วทาน ฟินมากๆครับจานนี้
สำหรับเครื่องดื่ม ที่นี่ก็มีให้บริการทั้งชา กาแฟ และน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพครับ
ที่สั่งมาลองก็ได้แก่ "Cold Brew Sencha" ที่ได้จากการนำใบชามาสกัดเย็น ทานกับเลม่อน ตัวชาเองจะออกรสฝาด เข้ากันความสดชื่นของเลม่อนได้เป็นอย่างดีครับ
หรือถ้าเป็นคอช็อกโกแบต ขอแนะนำ "The Chocolate Frappe" ที่นำน้ำช็อกโกแลตเข้มข้นปั่นพร้อมกับช็อกโกแลตชิพ ท็อปปิ้งด้วยวิปครีมนุ่มฟู เข้มข้นมากๆครับ
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่
goo.gl/VwxdD7
ขอบคุณครับ
ผมว่ารสชาติร้านนี้ใช้ได้ แต่ติดที่ราคาแพงมากไปหน่อยครับ กินสองคนหมดไปพันหกได้ - -'
และบรรยากาศก็ธรรมดาไป ไม่ได้หรูหรามากมายถ้าเทียบกับราคาคับ แต่ดีตรงที่เหมือนกินร้านอาหารที่ญี่ปุ่นเลย คนญี่ปุ่นกินกันเยอะได้ยินภาษาญี่ปุ่นเต็มเลยคับ
มีทั้งแบบ ปิ้งย่าง และซาบู
และมีทั้งแบบบุฟเฟ่และอลาคาส
ถ้าเลือกบุฟเฟ่ในเซ็ทจะมีแค่เนื้อธรรมดา
แต่ถ้าอลาคาสจะมีเนื้อให้เลือกหลายอย่าง
อร่อย แต่แพง เหมาะกับการค่อยๆกินไปคุยไป
เพราะถ้าสั่งอลาคาสจะแพงมากกก แต่อร่อย แนะนำ
เป็นหนึ่งในแหล่งนั่งแช่ทำงานยามดึกในกรุงเทพที่ดีมากคับ เพราะว่ามีทั้งฟรี wifi มีเน็ทฟรี มีปลั๊กไฟให้เสียบ อาหารโดยเฉลี่ยอร่อยถึงอร่อยมากด้วย เน้นเครปแบบฟิวชั่น แต่ก็มีพวกข้าวๆ ก๋วยเตี๋ยวผัด เสิร์ฟด้วย
ปกติไปกินข้าวเที่ยงกับที่ทำงานตอนที่คิดอะไรไม่ออก
ไปที่นี่สั่งกินแค่อย่างเดียวเท่านั้นคือ ข้าวซี่โครงหมูตุ๋น ไข่ดาว
ที่มี ปริมาณ, คุณภาพ, และ เร็ว
แต่เวลาผ่านไป ปริมาณซี่โครงหมูก็น้อยลงเรื่อยๆ
จนเดี๋ยวนี้มีซี่โครงหมูอยู่แค่ ครึ่งเดียวของตอนที่เปิดร้านแรกๆ
วันนี้มาไกลกันถึงถนนสามัคคีเลยจ้า (บ้านอยู่พระรามสอง - -)
มาลองลิ้มชิ้มรสสารพัดเมนูไข่ กับร้านอาหารที่มีชื่อเก๋ไก๋ว่า "บ้านต้นไข่" ค่ะ
แน่นอนว่าชื่อร้านก็บอกอยู่แล้วเนอะ ว่าร้านนี้เน้นเมนูอาหารที่ทำจากไข่ ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่า ไข่จะเอามาพลิกแพลงทำอาหารได้มากถึงขนาดนี้ (เพราะถ้าทำเองก็จะวนๆอยู่ไม่กี่อย่าง ไข่เจียว ไข่ดาว ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น ตามประสาแม่บ้านสมัยใหม่อย่างเรา ;P) อย่างอาหารธรรมด๊าธรรมดาอย่าง ไข่ดาว ที่ร้านบ้านต้นไข่นี้ ก็สามารถนำไข่ดาว มาแปลงร่างให้เป็น ไข่น้ำดอกไม้ โดยการนำไข่มาดาวบนพริกหวาน! (แล้วจะออกมาเป็นเหมือนรูปดอกไม้ที่เราวาดกันบ่อยๆสมัยเป็นเด็กประถม) หรือไข่เจียวที่เราเจียวกินกันบ่อยๆ ที่นี่นำมาดัดแปลง ใส่ผักโขมอบชีสลงไป ได้เป็นไข่เจียวทรงพลัง! นับถือการครีเอทเมนูของคุณเจ้าของร้านจริงๆค่ะ เพราะไม่ใช่แค่ทำให้แปลกเท่านั้น แต่รสชาติยังอร่อยด้วยนะเออ
ใครอยากรู้ว่า ไข่ไก่ไข่เป็ดธรรมดา จะทำเมนูได้แปลกใหม่ขนาดไหน มาลองเลยที่ร้าน "บ้านต้นไข่" แล้วคุณจะลืมเมนูไข่แบบเดิมๆไปเลยค่ะ :)
ลิ้มลองหลากหลายเมนูไข่ๆ ณ ร้านอาหารบ้านต้นไข่@ถนนสามัคคี นนทบุรี
วันนี้ขอนำทุกท่านมาพบกับร้านที่มีเมนูสารพัดไข่มากมายที่ชื่อร้านว่า "บ้านต้นไข่" ครับ ร้านนี้ตั้งอยู่บนถนนสามัคคี ไม่ไกลจาก ม.ธุรกิจบัณฑิตครับ
ร้านบ้านต้นไข่เป็นร้านอาหารแนวโฮมเมด ที่คิดค้นและพัฒนาสูตรเองโดยเจ้าของร้าน และแน่นอนตามชื่อร้าน ร้านบ้านต้นไข่นี่จะเน้นสารพัดอาหารที่ทำจากไข่ครับ ไม่ใช่ไข่ธรรมดาๆที่เราทำกินกันทุกวันแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น ไข่กระทะแบบดั้งเดิม ที่นี่จะนำมาประยุกต์มาใส่ชีส ไส้กรอก แฮม ออกมาเป็นไข่กระทะดับเบิ้ลชีส หรือข้าวไข่ข้นอาหารยอดฮิต ที่ร้านบ้านต้นไข่นี้นำมาฟิวชั่นกับอาหารไทยดั้งเดิมนั่นคือ ต้มยำกุ้ง ออกมาเป็น ข้าวไข่ข้นต้มยำกุ้ง ที่รสชาติจัดจ้านร้อนแรง แต่แฝงด้วยความนุ่มละมุนของไข่ข้นครับ
ท่านไหนสนใจอยากลิ้มลองเมนูอาหารที่ทำจากไข่ รสชาติอร่อย ราคาไม่แพง ลองมาทานที่ร้านบ้านต้นไข่นะครับ ประทับใจแน่นอน