All reviewing comments
Search for comments
ไปเที่ยวโซนสัตหีบ พัทยา เมื่อเดือนที่แล้ว ขอแวะมารีวิวร้านอาหารบรรยากาศดี ที่ไปกินกันมาที่สัตหีบนะคับ ร้านที่เราไปกินกันมาชื่อร้านพลูเฮ้าส์ Plu House Restaurant & Cafe อยู่ในซอยสนามกอล์ฟพลูตาหลวง (หรือซอยอ่างเก็บน้ำภูติอนันต์)
[Location] พิกัดร้าน
จากตัวเมืองสัตหีบวิ่งไปตามถนนสุขุมวิท จนถึงแยกกม.6 เลี้ยวเข้าไปในซอยสนามกอล์ฟพลูตาหลวง (หรือซอยอ่างเก็บน้ำภูติอนันต์) วิ่งตรงไปประมาณ 2 กิโลเมตร สังเกตุหมู้บ้านพลูตาหลวงไพรเวทฮิลล์ ด้านซ้ายมือ ร้านพลูเฮ้าส์จะอยู่ด้านหน้าของหมู่บ้านเลย
[Decor]
เข้าไปดูในร้านกันต่อ ร้านนี้ค่อนข้างมีพื้นที่กว้าง รวมๆแล้วมีหลายโซนทีเดียว พื้นที่หลักๆจะเป็นห้องแอร์มีโต็ะอาหารอยู่ 7-8 โต๊ะ เหมาะสำหรับช่วงกลางวันอากาศข้างนอกร้อนๆหน่อย ภายในร้านตกแต่งสวยงามประดับด้วยกระเช้าดอกไม้สีสันสดใส หลากหลายอัน มีพร็อบดอกไม้เก๋ๆทั้งดอกไม้จริง ดอกไม้เทียม หลายๆมุมภายในร้าน || อีก2-3โซนของร้านนี้ก็วิวดีเช่นกัน เช่นโซนเอ้าท์ดอร์ ด้านหน้าร้าน จะเห็นวิวภูเขาเขียวๆอยู่ไกลๆ เหมาะสำหรับมานั่งช่วงเย็นๆตอนที่ไม่มีแดดแล้ว และมีโซนโต๊ะอาหารอยู่ริมสระน้ำ ด้านหลังของร้าน วิวดีทีเดียว ได้คุยกับพี่เจ้าของร้านเขาบอกว่า สระว่ายน้ำยังไม่ได้เปิดให้บริการจริงๆจังๆ แต่หากเด็กๆอยากขอมาเล่นน้ำ ก็ลงได้ มีสระเด็ก สระผู้ใหญ่พร้อม และยังมีชิงช้า , ศาลา A Lot of Love พร้อมกับพร็อบถ่ายรูปเก๋ๆภายในร้านอีก ช่างเอาใจคนเซลฟี่จริงๆ สำหรับใครอยากหามุมถ่ายรูปเก๋ๆ ไม่ควรพลาดร้านนี้ มีมุมให้นั่งเล่น ถ่ายรูปเยอะจริง
[Foods]
เข้าเรื่องอาหารกันเลยละกัน ร้านพลูเฮ้าส์ สัตหีบนี้ จากที่ดูในเล่มเมนูส่วนใหญ่จะเน้นไปทางอาหารไทยเป็นหลัก+ซีฟู้ดบ้าง + อาหารจีนโผล่ๆมาบ้าง ราคากลางๆคับ ไม่ถูกไม่แพง เหมาะสำหรับมากินกันเป็นครอบครัวได้สบายๆเลย
-ปลากะพงทอดราดยำสมุนไพร (320 บาท)
ปลากะพงตัวใหญ่พอประมาณ แลเอาเนื้อปลาเป็นคำๆไปทอดให้สุก แล้วค่อยเอาโครงปลาทั้งตัวไปทอดต่อ ราดมาด้วยน้ำยำสมุนไพร ครบครันสารพัดด้วย ขิง ตะไคร้ กระเทียม หอมแดง พริกแดง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ให้มาเยอะมากทีเดียว ตักทานสะดวกดี เพราะร้านหั่นปลาออกมาเป็นชิ้นๆไปทอดให้สุกเหลืองก่อนแล้ว
รสชาติปลาดี ไม่มีกลิ่นคาว รสน้ำยำใช้ได้ แต่เครื่องที่ราดมาด้านบนคือเยอะมาก (เรียกว่าถมทีเลยดีกว่า) ทานๆไปบางทีมีอยู่รู้สึกเหมือนกันเมี่ยงคำอยู่ 555
- กุ้งอบวุ้นเส้นหม้อดิน (160 บาท)
ตอนมาเสิร์ฟเปิดฝาออกมานี้ กลิ่นเครื่องเทศหอมยั่วใจมากๆ ตัววุ้นเส้นทำออกมาดี เส้นเหนียวหนึบผัดแล้วน้ำซอสปรุงรสมันแทรกอยู่ในตัววุ้นเส้นกำลังดี กุ้งตัวใหญ่พอสมควร ร้านผ่ากลางหลังตัวกุ้งมาให้แล้วด้วย ทำให้แกะกุ้งกินได้ง่าย
- ลาบเป็ดคั่ว (120 บาท)
เป็ดสับออกมาเป็นชิ้นเล็กๆ ผสมแคบหมูเข้ามาด้วย รสชาติจานนี้จัดจ้านมากๆ มาพร้อมผักเคียงทั้ง แตงกวา กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาวและใบพลู
- ยำแซลมอนวาซาบิ (140บาท)
แซลมอนสไลด์ชิ้นขนาดพอๆกับร้านขายปลาดิบเลย เอาไปลวกให้สุกกำลังดี ทำออกมาเป็นยำที่รสชาติจัดจ้านพอสมควร ตัวน้ำยำมีความเป็นไทยด้วยพริกขี้หนู หอมแดง ตะไคร้ซอย คื่นช่าย และผสมวาซาบิลงไปด้วย แต่ส่วนตัวผมว่าวาซาบิยังใส่น้อยไปหน่อย ยังไม่ค่อยได้รสชาติของวาซาบิแบบจี๊ดๆขึ้นจมูกเหมือนตอนกินอาหารญี่ปุ่นเท่าไร ถ้าเพิ่มวาซาบิละลายลงไปในน้ำยำอีกนิด น่าจะถูกใจผมกว่านี้
แต่ด้วยราคา 140 บาท แล้วเทียบกับปริมาณของแซลมอนที่ให้มาก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ
- เห็ดหอมนึ่งหมูสับไข่เค็ม (140บาท)
เมนูออกแนวจีนๆหน่อย แต่อร่อยล้ำทีเดียว โดยมีเห็ดหอมวางด้านล่างไว้เป็นฐาน แล้วเอาหมูสัปที่ปรุงรสผสมไข่เค็มแล้วปั้นเป็นก้อนกลมๆวางบนเห็ดอีกที แล้วเอาไปนึ่งสุก ในภาพจะมองไม่เห็นไข่เค็มเพราะมันแทรกซึมลงไปบนตัวหมูแล้วนั้นเอง แต่เมนูนี้อร่อยมาก แต่ได้กินแค่นิดเดียวเอง โดนน้อง(ซึ้งไม่ชอบเมนุเผ็ดๆ)มาแย่งกินแต่เมนูนี้จนเกือบไม่เหลือให้เราได้ชิมเลย
ราคาอาหารของร้านพลูเฮ้าส์นี้คือว่าทำราคาออกมาได้คุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับปริมาณของอาหารและรสชาติที่ได้ลองไปแล้ว คนกรุงเทพแบบเรา เคยเจอแต่อาหารราคาค่อนข้างสูงๆในตัวเมือง พอได้มากินของอร่อยๆในราคาที่ตั้งแบบนี้ จึงถือว่าคุ้มค่ามากๆทีเดียว
[Drink and Dessert]
- Blue Hawaii italian Soda 40 บาท
น้ำบลูฮาวายสีฟ้าสดใส เสิร์ฟมาในแก้วมัคสุดฮิต ที่ร้านอาหารคูลๆสมัยนี้นิยมกัน (ขายราคานี้คือถูกมากนะ ในกรุงเทพนี้ 55-60 กันหมดแล้ว)
- นมสดโอรีโอปั่น 60 บาท
นมสดปั่นกับโอรีโอ (แต่วันที่ไปกินโอรีโอหมด เลยใส่ฟันโอมาแทน 555 ) เสิร์ฟมาในแก้วทรงสูง
- Green Apple yogurt smoothie 60 บาท
แอปเปิ้ลเขียวปั่นผสมโยเกิร์ตลงไปด้วย แก้วนี้ผมไม่ได้ชิม ได้แต่กลิ่นหอมๆ น่าทานทีเดียว
- บิงซูแตงโม 139 บาท
ของหวานสุดฮิตสไตล์เกาหลีอย่างบิงซู ที่ร้านก็มีขายนะ ทำออกมาดูดีมากๆเลยทีเดียว ตอนเสิร์ฟมาที่โต๊ะหันไปดูราคาอีกที ยังงงว่าสั่งไม่ผิดใช่มะ ราคานี้จริงๆเหรอ
เพราะจัดแต่งมาดูดีมาก ตักแตงโมออกมาเป็นก้อนกลมๆ ก่อนแล้วค่อยเอาเกล็ดนมน้ำแข็งมาสไลด์ใส่ลงไปบนลูกแตงโมที่ตักเนื้อออกไปแล้ว ราดนมข้นหวานลงไปอีกนิด เสิร์ฟมาบนชามไม้ ดูเก๋ไก๋มากทีเดียว
ร้าน Plu House Sattahip นี้ถามทางร้านแล้วร้านเปิดทุกวันนะครับ ตั้งแต่ 11 โมงเช้า ยัน 22.00 น.เลย ตอนช่วงหัวค่ำประมาณ 6โมงกว่าๆ นี้มีดนตรีสดมาเล่นให้ฟังด้วย ใครสนใจมาทานมื้อค่ำ นั่งทานข้าวชิลล์ๆ ฟังเพลงเพลินๆนี้แนะนำเลย
มีโอกาสได้ไปแถวหลังรามครับ ผ่านซอยรามคําแหง 24 แยก 20 เยื้องๆฝั่งตรงข้ามราชมังคลากีฬาสถาน
จะมีหลายร้านเลยตรงนั้น ร้านเฝอทูยู จะอยู่ด้านในตรงลานจอดรถเลยครับ
ร้านบรรยากาศโอเคเลยครับแบ่งเป็นสองโซนไว้รองรับลูกค้าได้เพิ่มขึ้น น่าจะราวๆ 20-30โต๊ะได้เลย
ร้านนี้สั่งแบบใช้ใบติ๊กสั่งอาหารครับ ปกติร้านนี้จะเป้นแบบสั่งอลาคลาสเป็นจานๆ มีราคาบอกในใบนี้เลย...
แต่เพิ่งทราบว่าทางร้านเพิ่งเริ่มตัดสินใจทำ Buffet ไม่กี่วันนี้เองครับ จัดไปทันใด ตกท่านละ 269.-
ไม่รวมเครื่องดื่มและ ในใบไม่รวม กุ้งสด,หมึกสด,เบคอนรมควัน ครับ นอกนั้นสั่งได้เต็มที่ครับ
และนอกจากเนื้อต่างๆและเต้าหู้ชีสที่เด็ดร้านนี้จะมีเด่นตรงที่น้ำจิ้มครับ จะมีฮอยซินซอสและซอสพริกเวียดนาม มีสูตรปรุงแนะนำอยู่ครับขอทางร้านได้เลย
รายละเอียดรีวิวเต็มๆขอเชิญที่Blog
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=akuchan&date=03-03-2015&group=1&gblog=34
ครับผม ขอบคุณคร๊าบ
ร้านอยู่ตรงไหนของเมเจอร์ เอกมัย ไม่เห็นมี
ได้ยินเกี่ยวกะร้านนี้มานานนะยะ เพื่อนๆ ถ่อลุยรถติดถนนอโศกไปกินกันประจำ
วันนี้ไปคุยงานแถวตึกแกรมมี่ เกี่ยวกับงานถ่ายแฟ๊ชึ่นใหม่ของชั้น (คือเอากล้องชั้นไปถ่ายโตโน่ที่ตึกแกรมมี่ -_-") เลยขอแวะไปซักที
ยัยเพื่อนสาวซี้คนเดิมมาด้วยก็เชียร์เอ๊าเชียร์เอา ร้านอิแท้เหลี่ยนอร่อยจริงอะไรจริง ชั้นก็คนสวยใสๆ ใครพูดอะไรก็เชื่อง่ายตลอด~~~ (ยัยเพื่อนบอกจะเลี้ยงพิซซ่า คริส์)
ปกติชั้นก็ไม่ค่อยชอบพวกพิซซ่าพาสต้าอะไรพวกนี้มากนะยะ รู้สึกคาร์บเยอะนะคะคุณ ไม่ดีต่อหุ่นงามๆ ในชุดชาแนลคอเลคชั่นใหม่ของชั้นซะด้วย (ฝากเพื่อนสาวซื้อมาจากคุนหมิงเชียวนะยะ!)
มาถึง
ร้านก็แต่งเกร๋เกร๋แบบลูกทุ่งอิแท้เหลี่ยนดีนะยะชั้นว่า โทนส้มๆ ประหลาดๆ แอบติสต์นิดนุง
มีกระดาษกะสีเทียนให้วาดเล่นด้วย
ที่ชั้นชอบมวากกกกส์ คือมีไวไฟฟรีด้วยค่ะคุณขา!!!
ฟินมากกกกก (หน้าแดงระเรื่อ ปากเผยอแบบฟินๆ)
ยัยเพื่อนเร๊คคอมเม้นต์เมนูไก่ทอดออสเตรียชนิ๊ดซึ่ลอะไรเนี่ยมากๆ ชั้นก็แบบว่า.. ไก่ทอดออสเตรียอะไรย่ะ! จะอร่อยกว่าไ่ก่ทอดหาดใหญ่ได้เหรออ
เลยสั่งมาพร้อมสลัดดู
พอเข้าปากเท่านั้นแหละ กรี๊ซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ
ไก่บ้าอะไรยะ!!!! ฮืออออออ อรอ่ยเวร่อออ์อะ เนื้อนุ่มมมมมม ผิวกรอบเล็กๆ แถมหมักก็อร่อยจริง
น้ำสลัดก็อร่อยมากกกกกส์ ทำชั้นปลื้มอีกละ T.T
ลองสั่งพิซซ่ามาม่ามาดู นี่ก็ปลื่มเช่นกันย่ะ แป้งบางกรอบบบ ฟินอีกละชั้น T.T
จานสุดท้ายที่สั่ง สปาเก็ตตี้หมึกดำ
จานนี้ ขอชั้นติเล็กน้อยนะยะ!
ทำไมรสชาติมันแบบว่าร์ (เผยอปากแบบน้องทราย) ..
เหมือนกินปลาหมึกกระเทียมพริกไทยเลยละยะคะ!!!!
จริงๆ รสชาติอร่อยมากนะยะ แต่แอบไทยไปนิดนุง
ท่าจะเป็นสไตล์ฟิวชั่นของร้านชิมิแคะ มาม่าขา
(แต่ด่าไปงั้น จริงๆ ชั้นแอบปลื้มมากเหมือนกัน น้ำปลาหมึกกระเทียมอร่อยจนชั้นอยากจะสั่งข้าวสวยมาคลุกกินให้รู้แร้วรู้แร่ด -_-")
รวมๆ ชั้นยกให้เป็นร้านปลื้มมากส์อีกร้านย่ะที่นี่ ชอบนะย่ะ!!
สาขาสยามเซ็นต์อาหารรสชาติโอเคมากๆ แต่ปริมาณน้อยไปถ้าเทียบกับราคา
ร้านที่มาบ่อยมาก เพราะอาหารง่ายๆ และรสชาติเฉลี่ยแล้วอร่อยมาก (เว้นแต่บางเมนูที่เคยสั่งแล้วเฟล เช่น ข้าวไข่ข้น - -)
วันก่อนไปกินมาอีกรอบ เลยโพสรูปเล่นๆ ดูคับ
ทานอาหารอร่อยพร้อมชมวิวแม่น้ำนครชัยศรี ที่ร้านบ้านร่มไม้สายน้ำ
ร้านบ้านร่มไม้สายน้ำเป็นร้านอาหารไทย-จีน ตั้งอยู่ใกล้ตลาดน้ำดอนหวาย อยู่ฝั่งตรงข้ามระหว่างซอยไร่ขิง 30 และ 32 ห่างจากวัดท่าพูดเพียง 200 เมตรครับ การเดินทางสะดวกสบายมาตามถนนพุทธมณฑลสายห้าได้เลยครับ ร้านกว้างขวาง มีที่จอดรถส่วนตัว สะอาดสะอ้าน ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ มีที่นั่งทั้งในห้องแอร์และโซนด้านนอกที่ติดกับแม่น้ำนครชัยศรี ถ้ามาที่ร้านในตอนเย็นๆ แนะนำให้นั่งติดริมแม่น้ำครับ จะได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกพร้อมๆกับทานอาหารไปด้วย ฟินมากๆครับ เมนูของทางร้านแต่ละเมนูก็เป็นสไตล์ของอาหารไทย-จีนแท้ๆ คิดค้นแต่ละเมนูโดยพ่อครัวของทางร้าน เป็นสูตรเด็ดที่แปลกไม่เหมือนใคร ถ้ามาแล้วขอแนะนำให้สั่ง ซี่โครงหมูบ้านร่มไม้สายน้ำ และเนื้อนกกระจอกเทศผัดพริกไทยดำที่เป็นเมนูแนะนำ รับรองว่าไม่ผิดหวังครับ
ร้านอาหารบ้านร่มไม้สายน้ำ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนครชัยศรี ห่างจากวัดท่าพูดประมาณสองร้อยเมตร ใกล้ๆกับตลาดน้ำดอนหวายค่ะ
เป็นร้านอาหารไทย-จีน ที่มีพ่อครัวมากด้วยประสบการณ์ ครีเอทแต่ละเมนูด้วยตัวเอง รับรองว่าแปลกใหม่ไม่เหมือนใครแน่นอน
เมนูแนะนำที่บอกเลยว่าถ้าได้ไปต้องสั่งคือ โรตีแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ซี่โครงหมูบ้านร่มไม้สายน้ำ ปลากะพงผัดพริกเกลือ ปูม้าผัดกระเทียมโทน และเนื้อนกกระจอกเทศผัดพริกไทยดำ
แต่ละเมนูรสชาติอร่อย กลมกล่อม มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง อย่างเช่นเนื้อนกกระจอกเทศผัดพริกไทยดำ ร้านนี้ทำเก๋ด้วยการใส่ปาท่องโก๋ลงผัดพร้อมกับเครื่องปรุงอื่นๆไปด้วย
ฟังดูแปลกใช่มั้ยคะ? แต่พอกินแล้วมันเข้ากันมากๆจนไม่น่าเชื่อเลย
หรือเมนูทะเลอย่าง ปลากระพงผัดพริกเกลือ ที่ใช้ปลาทั้งตัวแล่เป็นชิ้นๆ ทอดจนกรอบ ผัดพร้อมเครื่องปรุงพริกเกลือ ทานง่ายไม่ต้องมานั่งแกะปลาเอง รสชาติก็กลมกล่อมทานกับข้าวสวยร้อนๆยิ่งเข้ากันดีค่ะ
อยากให้เพื่อนๆไปลองกันค่ะ ร้านอาหารไทย-จีนอร่อยๆ ราคาไม่แพง และไม่ได้อยู่ไกลจากเมืองกรุงเท่าไหร่ เสาร์อาทิตย์ไปเดินเล่นตลาดน้ำดอนหวาย แล้วแวะทานอาหารที่ร้านนี้ก็ไม่เสียเที่ยวค่ะ
วันนี้มาไกลกันถึงถนนสามัคคีเลยจ้า (บ้านอยู่พระรามสอง - -)
มาลองลิ้มชิ้มรสสารพัดเมนูไข่ กับร้านอาหารที่มีชื่อเก๋ไก๋ว่า "บ้านต้นไข่" ค่ะ
แน่นอนว่าชื่อร้านก็บอกอยู่แล้วเนอะ ว่าร้านนี้เน้นเมนูอาหารที่ทำจากไข่ ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่า ไข่จะเอามาพลิกแพลงทำอาหารได้มากถึงขนาดนี้ (เพราะถ้าทำเองก็จะวนๆอยู่ไม่กี่อย่าง ไข่เจียว ไข่ดาว ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น ตามประสาแม่บ้านสมัยใหม่อย่างเรา ;P) อย่างอาหารธรรมด๊าธรรมดาอย่าง ไข่ดาว ที่ร้านบ้านต้นไข่นี้ ก็สามารถนำไข่ดาว มาแปลงร่างให้เป็น ไข่น้ำดอกไม้ โดยการนำไข่มาดาวบนพริกหวาน! (แล้วจะออกมาเป็นเหมือนรูปดอกไม้ที่เราวาดกันบ่อยๆสมัยเป็นเด็กประถม) หรือไข่เจียวที่เราเจียวกินกันบ่อยๆ ที่นี่นำมาดัดแปลง ใส่ผักโขมอบชีสลงไป ได้เป็นไข่เจียวทรงพลัง! นับถือการครีเอทเมนูของคุณเจ้าของร้านจริงๆค่ะ เพราะไม่ใช่แค่ทำให้แปลกเท่านั้น แต่รสชาติยังอร่อยด้วยนะเออ
ใครอยากรู้ว่า ไข่ไก่ไข่เป็ดธรรมดา จะทำเมนูได้แปลกใหม่ขนาดไหน มาลองเลยที่ร้าน "บ้านต้นไข่" แล้วคุณจะลืมเมนูไข่แบบเดิมๆไปเลยค่ะ :)
ลิ้มลองหลากหลายเมนูไข่ๆ ณ ร้านอาหารบ้านต้นไข่@ถนนสามัคคี นนทบุรี
วันนี้ขอนำทุกท่านมาพบกับร้านที่มีเมนูสารพัดไข่มากมายที่ชื่อร้านว่า "บ้านต้นไข่" ครับ ร้านนี้ตั้งอยู่บนถนนสามัคคี ไม่ไกลจาก ม.ธุรกิจบัณฑิตครับ
ร้านบ้านต้นไข่เป็นร้านอาหารแนวโฮมเมด ที่คิดค้นและพัฒนาสูตรเองโดยเจ้าของร้าน และแน่นอนตามชื่อร้าน ร้านบ้านต้นไข่นี่จะเน้นสารพัดอาหารที่ทำจากไข่ครับ ไม่ใช่ไข่ธรรมดาๆที่เราทำกินกันทุกวันแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น ไข่กระทะแบบดั้งเดิม ที่นี่จะนำมาประยุกต์มาใส่ชีส ไส้กรอก แฮม ออกมาเป็นไข่กระทะดับเบิ้ลชีส หรือข้าวไข่ข้นอาหารยอดฮิต ที่ร้านบ้านต้นไข่นี้นำมาฟิวชั่นกับอาหารไทยดั้งเดิมนั่นคือ ต้มยำกุ้ง ออกมาเป็น ข้าวไข่ข้นต้มยำกุ้ง ที่รสชาติจัดจ้านร้อนแรง แต่แฝงด้วยความนุ่มละมุนของไข่ข้นครับ
ท่านไหนสนใจอยากลิ้มลองเมนูอาหารที่ทำจากไข่ รสชาติอร่อย ราคาไม่แพง ลองมาทานที่ร้านบ้านต้นไข่นะครับ ประทับใจแน่นอน
ปกติไปกินข้าวเที่ยงกับที่ทำงานตอนที่คิดอะไรไม่ออก
ไปที่นี่สั่งกินแค่อย่างเดียวเท่านั้นคือ ข้าวซี่โครงหมูตุ๋น ไข่ดาว
ที่มี ปริมาณ, คุณภาพ, และ เร็ว
แต่เวลาผ่านไป ปริมาณซี่โครงหมูก็น้อยลงเรื่อยๆ
จนเดี๋ยวนี้มีซี่โครงหมูอยู่แค่ ครึ่งเดียวของตอนที่เปิดร้านแรกๆ
เป็นหนึ่งในแหล่งนั่งแช่ทำงานยามดึกในกรุงเทพที่ดีมากคับ เพราะว่ามีทั้งฟรี wifi มีเน็ทฟรี มีปลั๊กไฟให้เสียบ อาหารโดยเฉลี่ยอร่อยถึงอร่อยมากด้วย เน้นเครปแบบฟิวชั่น แต่ก็มีพวกข้าวๆ ก๋วยเตี๋ยวผัด เสิร์ฟด้วย
มีทั้งแบบ ปิ้งย่าง และซาบู
และมีทั้งแบบบุฟเฟ่และอลาคาส
ถ้าเลือกบุฟเฟ่ในเซ็ทจะมีแค่เนื้อธรรมดา
แต่ถ้าอลาคาสจะมีเนื้อให้เลือกหลายอย่าง
อร่อย แต่แพง เหมาะกับการค่อยๆกินไปคุยไป
เพราะถ้าสั่งอลาคาสจะแพงมากกก แต่อร่อย แนะนำ
ผมว่ารสชาติร้านนี้ใช้ได้ แต่ติดที่ราคาแพงมากไปหน่อยครับ กินสองคนหมดไปพันหกได้ - -'
และบรรยากาศก็ธรรมดาไป ไม่ได้หรูหรามากมายถ้าเทียบกับราคาคับ แต่ดีตรงที่เหมือนกินร้านอาหารที่ญี่ปุ่นเลย คนญี่ปุ่นกินกันเยอะได้ยินภาษาญี่ปุ่นเต็มเลยคับ
วันนี้ขอมารีวิวร้านคาเฟ่น่ารักๆ สไตล์มินิมอล เจแปนนีส ร้าน Nikko Cafe (นิกโกะ คาเฟ่) อยู่ที่ซอยเอกมัย12
พิกัดของร้านนิกโกะ คาเฟ่ เอกมัย
ร้านจะอยู่ในซอยเอกมัย12 ถ้ามาจากเส้นสุขุมวิท ก็วิ่งเข้าซอยสุขุมวิท63 ตรงมาเรื่อยๆ สังเกตุขวามือเจอซอยเอกมัย12 ก็เลี้ยวเข้ามา ขับตรงมาอีกประมาณ 300 เมตร ร้าน Nikko Cafe จะอยู่ด้านขวามือ เป็นร้าน2ชั้น
ตอนนี้ถนนหน้าร้านขยายมากขึ้นเป็น 3-4 เลนแล้วด้วย เมื่อก่อนถนนจะแค่2เลนเท่านั้น ร้านนิกโกะก็ปิดร้านไปรีโนเวทใหม่ พร้อมๆกับถนนหน้าร้านไปพร้อมกัน
ถ้าขับรถมาที่ร้านก็สามารถจอดรถหน้าร้านได้เลย บริเวณหน้าร้านจอดได้ 6-7คัน แต่ถ้าโซนหน้าร้านเต็ม ก็สามารถไปจอดริมถนนถัดจากร้านได้ มีพื้นที่ว่างเยอะเลยจอดได้อีก8-9คันสบายๆ
[Decor]
สไตล์การตกแต่งของร้านนิกโกะ คาเฟ่ จะเป็นแบบ Minimalist Japanese Style คือเรียบง่าย แต่ดูดีในสไตล์ญี่ปุ่น เน้นเฟอร์นิเจอร์เป็นไม้สีโอ๊คธรรมชาติ ให้Mood&Tone ดูอบอุ่น นั่งชิลล์ รอบๆร้านมีต้นไม้เยอะ ภายในร้านก็มีสวนต้นไม้ขนาดย่อมๆอยู่ เลยทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากๆ มีโซน Outdoor เป็นโต๊ะเก้าอี้หวายท่ามกลางต้นไม้เขียวๆ น่านั่งดี // มีห้องกระจกเล็กๆมีโต๊ะอยู่ 2-3 ตัวมุมนี้ก็มานั่งเมาส์มอยกับเพื่อนได้เช่นกัน แต่ถ้าอยากได้ความสงบหน่อยมีโซนชั้น2ของร้าน จะมีห้องแอร์ไว้นั่งทำงาน อ่านหนังสือ พร้อมจิบกาแฟได้ / และก็มีโซน Outdoor ชั้น2 เป็นโซฟาหนังพร้อมหมอนใบใหญ่ บรรยากาศดูโล่งสบาย พร้อมทิวทัศน์รอบข้าง
เนื่องจากตัวร้านมีหลายโซนให้เลือกนั่งได้ ทำให้เหมาะสำหรับคนที่จะมาที่นั่งทำงาน, มานั่งคุยกับเพื่อน ,มานั่งอ่านหนังสือ, หรือถ้าค่ำๆหน่อยก็มานั่งแฮงค์เอ้าท์กันได้ยาวๆ
[Food]
มาเข้าเรื่องอาหารกัน ร้านนี้ตอนแรกเปิดเป็นร้านกาแฟมาก่อน จึงมีเครื่องดื่มประเภทกาแฟและชา ครบครัน และตอนนี้มีอาหารจานเดียวเพิ่มขึ้นมาหลากหลายชนิดทีเดียว เช่นสปาเก็ตตี้ สลัด ข้าวหน้าญี่ปุ่นแบบต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารจานเดียวแบบทานง่ายๆในราคาไม่แพงนัก
วันนี้กรุ๊ปเราก็ทะยอยสั่งของกินมาลองทานกันหลายๆแบบ ดังนี้
- Chicken Nanban Tartar Sauce (Open Sandwich) 170 บาท
ร้านเรียกว่าโอเพ่นแซนวิช ดูจากหน้าตาที่เสิร์ฟมาเลยขอเดาว่าเป็นแซนวิช ที่มีขนมปังมาด้านเดียว (ไม่ได้ประกอบ2ด้านเหมือนแซนวิชทั่วๆไป) โดยมีไก่ทอดชิ้นโตอยู่ข้างบน พร้อมราดทาร์ทาร์ซอสมาด้วย มีผักสลัดพวกกรีนโอ๊ค เรคโอ๊ค และฟิลเล่ย์พร้อมราดน้ำสลัดงาคั่วแบบญี่ปุ่น
ใช้มีดหั่นๆ ทานกินคู่กันทั้งเนื้อไก่+ขนมปัง แกล้มด้วยผักสลัด รสชาติเข้ากันดีทีเดียว จานนี้มาทานเป็น Breakfast ยังได้เลย
- 3 Days ago Ribs (หมู3วัน) 175 บาท
เมนูชื่อแปลกนี้ ได้การันตีจากรายการ The Dish เมนูทอง ช่องเวิร์คพ้อยท์มาด้วย เป็นซี่โครงหมูที่หมักนานถึง3วัน ก่อนนำมาอบเสิร์ฟให้ลูกค้า ทำให้เนื้อหมูนุ่มมาก แค่ปาดมีดลงไปเบาๆ เนื้อหมูก็ร่อนออกจากกระดูกซี่โครงแล้ว สมคำล่ำลือจากทางรายการ
เสิร์ฟมาพร้อมผักสลัดกรีนโอ๊คและใบฟิลเล่ย์เช่นเคย พร้อมมะเขือเทศซัลซ่า เมนูนี้อร่อยแย่งกันทาน แป็ปเดียวหมด จนต้องสั่งกลับบ้านอีก 2 ชุด [จานนี้แนะนำคับต้องมาลองกัน]
- Spaghetti Pesto Bacon 200 บาท
ต่อกันด้วยสปาเก็ตตี้เพสโต้เบคอน เส้นสปาเก็ตตี้ลวกมาสุกแบบอัลเดนเต้ มีความหนึบๆกรุบๆอยูด้านในนิดๆ คลุกเคล้ากับซอสโหระพา และมีเบคอนชิ้นใหญ่ๆ ให้มาเยอะพอสมควร ตัวซอสเพสโต้ทำออกมาได้ค่อนข้างดี หอมกลิ่นโหระพาและน้ำมันมะกอกกำลังดี
- Teriyaki Chicken Salad 180 บาท
สลัดผักพร้อมไก่ย่างเทริยากิ ขอบอกเลยว่า ไก่นุ่มมากๆ แถมชิ้นใหญ่อีกด้วย ตัวซอสเทริยากิเข้าถึงเนื้อในกำลังดี กินพร้อมกับผักสลัดหลากหลายชนิดทั้งกรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค ฟิลเล่ย์ มะเขือเทศราชินี ผักกาดแก้ว ราดมาด้วยน้ำสลัดงาซีอิ๊วญี่ปุ่นออกรสเปรี้ยวๆ ตัดรสชาติของไก่ย่างได้ดีทีเดียว จานนี้แนะนำเลยต้องมาโดนกัน
- Taco Rice 200 บาท
เห็นชื่อแปลกๆ ลองสั่งมาทานดู ออกแนวฟิวชั้นอาหารแม็กซิกันผสมญี่ปุ่น คือชั้นล่างสุดเป็นข้าวแบบญี่ปุ่น ถัดขึ้นมาเป็นหมูปรุงรสกับเครื่องเทศสไตล์แม็กซิกัน ถัดมาอีกชั้นเป็นชีสขูด ด้านบนสุดเป็นมะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นๆ เวลาทานจะตักลงไปให้ได้ส่วนประกอบมาทั้ง 4 อยู่ผสมกันเลยก็ได้ หรืออยากจะคลุกเคล้ากันแล้วค่อยทาน ก็ตามแต่ความชอบ ส่วนตัวว่าแปลกดีเมนูนี้ แต่ถ้ามาสั่งเมนูนี้จานเดียว จะออกติดรสเลี่ยนไปหน่อย...อยากแนะนำทางร้านให้เพิ่มผักบางตัวหรือวัตถุดิบบางอย่างที่ตัดรสชาติมาช่วยเติมในเมนูนี้หน่อย...น่าจะดีขึ้น..... ลืมบอกไปจานนี้เสิร์มาพร้อมกับน้ำซุปมิโสะ ด้วยอีก 1 ถ้วย ซุปมิโสะสูตรของร้านนี้แปลกกว่าทั่วๆไปคือใส่เผือก หั่นเป็นเต๋าลูกเล็กๆใส่ลงมาด้วย
[Drinks]
เครื่องดื่มเราก็สั่งมาลองกันหลายแก้ว ส่วนตัวคิดว่าที่นี้มีซิกเนเจอร์เจ๋งๆที่เป็นเครื่องดื่มหลายตัวเลย ทำออกมาได้มีเอกลักษณ์ของร้านมากๆ
- Iced Caramel Macchiato 125 บาท
แก้วแรกเป็นกาแฟคาราเมล มัคคิเอโต้ รสชาติกาแฟเข้มข้นกำลังดี
- Apple Mint Soda 100 บาท
แก้วนี้น้องสั่งมา ผมไม่ได้ชิม แต่ตกแต่งสวยงาม มีชิ้นแอปเปิ้ลฝ่านใส่มาด้วย น่าจะสร้างความสดชื่นได้ดีทีเดียว
- Cold Brew Sencha 125 บาท
เป็นชาเซนชะแบบสกัดเย็น ตัวแนะนำของทางร้านที่โชร์อยู่ในตู้กระจกตรงเคาเตอร์ ลองสั่งมาชิมดู เสิร์มาแบบเก๋ไก๋ดูดีทีเดียว มาพร้อมแก้วน้ำแข็งที่ใส่เลมอนฝ่านมาให้ รินชาลงแก้ว เวลาดื่มได้รสชาติชาเซนชะพร้อมหอมกลิ่นเลมอน สร้างความสดชื่นได้มากทีเดียว
ในตระกูล Cold Brew ยังมีให้เลือกเป็น Black Coffee และ Milk Coffee ไว้วันหลังค่อยไปลองตัวอื่นๆอีกที
- Passionfruit Tea 150 บาท
เป็นชาที่ทำจากเสาวรส เสิร์ฟใส่แก้วทรงกลมๆเตี้ยๆหน่อย พร้อมฝ่านผลเสาวรสที่มียังมีเนื้อและเมล็ดติดมาด้วยส่วนนึง เสียดายแก้วนี้ผมไม่ได้ชิม
ต่อกันที่หมวด [Nikko Signature] ของร้านเป็นตระกูลที่ผมว่า ต้องสั่งเลยถ้ามาที่ร้านนี้
- The Chocolate (Frappe) 160 บาท
คือหมวดนิกโกะ ซิกเนเจอร์ของร้าน เขาจะตั้งชื่อเป็น The Chocolate , The Coffee อะไรแบบนี้ แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะสั่งแบบ Hot , Cold , Frappe อย่างแก้วแรกนี้สั่ง The Chocolate Frappe ก็มาเป็นโกโก้ปั่น ราดซอสช็อคโกแลตไว้ที่ฐานแก้ว แล้วเพิ่มวิปครีม ท็อปด้วยช็อคชิพอีกเล็กน้อย แก้วนี้คนรักช็อคโกแล็คห้ามพลาดที่เดียว รสชาติดี ดูดไปเคี้ยวไปด้วย
- The Coffee (Hot) 130 บาท
นิกโกะซิกเนเจอร์ ตัวที่เป็นกาแฟ น้องสั่งมาเป็นแบบร้อน เสิร์ฟมาพร้อมมาร์ชเมลโล่ด้วย (ส่วนตัวชอบวิธีการพรีเซนเตชั่นและการจัดวาง) ของทางร้านมากๆ เลือกภาชนะและวิธีการเสิร์ฟมาแบบที่เรียกว่าเป็นใคร ก็ต้องยกมือถือมาถ่าย Snap ภาพไว้ก่อนกินแน่ๆละ
- The Matcha (Cube) 165 บาท
แก้วสุดท้ายในตระกูลนิกโกะซิกเนเจอร์ที่สั่งมา ขอลองแบบชาเขียวบ้าง เป็นอีกแก้วที่มีกิมมิคในการทานเช่นกัน คือเป็นมัทฉะที่เอาไปทำเป็นน้ำแข็งก้อนๆ แล้วก่อนทานเราก็เทราดด้วยชาเขียวนม ปล่อยให้ละลายสักนิดแล้วค่อยทาน
ตัวก้อนๆมันมีหลายๆสี ผมไม่แน่ใจว่าสีก้อนออกส้มๆและเขียวอ่อนคืออะไร แต่ผมได้ลองกินก้อนสีเขียวเข้มไป มันคือมัทฉะเข้มข้นมากๆ เป็นอีกแก้วที่ชอบกิมมิคในการนำเสนอของร้านนี้
[Desserts]
มาต่อที่หมวดขนมหวานกันบ้าง วันนี้สั่งมาลอง 3 เมนูคือ
- Belgian Chocolate Raspberry Lava 200 บาท
ช็อคโกแลตลาวา ที่มีไส้ในเป็นซอสราสเบอร์รี่ เสิร์ฟมาพร้อมไอติมอีก1สกู๊ปและวิปครีม ปกติไอติมที่เสิร์ฟมาจะเป็นวนิลลาแต่เราก็สามารถสั่งเปลี่ยนรสชาติเป็นอย่างอื่นได้นะ อร่อยกำลังดี เสียดายนิดที่ว่าซอสราสเบอร์รี่ภายในมันหนืดไปหน่อย เลยไม่ไหลเยิ้มออกมาให้เห็น
- French Toast with Ice Cream 180 บาท
หน้าตาดูดีมาก เป็นขนมปังชุปไข่นำไปปิ้งบนกระทะ หั่นออกมาเป็นแท่งๆ จัดเรียงมาแบบในรูป มีไอศกรีมคุกกี้แอนด์ครีมใส่ไว้ตรงกลาง พร้อมสตรอเบอร์รี่สดหั่นจัดวางให้สีตัดกันเล็กน้อย โรยด้วยไอซ์ซิ่งให้ฟิลลิ่งเหมือนหิมะ เสิร์ฟพร้อม Maple Syrup ให้เรามาราดเองก่อนทาน จานนี้ขนาดอิ่มๆกันแล้ว ยังหมดเกลี้ยงภายในพริบตา
- Melon Katsuo (เมล่อน ปลาแห้งคัตซึโอะ) 135 บาท
เมนูนี้ผมเคยเห็นครั้งแรกที่ร้านโคโรฟิลด์ ราชบุรี แต่ของร้านนิกโกะจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว ของที่นี้จะหั่นเมล่อนออกมาเป็นชิ้นๆ ใส่ถ้วยมาแล้วมีปลาแห้งคัตซึโอะ (แบบที่โรยหน้าโอโคโนมิยากินั้นแหละ) โรยมาด้วย ส่วนตัวเป็นคนชอบกินไอ้เจ้าปลาแห้งคัตซึโอะอยู่แล้ว มาเจอเมนูนี้ต้องลองเลย โดยทางร้านมีนมข้นหวานใส่กาเล็กๆ มาให้ราดด้วย หากชอบหวานหน่อยก็ราดได้ แต่จริงๆผมชอบกินแบบเมล่อน+ปลาคัตซึโอะแค่นี้ก็ฟินแล้ว
ดูเป็นเมนูที่ไม่น่าจะเข้ากันได้เลยเนอะ มันคือผลไม้กะของคาวที่เป็นปลาแห้ง แต่พอมาจับคู่รวมกันแล้ว กลายเป็นรสชาติที่อร่อยมาก เวลากินจะได้สัมผัสชุ่มฉ่ำตอนเคี้ยวเมล่อนและได้รสเค็มนิดๆจากปลาคัตซึโอะ
Nikko Cafe นั้นเป็นคาเฟ่สไตล์นั่งชิลสบายๆในซอยเอกมัย12 มีให้บริการครบครันทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มนะครับ วันนี้เลยขอจัดเมนูแนะนำมาหลายเมนูเลย
เนื่องจากได้ดูรายการ The Dish เมนูทอง เทปที่ทางร้านได้ไปออกรายการ เลยขอสั่งจานนี้มาลิ้มลอง "หมูสามวัน" ซี่โครงหมูที่หมักกับซอสสูตรพิเศษถึงสามวันเพื่อความนุ่ม นำไปย่างจนสุกหอม ทานคู่กับซัลซ่าสลัด จานนี้ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดนะครับ เพราะทานง่ายมากๆ เอามีดกดนิดเดียว เนื้อก็หลุดออกจากกระดูกแล้ว แถมรสชาติก็เข้มข้น ชุ่มฉ่ำน้ำเนื้อ จานนี้ประทับใจมากๆครับ
และที่ห้ามพลาดอีกก็ได้แก่ "ชิคเก้นนัมบันทาทาร์ซอส" หรือแซนวิชไก่ทอดสไตล์ญี่ปุ่น ที่นำขนมปังแผ่นไปกริลล์จนหอมเนย แล้ววางด้วยไก่ทอดชิ้นโตกรอบนอกนุ่มใน ทานกับทาทาร์ซอสครับ
"ข้าวทาโก้" อาหารเม็กซิกันแบบฟิวชั่นด้วยการนำข้าวสวยมาใช้แทนแผ่นแป้งทาโก้ โดยชั้นล่างสุดเป็นข้าวญี่ปุ่นนุ่มลิ้น ตามด้วยหมูผัดเครื่องเทศสไตล์เม็กซิกัน ต่อด้วยมอสซาเรลล่าชีสมาแบบพูนๆ ตบท้ายชั้นบนสุดด้วยมะเขือเทศสดหั่นเต๋า วิธีการทาน จะตักทานไปเรื่อยๆ หรือคลุกให้เข้ากันแล้วทานก็ตามใจชอบเลยครับ มีมะนาวหั่นซีกมาด้วยเผื่อใครชอบความจัดจ้านครับ
หรือเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับคุณผู้หญิงก็มีนะครับ "สลัดไก่เทริยากิ" ผักสดกรอบราดด้วยน้ำสลัดงาแบบญี่ปุ่นเข้ากับความกลมกล่อมเนื้อไก่เทริยากิได้เป็นอย่างดีครับ
นอกจากเมนูอาหารคาว ก็ขอแนะนำของหวานอร่อยๆด้วย "เบลเยี่ยมช็อกโกแลตไส้ราสเบอรี่"ทำคล้ายๆกับช็อกโกแลตลาวา แต่เปลี่ยนไส้ลาวาข้างในเป็นราสเบอรี่แทน ความเปรี้ยวหวานของราสเบอรี่ตัดกับความขมของช็อกโกแลตได้ดีมากๆ ตัวไอศกรีมที่เสิร์ฟมาก็สามารถเปลี่ยนรสชาติได้นะครับ
หรืออีกเมนู "เฟร้นช์โทสกับไอศกรีม" ที่นำขนมปังชุบไข่ไปกริลล์จนหอมกรุ่น จัดตกแต่งพร้อมไอศกรีมและสตรอเบอรี่ ราดน้ำเชื่อมเมเปิ้ลแล้วทาน ฟินมากๆครับจานนี้
สำหรับเครื่องดื่ม ที่นี่ก็มีให้บริการทั้งชา กาแฟ และน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพครับ
ที่สั่งมาลองก็ได้แก่ "Cold Brew Sencha" ที่ได้จากการนำใบชามาสกัดเย็น ทานกับเลม่อน ตัวชาเองจะออกรสฝาด เข้ากันความสดชื่นของเลม่อนได้เป็นอย่างดีครับ
หรือถ้าเป็นคอช็อกโกแบต ขอแนะนำ "The Chocolate Frappe" ที่นำน้ำช็อกโกแลตเข้มข้นปั่นพร้อมกับช็อกโกแลตชิพ ท็อปปิ้งด้วยวิปครีมนุ่มฟู เข้มข้นมากๆครับ
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่
goo.gl/VwxdD7
ขอบคุณครับ
ตอนที่ไปเป็นช่วงGrand Opening ของร้าน ร้านเลยค่อนข้างวุ่นวาย ระบบรับออเดอร์ต้องปรับปรุงอย่างแรงงง ออเดอร์ผ่านไอพอตของเธอว์กิ็บเก๋แต่ มั่วมว็ากกก ><''
ส่วนเรื่องอื่นๆดูดาวที่ให้ได้เลย
วันนี้มาไกลถึงสัตหีบกันเลยครับ มาพบกับร้านอาหารสุดเด็ดที่ห้ามพลาดอีกร้านนึง "พลูเฮ้าส์" ครับ
ร้านกว้างขวางมากๆ มีทั้งส่วนในร่มและส่วนกลางแจ้ง รวมไปถึงร้านกาแฟน่ารักๆ ที่แปลกกว่าร้านอื่นคือ มีสระว่ายน้ำด้วยครับ! เป็นสระของทางร้านเองเลย มีห้องน้ำห้องแต่งตัวเตรียมไว้ให้พร้อม ว่ายน้ำเสร็จก็ทานอาหารหรือทานขนมต่อได้เลย เยี่ยมจริงๆครับ
สำหรับเมนูแนะนำที่ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดก็มี ปลากระพงทอดสมุนไพร ที่นำเนื้อปลากระพงหั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆไปทอดจนกรอบเหลือง คลุกเคล้ากับเครื่องสมุนไพรรสชาติดี, ยำแซลม่อนวาซาบิ ที่นำเนื้อแซลมอนปรุงสดมายำเข้ากับน้ำยำที่มีกลิ่นและรสของวาซาบิอย่างชัดเจน เพิ่มความจัดจ้านด้วยพริกขี้หนู แซ่บเว่อครับจานนี้, เห็ดหอมนึ่งหมูสับไข่เค็ม จานนี้ดูภายนอกอาจจะเฉยๆ แต่พอได้ลองจริงๆแล้วขอบอกว่าอร่อยมากๆ หมูสับผสมกับไข่เค็มโปะบนเห็ดหอม นำไปนึ่งจนสุกแล้วราดน้ำปรุงสูตรเด็ด เต็มหวานกลมกล่อมครับ
หรือท่านใดชอบอาหารจานเดียว ก็มีให้บริการนะครับ ขอแนะนำ ข้าวผัดเขียวหวานปลาสลิดไข่เค็ม, ข้าวผัดน้ำพริกนรกปลาสลิด, ข้าวผัดคั่วกลิ้งหมู สามจานนี้แซ่บสุดใจเลยครับ ข้าวผัดผัดมาได้แห้งร่วน หอมเครื่องแกงทุกจาน
ขนมของหวานทีร้านนี้ก็ไม่ธรรมดา มีให้บริการทั้งปังปิ้งทั่วไป ไปจนถึงบิงซูยอดฮิตเลยครับ
สนใจอ่านReview ฉบับเต็มได้ที่
> https://goo.gl/2lTGx8 < ขอบคุณครับ