All reviewing comments
Search for comments
ได้มีโอกาสไปทานร้านอาหารป่าที่มีactibityทางน้ำเยอะๆอย่างร้าน Jinda Cabana มาครับ
เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมน้ำครับ บรรยากาศในร้านสบายๆ มีทั้งโซนที่นั่งด้านนอกรับลม
ชมบรรยากาศหรือถ้าชอบความเป็นส่วนตัว ก็มีห้องแอร์ครับ ร้องคาราโอเกะได้ด้วยนะ
ร้านจินดาคาบาน่ามีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างเลย นอกจากจะมากินอาหารอร่อยแล้ว
ยังมีเจ็ตสกี มีลูกบอลน้ำ แพยาง เรือคายัค ไว้สำหรับผู้ที่ชอบความตื่นเต้นและมีน้องแกะ
ที่ทำหน้าตาน่ารักรอคอยอาหารจากเรา สำหรับคุณสาวๆที่อาจจะไม่ชอบความแอดเวนเจอร์
ก็มาเล่นกับน้องแกะได้ครับ
บรรยากาศแบบนี้หายากครับครบเครื่องมากๆ อาหารก็ อร่อยไม่แพง ใครอยู่โซนนั้น หรือชอบทางนี้ต้องแวะไปให้ได้เลยครับ รับรองติดใจแน่ๆ การเดินทางนี่ถ้าไม่เคยแถวบางช้างมาก่อนอาจจะงงๆนิดนึงครับผม วิ่งตามพิกัดGPSเอาแอบเลยไปนิด55+
(13.707690, 100.205305)
แต่ไปทีเสพทั้งบรรยากาศ เพื่อนฝูง อาหารอร่อยถูกปาก ราคาไม่แพง ทุกอย่างครบๆนี่คุ้มค่าเลยครับ
เชิญรับชมรีวิว เต็มๆ ได้ที่
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=akuchan&date=08-12-2014&group=1&gblog=32
ขอบคุณครับ
วันนี้มารีวิวร้านที่เหมาะสำหรับคนชอบกินลมชมวิว ริมคลอง บรรยากาศดีๆห่างไกลเสียงรถราในเมืองกรุง
คร่าวนี้ได้ไปทานร้าน "จินดาคาบาน่า" อีกหนึ่งรอบ เคยมาแล้วเมื่อปีเศษๆที่ผ่านมา ตอนนั้นก็ว่าเจ๋งแล้วนะ ร้านอะไรมีกิจกรรมทางน้ำทั้ง เจ็ตสกี พายเรือคายัค บอลลูนน้ำ เล่นน้ำ แทมโพลีน เลี้ยงแกะ คือมากันได้ทั้งครอบครัวเลย
มาครั้งที่ 2 นี้มีเพิ่มเมนูก๋วยเตี๋ยวปากอ้า ขาห้อย ณ จินดา เพิ่มมาอีก (อารมณ์คล้ายๆก๋วยเตี๋ยวห้อยขา พิษณุโลก ฟิวชั่นกับก๋วยเตี๋ยวดูดี๋ ที่มีชื่อเมนูแปลกๆมีระดับความเผ็ดหลายๆเลเวลให้เลือกสั่ง)
ลองสั่งไป 2 ชาม
>> ชามแรก ของน้อง สั่งก๋วยเตี๋ยวกันตวิชญ์ เป็นเส้นเล็ก ใส่หมูแดง หมูบด ลูกชิ้นหมูเด้ง ไม่ใส่พริก ชื่อก๋วยเตี๋ยวเป็นชื่อรร.อนุบาลในย่านนครปฐม ราคา 30 บาท (น้องบอกอร่อยมาก ไม่เผ็ดเลย ชอบมาก > ใช่สิก็มันเป็นก๋วยเตี๋ยวระดับอนุบาล เด็กน้อยกินนิหว่า)
>> อีกชาม ของผมเอง สั๋งก๋วยเตี๋ยว รด. ราคา35บาท เป็นบะหมี่ ใส่หมูแดง หมูบด ลูกชิ้น คล้ายๆชามแรก แต่ว่าใส่พริกมา 1ช้อนครึ่ง (คือความเผ็ดมีหลายระดับ เริ่มต้นที่ รด. แล้วก็มีเผ็ดมากขึ้นไปเรื่อยๆ) ชื่อก๋วยเตี๋ยวร้อยตรี >ก๋วยเตี๋ยว Ranger > ก๋วยเตี๋ยวหน่วยซีล > ก๋วยเตี๋ยว Recon และอีก 3-4 ชื่อจำไม่ได้ละ คือเพิ่มเลเวลความเผ็ดไปเรื่อยๆ ราคาอยู่ในช่วง 30 -50 บาท คือถ้าอยู่ใกล้ๆบ้าน ผมนี้คงไปกินประจำเป็นแน่แท้
ความชิลล์ คือมุมสำหรับนั่งทานก๋วยเตี๋ยว ทางร้านทำเป็นที่นั่งวิวริมคลอง ไว้ให้ นั่งทานไป ดูน้ำใสๆ ไหลเย็น บรรยากาศโครตดี
พอทานเสร็จก็เดินเล่น ดูแกะ ดูนก อะไรไปเพลินๆ เห็นมีคนพายเรือคายัคเล่นกันด้วย (คือกิจกรรมทางน้ำ ของร้านบริการฟรี ยกเว้นเจ็ตสกี ที่ต้องจ่ายค่าน้ำมัน ค่าเช่าเล่น แต่อย่างอื่นฟรีหมด)
มาต่อกันที่ Main Course กันครับ (คนอ่านรีวิวกล่าวในใจ>>นี้แกกิน ก๋วยเตี๋ยวเป็น appetizer เหรอเนี้ย)
เนื่องจากทางร้านเพิ่มเมนูสเต็กมาเพิ่มเติมหลายอย่าง ดูน่าทานมาก มาคราวนี้เลยขอลองแนวสเต็กสักหน่อย
>> Steak T-bone ริมโขง 220 บาท
เป็นสเต็กเนื้อส่วนทีโบน ชิ้นใหญ่พอดู มาพร้อมส้มตำ ข้าวเหนียว และน้ำพริกหนุ่ม ถือว่าเป็นสเต็กลูกครึ่งอีสานฟิวชั่น ที่ลองแล้วชอบมาก ตัวเนื้อสเต็กย่างมาสุกกำลังดีราดน้ำจิ้มแจ่วมา แล้วให้เราหั่นจิ้มกินกับน้ำพริกหนุ่ม ตามด้วยข้าวเหนียว-ส้มตำ แซ่บอีหลี สะใจหลายๆ
>> สเต็กหมูเนยสมุนไพร 120 บาท
จานนี้เป็นหมูส่วนสันใน นำไปกริลล์แล้วท็อปปิ้งข้างบนมาด้วยเนยที่ผสมสมุนไพรมา (ตอนกินจะมีรสคล้ายๆกะเนยกระเทียมด้วยนะ) เสิร์ฟมาพร้อมน้ำเกรวี่ ครัวซองค์ ผักสลัด และเฟรนฟรายด์ มาอย่างละเล็กๆน้อยๆ เสิร์ฟทั้งหมดมาบนกระทะร้อน
>> ไส้กรอกเยอรมัน 180 บาท
เป็นไส้กรอกหมูและไส้กรอกพริกไทดำ กริลล์สุกมา 2 ชิ้น เสิร์ฟพร้อมซาวเคร้าท์(ผักดองแก้เลี่ยน) และครัวซองค์อีก 1 ชิ้น ตอนทานราดมัสตาร์ดอีกนิดหนึ่ง เข้ากันดีนะ
>> ไก่อบสมุนไพร 200 บาท
จานนี้เห็นอยู่ในเมนูแนะนำของร้านเลยลองสั่งมาทานดู เป็นอาหารไทยเหมาะทานแกล้มกะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดีจัง เป็นไก่หมักด้วยเครื่องเทศหลายอย่าง เช่นขมิ้น,รากผักชี ,ตะไคร้,ใบมะกรูด,ข่า,นมสด แล้วน้ำไปอบ รสชาติสมุนไพรเข้าถึงเนื้อดี
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านชิลล์ ย่านสามพราม นครปฐม ที่ควรค่าแก่การมานั่งชิลล์ ทานอาหารกัน แผนที่ทางไปร้านก็หาไม่ยากครับ กูเกิลด้วยคำว่า "จินดาคาบาน่า" แล้วก็จะเจอหมุดปัก Google map มาให้เห็นเลย กดจากมือถือให้นำทางไปถึงร้านได้เลย
ร้านนี้เป็น 1 ใน 5 ร้านที่ติดอันดับ ร้านน่านั่งชิลล์ ริมน้ำท่าจีน นครปฐม จากเว็บชิลไปไหน.com อีกด้วย (ลองไปหาบทความอ่านกันดู)
สวัสดีครับ วันนี้มารีวิวอีกแล้ว ที่ร้าน จินดาคาบาน่า ครับ
พอดีได้ข่าวมาว่า ทางร้านปรับปรุง และเพิ่มเมนูใหม่ๆหลายแบบ จึงพลาดไม่ได้ต้องมาลิ้มลองซักหน่อยครับ
เดิมทีจินดาคาบาน่าเป็นร้านอาหารป่านะครับ เมนูใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาได้แก่ "ก๋วยเตี๋ยวปากอ้าขาห้อย" และ เมนูสเต็กครับ
มาลองก๋วยเตี๋ยวกันก่อนเลยครับ นั่งทานกันตรงริมคลองเลย เป็นม้านั่งยกสูง เลยเรียกชื่อว่า ขาห้อย ครับ
ตัวก๋วยเตี๋ยวมีหลายรูปแบบให้เลือกนะครับ แต่ทีเด็ดคือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำแบบโบราณสูตรถั่วคั่วครับ
มีชื่อให้เรียกตามระดับความเผ็ดนะครับ ลองสอบถามทางร้านดูก่อน แต่เครื่องก๋วยเตี๋ยวเด็ดมากจริงๆ
ทั้งหมูสับ หมูเด้ง หมูบะช่อ หรือเครื่องทะเลก็มีนะครับ
พี่ที่ไปด้วยกันสั่ง "ก๋วยเตี๋ยว รด." ครับ เป็นบะหมี่ต้มยำ ระดับความเผ็ดพริกหนึ่งช้อนครึ่ง
ส่วนของผมเป็น"ก๋วยเตี๋ยวกันตวิชญ์" เป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก ใส่หมูแดง หมูบด ลูกชิ้นหมูเด้ง ไม่ใส่พริกเลยครับ
(ที่ชื่อว่า กันตวิชญ์ เพราะเป็นชื่อรร.อนุบาลที่คนนครปฐมรู้จักกัน หมายถึงก๋วยเตี๋ยวไม่ใส่พริกนั่นเองครับ เด็กน้อยม๊ากก 55+)
มาต่อกันที่เมนูสเต็กครับ ทางร้านจินดาคาบาน่า สั่งเตาย่างเนื้อมาจากเมืองนอกเลยนะครับ รับประกันความอร่อยครับ
เมนูแนะนำคือ "สเต็กทีโบนริมโขง" ที่นำเนื้อส่วนทีโบนมากริลล์จนสุก เสิร์ฟพร้อมกับข้าวเหนียว ส้มตำ และน้ำพริกหนุ่ม เป็นสเต็กฟิวชั่นลูกครึ่งอึสาน
เนื้อทีโบน ทานเดี่ยวๆก็อร่อยเข้มข้น ทานกับข้าวเหนียวส้มตำก็แปลกไปอีกแบบ แต่ไม่น่าเชื่อว่า เอามาทานกับน้ำพริกหนุ่มแล้วเข้ากันมากๆครับ
หรือ "สเต็กหมูเนยสมุนไพร" ที่นำสันในหมูมากริลล์จนสุก ราดด้วยเนยสดผสมสมุนไพรสูตรเด็ด ทานคู่กับครัวซอง เฟร้นฟราย และสลัดครับ
จบไปอีกทริปฟินๆ สนุกสนานทั้งกิจกกรมที่ทางร้านมีให้เล่นต่างๆและอาหารก็อร่อยคุ้มค่า เห็นว่าเดี๋ยวจะลง ซีฟู๊ดเซตใหญ่อีก
โอ๊ย อยากกลับอีกมากๆครับ เพื่อนพี่น้องที่สนใจและเคยไปมาแล้ว กลับไปอีกรอบรับรองไม่มีเบื่อครับทางร้านอัพเดตอะไรใหม่ๆโอๆ
อยู่เรื่อยๆเลยครับ สนใจสอบถามติดตามได้ที่ทางเพจของทางร้านดูได้เลยครับ
อ่านReview ฉบับเต็มได้ที่
http://goo.gl/GSGLRo
ขอบคุณครับ
พอดีมีมางานที่เชียงใหม่ได้มีโอกาสไปร้านอาหารร้านนี้..
วันนี้เลยจะมารีวิวร้านอาหารเพื่อสุขภาพแบบจริงๆจังๆกันครับ
ร้านนี้เป็นร้านอาหารมังสวิรัติเปิดใหม่ของเชียงใหม่ครับ
ชื่อร้านว่า "J Kitchen (by Vieng Joom On)" ครับ
ร้านมีสองชั้นนะครับชั้นสองจะมีโต๊ะรองรับเยอะอยู่ครับเหมาะกับมาประชุม
นัดคุยงานหรือครอบครัวใหญ่ๆ ต้องการความเป็นส่วนตัวนิดๆ แล้วจะมี
พนักงานคอยขึ้นมาประจำบริการไว้เลยไม่ต้องใช้กระดิ่งแบบด้านล่างครับ
ส่วนเรื่องอาหาร ที่ได้ลองก็มี...
• Bake apple ครับ แก้วนี้โดดเด่นในเมนูน่าสั่งมาก
เป็นชาที่ไม่มีคาเฟอีนด้วย ราคา 90 บาท รสชาติดีมากๆ ครับ
หอมอมเปรี้ยวกำลังดีครับ
• Earl gray green tea ครับ ราคา 90 บาทเช่นกัน
เพิ่งเคยเจอเอิร์ล เกรย์แบบเย็นครับ แต่ติดใจเลยครับหอมมากๆ
ไม่ฝาดเลย ใส่น้ำแข็งขนาดนี้รสชาติ ความหอมแทบไม่เจือจางเลยครับ
• Popeye cheese ครับ ราคา 95 บาท เสริฟพร้อม
ซัลซ่าซอส มองทีแรกก็อืมไม่เด่นไรมากจานนี้ แต่พอได้ลอง
โห หยุดไม่ได้ครับ 55+ ไส้ในเป็นชีส(หอมสุดๆ)และผักโขมทาซัลซ่าซอส
แล้วลงตัวมากๆครับ อร่อยมากๆ แนะนำครับ
• ทอดมันข้าวโพดหวาน ครับจานนี้ราคา 105 บาท
เสริฟพร้อมน้ำจิ้มที่คล้ายอาจาดครับไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่า
ทานตอนร้อนๆ มีสมุนไพรหลายชนิดด้วยครับ รสชาติรวมๆจะเผ็ดนิดๆ
ลงตัวครับจานนี้ตัวข้าวโพดหอมหวานเด่นมากจริงๆ
• แองเจิ้ลแฮร์ผัดน้ำมันเมล็ดชา ราคา 140 บาท
เส้นสปาเก็ตตี้แองเจิ้ลแฮร์ผัดกับน้ำมันเมล็ดชามีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็น
อย่างมาก เพราะมีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำ และมีกรมไขมันไม่อิ่มตัวสูง
กรดไขมันไม่อิ่มตัวเหล่านี้ช่วยลดระดับ คอเรสเตอรอลชนิดไม่ดี
และเพิ่มระดับคอเรสเตอรอลชนิดดี แถมยังใส่มะเขือเทศราชินีมากอีก
คุ้มค่ามากๆครับจานนี้
• ข้าวผัดเจคิทเช่น ครับ เมนูแนะนำทั้งยังมีชื่อร้านการันตี
ไม่สั่งมาลองไม่ได้ครับ...ทานแบบโรยเครื่องเคียงตามใจชอบที่เด่นๆ
คือโปรตีนเกษตรครับ กรอบร่อยมากๆ เข้ากันสุดๆ มะนาวหั่นมาทั้งเปลือกเลย
ให้ทานเลยไม่ต้องบีบใส่ ตอนแรกไม่กล้าลองนิดๆ พอลองทานเข้ากันมากๆครับ
อร่อยมากๆ ราคา 120 บาทครับเมนูนี้ต้องลองครับ
• ไข่ตกน้ำปวยเล้ง ครับชื่อเมนูแอบแปลก ราคา 90 บาทครับ
ส่วนตัวชอบพวกไข่น้ำอยู่แล้ว ทานคู่กับ ข้าวผัดเจคิทเช่นนี่ขอบอกว่า
อร่อยๆมากๆ แย่งซัดเรียบแทบไม่แบ่งใครเลยครับ 555+
แทบจะยกซดครับ ชอบมาก ๆ มีเห็ดต่างๆ ทำให้ลืมเนื้อหมูไปเลยครับ
ไม่จำเป็นต้องมีเลยครับ แจ่มมากๆ
(จริงๆอร่อยจนแทบลืมไปเลยว่าทานอาหารมังสวิรัติอยู่ด้วยซ้ำ)
• ยำตะไคร้เห็ดเข็มทอง ครับ ราคา 150 บาท เป็นจานใหญ่ครับ
ถ้าจานเล็กจะราคา 90 บาท จานนี้ตอนแรกไม่กล้าทานครับกลัวเผ็ด...
แต่เป็นคนชอบเห็ดเข็มทองมาก เลย ลองตอนหลังๆ โห หยุดไม่ได้ครับ
อร่อยมากๆ ขนาดได้ตอนได้ทานคือทิ้งไว้นานแล้วเริ่มไม่กรอบแล้ว
ยังติดใจไม่สนเรื่องเผ็ดแล้วครับ ซัดแหลกขนาดไม่ให้เก็บเลยทีเดียว
ชอบรสชาติและ ตัวเห็ดเข็มทองชุบทอดมากๆครับ แนะนำเลยครับจานนี้
• mousseมะพร้าวอ่อน และ mousseลอดช่อง ราคาแก้วละ 25 บาทครับ
ตอนแรกอิ่มไม่ไหวแล้ว เจ้าจองร้านมีมาแนะนำว่า ทานตัวนี้แล้วจิบชาตาม
ต่อให้อิ่มแค่ไหนก็หมด ตอนแรกไม่เชื่อครับ ลองทานนิดเดียว...
อื้อหือ... หวานหอมอร่อยมากๆ ครับ เนื้อมะพร้าวอ่อนและลอดช่องนุ่ม
เข้ากับมูชมากๆ สุดๆครับแทบจะสั่งเพิ่มอีกเยอะๆเลยครับ
• ชาที่จิบตามคำแนะนำเป็น ชาร้อน 1001 arabian night ครับ
ราคา 90 บาทต่อ 1 กา เติมน้ำร้อนเพิ่มได้ครับ
รู้สึกจะเป็นชาดำกับชาเขียวมาเบลนด์กันกับดอกไม้ หอมมากๆครับ
ทานต่อจากมูสทะพร้าวอ่อนจะตัดกันมากๆ ฟินมากๆครับจริงๆ
จากใจเลยตอนแรกที่พี่ชายชวนไปทานร้านอาหารแนวมังสวิรัตินี้
แอบอุ่ย...ไม่ใช่แนวม้าง... แต่ก็ลองไปดูครับ ไปถึงร้านก็โอ้วตกแต่ง
ได้มีสไตล์ดีมากๆ ครับ ออกไปทางแนวๆ อินเดียๆ ทิเบตๆ
ไปถึงชมร้านก่อนเลย เค้าบอกโต๊ะ เก้าอี้ หน้าต่างนี่ อินพอร์ตมาจากอินเดีย
และเพื่อนบ้าน หลายๆชิ้นเลย โอ้ว ได้อารมณ์จริงๆ...
พอทานมื้อเสร็จได้นั่งคุยเกี่ยวกับมังสวิรัติ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
แบบนี้แทบอยากจะเป็นมังฯไปอีกคนเลยครับ เสียอย่างเดียวพอกลับมา
กรุงเทพฯแล้วหาร้านมังสวิรัติอร่อยๆแบบนี้ยากมาก
เพื่อนๆ คนไหนอยู่เชียงใหม่ หรือใกล้เคียงพาครอบครัวคนที่รัก
ไปลองได้เลยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
ก๋วยเตี๋ยวเรือที่คุณสำผัสได้ถึงการบริการที่ห่วยแตกขั้นเทพ ยอมเสียเงินฟรีแบบไม่กินเลยบริการห่วยขั้นเทพ มีลูกบอกลูกมีหลานบอกหลานมีเพื่อนบอกให้หมด เสียความรู้สึกมากมาย จะไม่เข้าไปเหยียบอีกเลย สาบาน
ร้านชาบูเปิดใหม่ ย่านเกษตร-นวมินทร์ อยู่ในซอยลาดปลาเค้า41 (ซอยเดียวกับสนามฟุตบอลโคปา) เป็นชาบูสไตล์ไทย-อีสาน ราคาเนต 369 บาท
น้ำซุปมีให้เลือก 2 แบบ น้ำซุปใสและน้ำซุปแจ่วฮ้อนสไตล์อีสาน
หม้อชาบูเลือกได้ว่าจะเอาแบบน้ำเดียว หรือสองน้ำ (ไม่ต้องเพิ่มเงิน)
มีเมนูให้เลือกเยอะ40 กว่าอย่าง ที่ถูกใจคือ เนื้อน่องลาย เนื้อใบพาย หมูสามชั้น หมูสันคอ
และกุ้ง-หมึก ก็มีเหมือนกัน
ตระกูลพวกลูกชิ้นก็มีให้เลือกหลายประเภท มีลูกชิ้นซิกเนเจอร์ของร้านด้วยชื่อว่า คริสตัลแจ่วโว้ยย ลูกค้าที่สอดไส้น้ำจิ้มแจ่วอยู่ข้างใน ส่วนลูกชิ้นอื่นๆที่ชอบก็มี เต้าหู้ชีส ลูกชิ้นกุ้งมังกร ปลาม้วนไข่เค็ม ลูกชิ้นไข่ปลา(ข้างในสอดใส้ไข่ปลา เวลากัดจะเห็นไส้ปลาทะลักออกมาด้วย ฟินมาก)
นอกจากนี้ยังมีทีเด็ด ที่รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์ด้วยคือ ร้านนี้มี คอหมูย่าง น้ำตกหมู ลาบหมู ตับหวาน ปีกไก่ทอด ลาบหมูทอด(เป็นชิ้นกลมๆ)
สวัสดีครับผม
วันนี้มีโอกาสอันดีได้ไปแถวลาดปลาเค้ามาครับ แล้วก็ได้ไปพบกับร้านเด็ดร้านนึงเข้า
ซึ่งเป็นร้านชาบูแบบฟิวชั่นครับ ร้านนี้อยู่ในซอย ลาดปลาเค้า41 ซอยเดียวกับสนามฟุตบอลCopaครับแถวนั้นคงรู้จักกันดี
ชื่อร้าน "แจ่วโว๊ย" ครับ เป็นร้านสไตล์วัยรุ่นๆผสมไทยอีสานครับ
ซึ่งแต่ละเมนูในร้านก็ไม่ธรรมดาครับ เริ่มต้นที่ซุป ที่ร้านแจ่วโว้ยนี่มีให้เลือกสองซุป คือ
ซุปใส กับซุปแจ่วฮ้อนครับ (แน่นอนว่าสั่งฮาล์ฟน้ำซุปได้ครับ อย่างละครึ่งหม้อ)
มาต่อกันที่เครื่องชาบูครับ ผมแนะนำเลย สันคอหมูอร่อยมากครับ ผมเบิ้ลไปหลายถาดเลย
หรือท่านใดชอบเนื้อ ที่นี่ก็มีให้บริการนะครับ มีหลายแบบให้เลือก คนรักเนื้อฟินแน่ๆครับ
อีกอย่างนึงที่แนะนำนะครับ คือ คริสตัลแจ่วโว้ย ลักษณะคล้ายลูกชิ้น ข้างในเป็นน้ำจิ้มแจ่ว
ปรุงรสพิเศษครับ อร่อยมากๆ รสชาติเข้มข้นครับ
ที่พิเศษคือ ร้านนี้มี Appetizers หรือเมนูทานเล่นรวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์ด้วยครับ ซึ่งก็จะเป็นอาหารอีสานครับ เช่น คอหมูย่าง ลาบหมู น้ำตกหมู ปีกไก่ทอด ฯลฯ ขอบอกว่าคอหมูย่างอร่อยมากครับ
ร้านนี้เพิ่งเปิดได้ไม่นานครับ ตอนนี้มีแบบทั้งสั่งตามเมนูและบุฟฯ 369 บาทnet ทานได้ 1 ชั่วโมงครึ่งครับ
เรทนี้ส่วนตัวว่าอาจจะดูสูงไปสำหรับย่านนั้น แต่รวมทั้งน้ำอัดลมและAppetizersเด็ดๆไม่อั้นไว้แล้วครับ
ผมว่าคุ้มค่าเลยทีเดียวเพื่อนพี่น้องท่านใดอยู่แถวนั้นหรือผ่านไปต้องลองให้ได้ครับ
อ่านรีวิวผมร้านนี้และร้านอื่นๆฉบับเต็มๆได้ที่
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=akuchan&month=23-09-2015&group=1&gblog=42
ขอบคุณครับ
ผมว่าร้านนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความนิยมในร้านเนื้อย่างยาคินิคุเลยนะครับ เนื้อย่างมีรสดีมากๆ และหลังๆมาก็มีการเพิ่มเมนูขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นกุ้งตัวใหญ่ๆ แซลมอนซาชิมิ ที่สำคัญคือร้านนี้คิดเงินแบบ net ไม่ต้องบวกอะไรให้งงอีก ถึงทุกวันนี้จะมีทางเลือกมากมายแต่ผมว่าไจแอนส์ยังเป็นตัวเลือกต้นๆอยุ่ครับ!
มีโอกาสไปร้านTea room บรรยากาศดีดี โรแมนติกๆ ใจกลางเมืองมาครับ
กับร้านที่มีชื่อว่า " Chan & Yupa Tearoom " ร้านนี้เป็นร้านที่นำเอาบ้านไม้สักอย่างดี
โดยช่างที่มีชื่อเสียงสมัยเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่ราวปี พ.ศ. 2497 มาปรับปรุงให้เป็น
ร้านน้ำชา บรรยากาศดีๆ ใจกลางเมือง โดยชื่อร้านก็เป็นชื่อของคุณตาฉันท์และคุณยายยุพา
เพื่อเป็นเกียรติและต้องการให้ร้านนี้ดูสดใสมีชีวิตชีวาเหมือนตอนคุณตาและคุณยายยังอยู่ครับ
ฟังมารอบแรกแล้วซึ้งเลยทีเดียว TTwTT
สรุปแล้วฟินๆพอดีพุงกันไปครับ ร้านนี้ชอบมากครับ บรรยากาศก็ดีเวอร์ สงบ สวย
ตกแต่งได้เข้าท่าเข้าทีสุดๆ
อาหารก็ไม่ใช่เล่นๆครับโฮมเมดทุกระเบียบนิ้วละยังอร่อยอีก ราคาก็สมเหตุสมผล
บางอย่างถูกกว่าที่คิดด้วยซ้ำ เท่าที่นั่งๆไปหลายชั่วโมง เสพไปทั้งบรรยากาศและอาหารจัดจานสวยๆ
วัตถุดิบดีๆแล้วก็เห็นได้ว่าลูกค้าส่วนมาก จะเป็นต่างชาติกัน80%upเลยครับ
ที่ตั้งร้านก็ไม่ไกลมากครับอยู่ระหว่างหลาง BTSนานากับ BTSอโศกครับ
หลังสวนชูวิทย์ ซอยสุขุมวิท10เข้าไปนิดเดียวเจอเลย
ผมมีรีวิวเต็มๆไว้ที่
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=akuchan&month=27-12-2014&group=1&gblog=33
ครับถ้าสนใจลองเข้าไปอ่านดูได้ครับ
อร่อย มะลอง มะรู้
บุฟเฟต์ราคา 399++ มีซุปให้เลือกไ้ด้ 4 แบบ (ชาบู, สุกียากี้, มะเขือแบบไต้หวัน, มองโกล)
ซุปสุกียากี้แบบญี่ปุ่นอร่อยดีคับ ออกหวานๆ หน่อย มะเขือไต้หวันรสชาติออกแนวน้ำมะเขือไปหน่อย เปรี้ยวๆ เค็มๆ ส่วนมองโกลไม่ได้ลองแฮะ
โดยรวมใช้ได้เลยคับ เนื้อโอ น้ำจิ้มโอ ซุปโอ บริการใช้ได้
สวัสดีครับทุกท่าน หลังจากที่ได้ไปทานมา ก็อยากจะเอามารีวิวแบ่งปันนะครับ เผื่อเพื่อนๆคนไหนสนใจจะได้เป็นข้อมูลนะครับ ^^
รสชาติอาหารดี โดยเฉพาะน้ำจิ้มสูตรพิเศษของทางร้าน(โอซาก้าสไปซี่ซอส)ที่มีรสชาติเปรี้ยวนำตามด้วยเค็มหวานกำลังดี มีรสเผ็ดเพียงเล็กน้อย ทำให้กินกับชาบูแล้วไม่เลี่ยน
น้ำซุปที่ผมเลือกในครั้งนี้ ทางซ้ายเป็น Suki yaki soup เป็นซุปใสสีน้ำตาลแดงอร่าม มีรสออกแนวหวานเค็มอร่อยรสชาติดี ทางขวาเป็น Osaka spicy soup เป็นสูตรพิเศษของทางร้านแต่รสค่อนข้างอ่อน จนบอกรสไม่ค่อยถูกเพราะเผ็ดนิดๆ ตอนแรกชอบน้ำซุปสุกี้ยากี้มาก แต่ทานไปสักพักจะรู้สึกเค็มเกินไป(เพราะน้ำระเหยออก) เลยต้องเปลี่ยนมาเป็นซุปโอซาก้าแทน แต่ก็รู้สึกไม่เข้ากับน้ำจิ้มยังไงไม่รู้ ผมเลยคาดเดาว่าน้ำซุปใสน่าจะเป็นอะไรที่ลงตัวสุดครับ
ในส่วนของเนื้อ ผมสั่งเซตเนื้อพรีเมี่ยมไป เป็นเนื้อไทยสไลด์บางคุณภาพใช้ได้คับ ในเซตจะมีเนื้อมาให้2ชนิดครับ พร้อมกับชุดผัก ผักก็ค่อนข้างธรรมดาคับแต่ชอบเส้นอูด้งหนึบดี ไม่เละ ในส่วนของหมูนุ่มก็ทำได้ดีครับ(ถือว่าดีกว่าของMKเล็กน้อยครับ)
บรรยากาศร้านเปนร้านค่อนข้างเล็ก มีอยู่ประมาณ 10 โต๊ะ (เหมือนจะมีห้อง VIP 1 ห้อง) การตกแต่งร้านค่อนข้างธรรมดา สำหรับบรรยากาศผมว่าธรรมดาครับ
พนักงาน บริการดีมาก คอยดูว่าลูกค้าต้องการอะไร พูดจาดี เป็นมิตร มีการนำเสนอเมนูแนะนำ บังเอิญวันที่ไปทานมีลูกค้าอยู่เพียง2โต๊ะ พนักงานจึงมารอบริการอย่างใจจดใจจ่อ ทำให้รู้สึกอึดอัดไปบ้างพอสมควร
โดยรวมถือว่าใช้ได้ครับ ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองมาทานดู
การเดินทาง เดินทางด้วยรถยนต์หรือแท็กซี่จะสะดวกที่สุด
ปล.ถ้าทานแต่เนื้อไทย เป็นbuffetน่าจะคุ้มกว่าครับ ^^
ราคาอาหารและเครื่องดื่ม +10% นะครับ
ชาบูที่สาขาเซ็นทรัลเปิดบริการยังค่ะ
ชาบูชิเหมือนกันทุกสาขาค่ะ
แต่รู้สึกว่าที่นี่ซูชิจะไม่ค่อยสด ไม่ใหม่
ทานแล้วไม่ค่อยพอใจค่ะ แห้งๆ หน้าน้อยเน้นแต่ข้าวปั้น
ส่วนเนื้อที่เรียงรายมาก็อยู่ในขั้นธรรมดาค่ะ สมราคาที่เป็นบุฟเฟ่ราคาไม่แพง
เคยมีช่วงนึง ชอบมาทานร้านนี้มากคับ ทั้งๆ ที่ผมก็ว่าไมได้อร่อยเทพอะไรขนาดนั้น - -'
แต่ชอบที่ร้านมันสะดวกดี เดินเข้ามา สั่งเป็นชามๆ กิน เวลามาคนเดียว พนักงานก็บริการดี มาก เคยลืมเงินทอนพันบาท กลับมาอีกวัน เก็บไว้ให้ครบทุกบาททุกสตางค์เลย เลยประทับใจคับ - -'
ส่วนราคา ผมว่าแพงไปหน่อยนึง เพราะว่าปริมาณเนื้อที่เค้าให้มันน้อยมั้งคับ
เห็นเป็นเมนูใหม่ ราเม็งสไปรูริน่า เส้นทำจากสาหร่ายสไปรูริน่า แถมมีโปรสั่งพร้อมไก่ทอด 199 เลยสั่งมาลองครับ
มาถึง อ่าว ดันเป็นราเม็งมังสวิรัติ -_-"
ผักล้วน น้ำซุปก็ซุปผัก ไม่มีเนื้อเลย กินแล้วเลยพิลึกๆ ครับ แถมเส้นผมว่าเหมือนกินบะหมี่ผักเอ็มเคเลยอะ
สรุปไม่ชอบอะครับ คหสต.
มีโอกาสมาทำธุระแถวๆสุวินทวงศ์ และพอดีกับที่เพื่อนท่านหนึ่งได้แนะนำร้านชาบูที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อไม่นานมานี้ อยู่ใกล้กับตลาดสี่แยกหนองจอก ร้าน "Shabu for U" ครับ
ร้านชาบูฟอร์ยูเป็นร้านชาบูแบบบุฟเฟ่ต์ ที่มีให้บริการในสองราคา คือ 289 บาท และ 389 บาท ครับ
โดยในราคา 289 บาทจะมีบริการสันคอหมูคุโรบูตะ สันนอกหมูคุโรบูตะ กุ้งขาว และอาหารทุกอย่างบนสายพาน
ส่วนน้ำซุปจะสามารถเลือกได้สี่แบบคือ น้ำซุปเห็ดหอม น้ำซุปต้มยำน้ำใส น้ำซุปแจ่วฮ้อน และน้ำซุปต้มโคล้งครับ
และราคาคือ 389 บาท จะเพิ่มเนื้อวัวออสเตรเลีย ส่วนไหล่ ใบพาย ริบอายและแองกัส
และมีเพิ่มเติมคือ เบคอนหมูคุโรบูตะและหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ครับ
ส่วนน้ำซุปจะสามารถเลือกได้หกซุป โดยเพิ่ม ซุปชาบูน้ำดำ และซุปต้มยำมันกุ้งน้ำข้นครับ
โดยบุฟเฟ่ต์สองราคานี้ เป็นราคาที่เน็ทแล้วนะครับ รวมเครื่องดื่มที่มีทั้งน้ำเปล่า น้ำอัดลม ชาเขียว
และอาหารทานเล่นพวกซูชิ ของทอด และของหวานที่มีแพนเค้ก สายไหม ขนมหวาน ผลไม้และไอศกรีมโฮมเมดครับ
ผมทานชุด 389 บาทครับ และสั่งน้ำซุปมาสี่แบบ (เพราะไปกันสี่คน) คือน้ำซุปชาบูน้ำดำแบบญี่ปุ่น น้ำซุปต้มยำมันกุ้งน้ำข้น น้ำซุปเห็ดหอท และน้ำซุปแจ่วฮ้อนครับ
ซึ่งน้ำซุปของที่ร้านชาบูฟอร์ยู จะรสอ่อนๆ ไม่เข้มข้นมาก เพราะอยากให้ซดได้คล่องคอครับ
ผมชอบมากๆ เพราะน้ำซุปชาบูน้ำดำแบบญี่ปุ่น ถ้าต้มไปเรื่อยๆบางครั้งมันจะเข้มจนทานไม่ไหว แต่ของร้านชาบูฟอร์ยู ทานไปเรื่อยๆ ซดน้ำซุปไปด้วย ก็ยังสบายๆครับ
นอกจากชาบูแล้ว อาหารทานเล่นก็ยังน่าสนใจครับ มีทั้ง กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา ไก่ชุบแป้งทอด ตับหมูทอดกระเทียมพริกไทย และปอเปี๊ยะทอด
และยังมีซูชิ ที่เป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ ปูอัด ยำสาหร่ายญี่ปุ่น และสลัดปูอัดครับ
ในส่วนของของหวานก็มีให้ทานอีกหลากหลาย ที่นี่มีซุ้มทำแพนเค้กและซุ้มทำสายไหม ซึ่งจะทำด้วยตัวเอง หรือขอให้น้องๆพนักงานทำให้ก็ได้นะครับ
มีไอศกรีมแบบโฮมเมด ขอแนะนำ สตรอวเบอร์รี่เชอร์เบตที่อร่อยมากๆ ได้ความเปรี้ยวอมหวานของสตรอวเบอร์รี่แบบเต็มๆ
และยังมีขนมหวานแบบไทยๆ ที่มีลอดช่องวัดเจษเป็นตัวเด็ดด้วยครับ
รีวิวฉบับเต็มอ่านได้ที่
https://goo.gl/9g36Gk
วันนี้ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาทานอาหารป่าดูบ้างจ้า หลังจากกรำศึก (ทำงานเยี่ยงทาส) มาหลายเพ-ลา
ขับรถออกมาไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่ แค่สามพราน นครปฐมนี่เอง ก็ได้ทานอาหารป่ารสจัดจ้านแบบต้นตำรับแล้ว
ร้านจินดาคาบาน่าไม่ใช่ว่าเป็นแค่ร้านอาหารนะคะ แต่ยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจหรือทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวได้ด้วย
เพราะที่นี่มีทั้งเจ็ตสกี ลูกบอลน้ำ แพยาง ฯลฯ มีน้องแกะให้เราป้อนอาหาร หรือถ้าอยากพักผ่อน ก็มีเปล มีเตียงผ้าใบให้นอนชมบรรยากาศริมน้ำด้วยค่ะ
ส่วนเรื่องอาหารก็เด็ดๆทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเมนูเบสิคอย่างไข่ตุ๋นทรงเครื่อง ที่จัดมาเต็มทั้งไข่และเครื่อง รวมมาในหม้อ
หรือเมนูยอดฮิตของร้านอาหารป่าอย่าง แกงป่าไก่ หรือต้มยำปลาคังน้ำใส ที่นี่ก็รสชาติจัดจ้านจากเครื่องแกงที่โขลกเองตามสไตล์ไทยแท้ค่ะ
แต่เมนูที่ห้ามพลาดเลยคือ เมนูที่ทำจากกบค่ะ
เพราะร้านจินดาคาบาน่าใช้กบคัดไซส์พิเศษ ที่เรียกว่ากบภูเขา นำมาทำเป็นอาหารป่าหลากหลายรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็นแกงป่า ทอดกระเทียม หรือยำแบบไทยโบราณ ก็อร่อยและรสชาติดีทั้งนั้น กบก็ตัวใหญ่เบิ้ม รับรองว่าคนที่ชื่นชอบเมนูกบต้องไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ^^
คออาหารป่า หรือผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมเอดเวนเจอร์ หรือครอบครัวสุขสันต์ที่หาที่พักผ่อนพร้อมทานข้าวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ อย่าลืมนึกถึงร้านจินดาคาบาน่านะคะ