All reviewing comments
Search for comments
unbelievable time at this awful place, the rudest Japanese lady i have ever had the misfortune to meet and she was the owner!! i was polite,well dressed and i don't drink,so no idea why she was so rude.avoid!!
ร้านปิ้งย่างแนวญี่ปุ่น ร้านสวยหรูเดินทางลำบากนิดนึงเนื่องจากไกลจากสถานีรถไฟ แต่ร้านคนไม่เยอะสามารถมาได้เลยไม่ต้องจอง
ร้านหาง่ายอยู่ด้านหลัง รร. sc park ราคามาตรฐานปิ้งย่าง บุฟเฟ่ต์ไม่อั้น รสชาดเนื้อรวมๆค่อนข้างดี น้ำจิ้มอร่อยมวาก
มีโอกาสไปไกลถึงคลองสี่ กับร้านอาหารที่พลาดไม่ได้ "ทะเลทิพ" ครับ
เป็นร้านอาหารทะเลที่มีเด็ดคือ เจ้าของร้านนี้ (คุณทิพ) เป็นดีลเลอร์ที่ส่งอาหารทะเลให้กับโรงแรมชื่อดังครับ ไหนๆก็ส่งแล้ว ทำเองด้วยเลยดีกว่า ดังนั้นคุณภาพของวัตถุดิบ บอกเลยว่าไม่ผิดหวังครับ
ตัวร้านเป็นบ้านเรือนไทยดัดแปลงครับ มีห้องแอร์ให้บริการ หรือท่านใดที่พาสัตว์เลี้ยงมาด้วย ทางร้านก็มีโซนเอ้าท์ดอร์สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะครับ
สำหรับเมนูแนะนำที่ห้ามพลาดสำหรับการมาทานที่รานทัเลทิพก็ได้แก่ "แกงส้มหน่อไม้ไข่ปลาริวกิว" โดยไข่ปลาริวกิวมาเป็นเม็ดใหญ่ๆนะครับ ไม่ได้มาแบบเป็นพวง แกงแบบโบราณโดยใช้น้ำส้มจี๊ดแทนน้ำมะขาม หน่อไม้ดองหั่นเป็นชิ้นบางๆทานง่าย รสชาติเปรี้ยวนำตามด้วยเผ็ดร้อน อร่อยมากๆครับ
หรือท่านไหนเป็นคอต้มยำ ก็ขอแนะนำต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน ที่ใช้น้ำมะพร้าวน้ำหอมพร้อมเนื้อมะพร้าวเป็นน้ำซุป ใส่กุ้งก้ามกรามไซส์ใหญ่แต่ผ่าครึ่งเพื่อความสะดวกในการรับประทาน และใส่เห็ดออรินจิแทนเห็ดฟางเพราะมีรสชาติเข้มข้นกว่า ขอบอกเลยว่าจานนี้รสชาติแปลกใหม่ครับ ซดน้ำต้มยำแล้วจะได้กลิ่นหอมของน้ำมะพร้าวด้วย
เมนูอื่นๆที่ควรแก่การสั่งก็มี "ส้มตำสาหร่ายพวงองุ่น" ที่นำสาหร่ายพวงองุ่นมาแช่น้ำจนกรุบกรอบ ทานคู่กับน้ำส้มตำรสแซ่บ หรือ ปลาแรดทอดน้ำปลา ที่ใช้ปลาแรดตัวขนาดหนึ่งกิโล ทอดจนเหลืองหอมด้วยน้ำมันที่เปลี่ยนใหม่ทุกวันครับ
และทางร้านทะเลทิพ จะไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นะครับ แต่ท่านสามารถนำมาเองได้ โดยทางร้านไม่คิดค่าเปิดขวดครับ
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่
http://goo.gl/Ws7ymd
ขอบคุณครับ
ไปลองร้านซีฟู้ดเปิดใหม่ โซนรังสิต-ธัญบุรีมาครับ ร้านทะเลทิพ คลอง 4 อาหารซีฟู้ดสดอร่อยๆ และรสชาติไม่ธรรมดาเลย พิกัดร้านอยู่ตรงรังสิต คลอง4 ก็คือพอผ่าน Dreamworld (คลอง3) ถัดไปอีก1กิโลก็จะเจอถนนคลอง4 (ที่ปากซอยคือร้านบ่อเงิน ขับตรงเข้าไปอีก 1 กิโลเลี้ยวขวาซอยริชแมนชั่น ได้เลยครับ ร้านนี้จะอยู่ตรงข้ามกับริชแมนชั่น)
[Decor]
ร้านนี้ดูจากภายนอกจะเหมือนบ้านทรงไทยหลังนึง แต่พอเข้าไปแล้วก็คือร้านอาหารที่มี 2 ชั้น โต๊ะ-เก้าอี้เป็นไม้สัก แต่มีความเก๋ที่ฐานของโต๊ะอาหารทำมาจากจักรเย็บผ้ารุ่นเก่า ซึ้งที่เห็นคือยังมียี่ห้อ Singer ติดอยู่เลย มีโคมไฟระย้าสวยงาม ตกแต่งอยู่หลายอันภายในร้าน เดินขึ้นไปดูชั้น 2 ก็มีโต๊ะอาหารอีกหลายโต๊ะ เป็นห้องแอร์เหมือนกัน แต่ก็มีโซน Outdoor ด้วย มองวิวภายนอกได้
วันที่ไปทานได้เจอกับทางเจ้าของร้านด้วย ชื่อพี่ทิพ พี่เขาแนะนำอาหารได้ดีและบอกรายละเอียดต่างๆได้เยอะมากๆ เขาบอกว่าก่อนเปิดร้านมีการทดลองทำอาหาร คิดสูตรอาหารมาก่อนเป็นปีๆกว่าจะลงตัวแต่ละเมนู และพี่เขาทำธุรกิจส่งอาหารทะเลให้กับห้องอาหารโรงแรมและร้านอาหารในกรุงเทพหลายๆที่ เลยมีจุดเด่นอีกอย่างนึง คือร้านนี้จะได้ปลา กุ้ง หอย และวัตถุดิบที่สดใหม่เสมอ และคัดไซต์ปลาขนาดที่ต้องการได้
[Food]
มาดูอาหารที่สั่งมาทานกัน
- แกงส้มไข่ปลาริวกิว 350 บาท
เมนูนี้ค่อนข้างหาทานได้ยากมากแล้ว ณ ตอนนี้ เพราะไข่ปลาริวกิวหาไม่ได้ง่ายๆเหมือนแต่ก่อน แต่ของร้านนี้คือมาแบบไซต์ใหญ่ทีเดียว มากันเป็นพวงๆเลย เป็นแกงส้มที่รสชาติเข้มข้น แต่ก็ไม่เผ็ดจนเกินไป ใส่หน่อไม้ดองมาเป็นตัวหลัก ทางร้านบอกใช้ส้มจี้ดที่คั้นเอาน้ำมาใส่แทนมะนาว ซึ้งให้รสชาติความเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์มากกว่ามะนาว
- ออส่วนนิ่ม 220 บาท
ของที่ร้านนี้ใช้ทั้งหอยนางรมและหอยเชลล์มาฟิวชั่นรวมกันในออส่วนนิ่ม เพราะจะช่วยลดคลอเรสตอรอลลงด้วยสำหรับคนที่กังวัลเรื่องนี้ มีความนุ่มและนิ่มละมุนลิ้นมากๆ จานนี้เสิร์ฟมาบนชามทองเหลืองดูดีมากๆ (แต่ก็หนักพอสมควรเลย) พร้อมน้ำจิ้มเป็นซอสพริกศรีราชาและจิ๊กโฉ่
- ปลาแรดทอดน้ำปลา 280 บาท
ปลาที่นี้จะคัดไซต์มาให้ขนาดเท่าๆกัน 1 กิโล (มากินกี่ครั้งก็จะได้ปลาที่คัดไซต์มาแล้ว ไม่ต้องกังวัลว่าจะเจอปลาตัวใหญ่บ้างเล็กบ้าง เหมือนบางร้าน) ทอดบนกระทะทองเหลือง แล้วราดซอสน้ำปลา (ตัวซอสน้ำปลาก็มีสูตรเฉพาะของทางร้าน ออกรสเค็มๆหวานๆ อร่อยไม่เหมือนใคร)
- ต้มยำกุ้งก้ามกรามมะพร้าวอ่อน 290 บาท
ร้านนี้ทำต้มยำที่มีสูตรไม่เหมือนใครดีครับ คือเขาจะใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน และใช้น้ำมะพร้าวน้ำหอมมาเป็นส่วนหนึ่งของน้ำซุปด้วย ทำให้รสชาติของน้ำต้มยำไม่เผ็ดแรงจนเกินไป มีความหอมและหวานของน้ำมะพร้าวร่วมอยู่ด้วย ส่วนกุ้งจะใช้กุ้งก้ามกรามไซต์กลางๆ ผ่าครึ่งใส่มา ทำให้เวลาทานก็สะดวกดี แกะกุ้งง่าย
-ส้มตำสาหร่ายพวงองุ่น 180 บาท
เป็นเมนูฟิวชั่นแปลกใหม่ ที่เพิ่งเคยลองทานแล้วชอบมาก ก็คือเป็นส้มตำไทย มาฟิวชั่่นกันกับสาหร่ายพวงองุ่น เวลาทานคู่กันจะได้สัมผัสกรุบกรอบของตัวสาหร่ายและพอได้น้ำส้มตำผสมเข้าไป ก็เลยกลายเป็นส้มตำไทยที่อร่อยขึ้นมากเลย (ปกติเคยทานแต่สาหร่ายพวงองุ่นเปล่าๆ พี่สาวเคยซื้อมาให้ลองกัน รสมันออกเค็มๆปะแล่มๆ กินแล้วไม่ค่อยชอบเท่าไร) พอมาฟิวชั่นกันกับส้มตำแล้วมันเข้ากันมากๆเลยนะ จานนี้ต้องมาโดนกันครับ
- ข้าวผัดปู (ไซต์กลาง) 150 บาท
ข้าวเม็ดร่วนดีอร่อยมาก สั่งไซต์กลางมาแต่เสิร์ฟมาจานใหญ่มากเยอะมากเลย ตอนแรกนึกว่าสั่งผิดเป้นไซต์ใหญ่ แต่จานไซต์นี้ในราคา 150 บาทนี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆ และจุดเด่นคือที่ร้านบอกว่าปูที่เอามาใส่ในข้าวผัดจะเป็นปูที่นึ่งและแกะเองจากสดๆ ทำให้ได้เนื้อปูเน้นๆ (สมัยนี้มันมีปูก้อนขายเป็นถุงๆ ร้านที่มักง่ายเน้นสะดวกหน่อย ก็มักจะไปซื้อปูก้อนที่แกะไว้แล้วขายตามตลาดสด มาใส่ในข้าวผัดกัน)
[Dessert]
- เฉาก๊วย 40 บาท
เฉากีวยที่นี้เป็นรูปทรงหกเหลี่ยม ตัวเฉาก๊วยมีความหนึบหนับกำลังดี สีออกน้ำตาลเข้มๆ แต่ไม่ดำเหมือนร้านทั่วๆไป
-สาคูแคนตาลูป 40 บาท
แคนตาลูปที่ตักมาเป็นทรงกลมพร้อมสาคูต้มจนได้ความนุ่มกำลังดี รสชาติกลางๆครับ
ทางร้านแจ้งว่าอาหารทั้งหมดจะไม่ใส่ผงชูรสเลย และเชฟมีหลายคน แต่ละคนมีหน้าที่ทำอาหารเฉพาะส่วนๆไป พอได้ฟังสตอรี่และที่มาของอาหารแต่ละอย่างจากร้านจากปากเจ้าของ (พี่ทิพ) แล้วก็อึ้งกันมากเพราะไม่เคยได้ยินร้านไหนใส่ใจในทุกกระบวนการ ก่อนจะเปิดร้านขนาดนี้ ตอนมาทานพี่เขาบอกว่าร้านเปิดได้ประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้เอง แต่ก่อนเปิดมีการเทรนพนักงานล่วงหน้าเป็นเดือนๆ เทรนเชฟก่อนเปิดร้านล่วงหน้า 2-3 เดือน สุดยอดมากๆ
ทางร้านทะเลทิพ ไม่เน้นขายสุรา เหล้า ไวน์ นะครับ (เขาบอกไม่ค่อยสนับสนุนให้คนกินสุรากัน) แค่มีเบียร์ขายนิดหน่อย แต่ถ้าลูกค้าจะหิ้วสุรามาทานกันที่ร้านก็ได้ ไม่คิดค่าเปิดขวดใดๆ
ก่อนกลับเห็นมีรูปภาพวาดการ์ตูนผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมิน ของคุณชัย ราชวัตร ติดอยู่ที่ฝาผนังของร้านด้วย เขียนรูปเป็นผู้ใหญ่มากับไอ้จ่อยยืนคู่กันพร้อมยกนิ้วโป้งเหมือนคนกดไลท์ โดยมีคำบรรยายว่า "ไม่เคยมาทะเลทิพ อย่าคุยว่ารู้จักร้านอร่อย" ถามไปถามมาถึงทราบว่าคุณชัย ราชวัตร มาตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟใกล้ๆนี้แล้วแวะมาทานอาหารที่ร้าน ด้วยความที่ชอบมากเลยวาดรูปการ์ตูนการันตีความอร่อยให้กับทางร้านไว้ด้วย
ใครอ่านรีวิวนี้จบแล้ว ผมว่าหลายๆคนต้องสนใจอยากมาลองแน่ๆ ร้านทะเลทิพ คลอง4 เปิดทุกวันตั้งแต่ตอนเที่ยง - 4ทุ่มครับ มาลองทานสักครั้งแบบผมแล้วอาจจะติดใจเหมือนผมก็ได้
ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดหรูใจกลางเมือง แค่ทองหล่อซอยสิบนี่เอง
เดินทานง่ายๆด้วยรถไฟฟ้า ต่อพี่วิน/TAXIอีกนิดนึง หรือนำรถส่วนตัวมา
ก็มีที่จอดในโครงการ@10Thonglor Centerอยู่ปากซอยเลย
จอดเสร็จขึ้นบันไดออกกำลังกายก่อนทานสักนิดมาที่ชั้น 3
ก็ได้ทานอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆพร้อมดื่มด่ำบรรยากาศดีๆแล้วครับ
พื้นที่กว้างขวางนั่งสบาย มีทั้งโซน Indoor และ Outdoor
ถ้านั่งด้านในก็สามารถนั่งตรงเคาท์เตอร์ดูเชฟปั้นซูชิสดๆได้
หรือถ้าต้องการบรรยากาศสบายๆ ชมแสงสียามค่ำคืนของซอยทองหล่อ
ก็สามารถนั่งด้านนอกได้ หรือถ้ามาเป็นหมู่คณะก็มีห้องส่วนตัวไว้รับรองครับ
ห้องใหญ่รองรับได้ประมาณสิบท่านครับ
วันนี้ได้ลองหม่ำแค่ไม่กี่เมนู แต่ต้องขอบอกว่าครบเครื่องจริงๆ อาหารค่อนข้างแปลกกว่าร้านอื่น
มาทราบภายหลังว่าเชฟเป็นคนครีเอทแต่ละเมนูด้วยตัวเอง ไม่แปลกใจเลยครับ อร่อยทุกจานจริงๆ
โดยเฉพาะเมนูพิเศษประจำเดือน ที่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ทำให้อยากมาลองทานทุกเดือนเลยครับ ^^ ทั้งบรรยากาศทั้งอาหาร ทุกๆอย่างมันชวนให้ฟินจริงๆครับ
ตอนนี้มีโปร ลด 40% ด้วยครับ สุดยอดมากๆ สนใจลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่Page FBของทางร้านนะครับ
ร้านที่จะมารีวิววันนี้เป็นร้านกาแฟเล็กในมุมหนึ่งของโรงแรม The Bedrooms Boutique Hotel ตั้งอยู่ข้างๆBigC อ่อนนุช ภายในร้านบรรยากาศเงียบสงบ คนไม่พลุกพล่าน ให้ความเป็นส่วนตัว มีFree Wifi และปลั๊กไฟ เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการมานั่งทำงานหรืออ่านหนังสือ ที่สำคัญเพลงที่นี่เพราะมากเป็นเพลงสากลยุค'80-'90 ซึ่งรับรองว่าคลอตามได้ทุกเพลงและเป็นเพลงที่ทำให้บรรยากาศของร้านนี้ดีขึ้นไปอีก
ในส่วนของเครื่องดื่มก็ค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งกาแฟ ชา รวมถึงผลไม้ปั่น ราคาจะอยู่ที่ประมาณ70-100บาท ซึ่งก็คุ้มค่ากับบรรายากาศและ Facilities ที่ได้รับ รสชาติกาแฟก็ได้มาตรฐานไม่เข้มไม่อ่อนจนเกินไป ความหวานก็กำลังดีครับ
ร้านนี้เป็นร้านโปรดของผมร้านนึงเลยทีเดียว ใครมีโอกาสก็แวะมานั่งจิบกาแฟผ่อนคลาย อ่านหนังสือ หรือทำงานที่นี่ได้เลยครับ
ร้านสาขานี้กว้างขวางดีค่ะโล่งสบาย แถมมีปลั๊กไฟให้ด้วยในบางโต๊ะ แต่ราคากาแฟนี่พอๆกะStarbuckเลยนะคะ แอบกระเทือนกระเป๋าเล็กน้อย
รู้สึกร้านนี้จะเป็นที่ชื่นชอบของต่างชาติดีครับ เพราะว่าบรรยากาศหรูหรามาก แบบโรงแรมเอราวัณ
มันมี Afternoon tea ราคา 240 บาท net ไม่มีบวกเพิ่ม แล้วก็มีพวก appetizers หลายอย่างให้กิน
แล้วก็เลือก drink ได้หนึ่งอย่างครับ จากพวก ชาหลากหลายประเภทหรือกาแฟ
บรรยากาศดี ราคาไม่เว่อร์มาก น่าจะมาลองกินดูคับ
ถ้ามีแขกต่างชาติมา แนะนำให้ลองพามาเลย น่าจะประทับใจมากคับ
มีโอกาสได้ไปที่ตึกThe opus ที่ซอยทองหล่อ10อีกครั้งครับ
มีร้านเปิดใหม่โดยคนเกาหลีแท้ๆเลยครับ เลยขอลองสักหน่อย
บรรยากาศในร้านในวันที่ไปก็โอเคครับ เข้าไปนอกจากพนักงานนี้มีแต่คนเกาหลีเลยครับ
เพื่อนพี่น้องท่านใดอยากลองสไตล์เกาหลีแท้ๆ ลองแวะไปลองได้ครับ
เพื่อนพี่น้องท่านใดอยากลองสไตล์เกาหลีแท้ๆ ลองแวะไป ...
ติดตามอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=akuchan&date=05-05-2015&group=1&gblog=37
ขอบคุณครับ
รีวิวร้านเนื้อย่างเปิดใหม่ ย่านวัชรพล ร้านเดอะแกรนด์ บาร์บีคิว The Grand BarBQ เป็นร้านเนื้อย่างระดับพรีเมี่ยมสไตล์ออกแนวญี่ปุ่น แต่ว่าร้านใช้เนื้อวัวพันธุ์ไทยเป็นหลัก และทีเด็ดคือมีเนื้อสูตรเฉพาะของร้านที่บ่มแห้งแบบพิเศษคิดค้นขึ้นมาเองอีกด้วย ร้านนี้ตั้งอยู่ในห้างเนเบอร์เซ็นเตอร์ Neighbour Center ใกล้ๆ 5แยกวัชรพล ตรงข้ามกับปั้ม ปตท. ตัวร้านเดอะแกรนด์บาร์บีคิว จะอยู่ชั้น2 เป็นร้านเปิดใหม่มาสัก2-3เดือนนี้เองครับ ใครเคยมากินร้าน "เมี่ยงปลาหมุน 5แยกวัชรพล" ที่มีปลาเผาอร่อยๆออกทีวีมาแล้วหลายๆรายการ ก็นั้นแหละครับ สถานที่เดียวกัน จอดรถได้มากอยู่สัก 30-40 คันสบายๆ
ดูเมนูของทางร้านต้องบอกเลยว่า ที่นี้เน้นไปทางปิ้งย่างอย่างเดียวเลย โดยจะมีเนื้อวัวเป็นหลัก มีแทบทุกส่วนของวัวเลยแหละ แต่หากใครไม่ทานเนื้อ ก็ยังมีชุดหมู ไก่ และซีฟู้ด มาเป็นออปชั้นให้เลือกได้อีกหลายเมนูเช่นกัน แต่ถ้าเป็นประเภท Meat Lover นี้มาร้านนี้จะต้องชอบแน่ๆละ เพราะร้านมีเนื้อแทบจะทุกส่วนชำแหละออกมาให้เลือกทานตามใจชอบ
วันที่พวกผมไปทานเจอเจ้าของร้าน ชื่อพี่อั๋น มารับออเดอร์และพาเราไปดูตู้แช่เนื้อส่วนต่างๆ พร้อมกับชาร์จบอกส่วนประกอบว่า แต่ละส่วนของวัว อะไรอยู่ตรงไหนบ้าง ส่วนไหนของวัวที่ตัดออกมาเป็น Sirloin , Rib , Chuck , T-bone , Brisket พี่เขารู้หมดเลยว่าส่วนไหนมีมันเยอะ ส่วนไหนเนื้อเยอะ เนื้อนุ่ม หรือเหนียวกว่า ,ส่วนไหนเหมาะเอาไปย่าง ไปทำสเต็ก หรือเอาไปอบไปตุ๋น ไอ้ชาร์จนี้เคยเห็นอยู่บ้างสมัยเรียน ป.ตรี แต่ก็ไม่เคยจำเลย เวลาไปกินร้านสเต็ก ร้านเนื้อย่าง ก็สั่งๆไป ไม่เคยจำได้หรอกว่าเนื้ออะไร มันคือส่วนไหนของวัว 555 พอเราดูเปรียบเทียบระหว่างเนื้อในตู้โชร์กับชาร์จ Beef Cut ด้านบนแล้วก็มาสั่งได้เลยว่าอยากจะทานส่วนไหน มีพี่เชฟค่อยอธิบายส่วนประกอบของเนื้อว่าตรงไหนเรียกว่าอะไร แต่ละส่วนให้ฟัง
คุยไปคุยมากับพี่อั๋น เจ้าของร้าน ถึงเพิ่งมารู้ว่า พี่เขาเคยทำงานอยู่แผนกเนื้อในห้างใหญ่ชื่อดังมากว่า 10ปี เป็นตำแหน่งถึง Master Butcher เลยรู้เรื่องการชำแหละเนื้อ การหั่นเนื้อเป็นอย่างดีทุกโปรเซส พี่เขาบอกว่าเนื้อที่ร้านเอามาย่าง ส่วนใหญ่เป็นเนื้อสายพันธุ์ไทยวากิวและพันธุ์ชาโลเล่ ที่เลี้ยงในภาคอีสานบ้านเรานี้แหละ ทางร้านจะไปซื้อซากวัวมาทั้งตัวจากโรงเชือดมาเลย ไม่ได้อิมพอร์ตเนื้อมาจากเมืองนอก และท้าให้ลองรสชาติความอร่อยของเนื้อที่ร้านใช้เพราะการันตีความอร่อย ไม่แพ้เนื้อนำเข้าจากต่างประเทศเลยนะ
เราเลยสั่งจัดมาลองซัก 2-3 ชุดดังนี้
- Set Premium Beef 899 Baht เป็นรวมเนื้อพรีเมียมของร้าน4อย่าง (เนื้อสันคอพิเศษ,เนื้อท้องวัว,เนื้อกล้ามขาเกรดเอ,สันนอกพิเศษ พร้อมผักออกานิคอีก1ชาม) ดูลายของไขมันที่แทรกในเนื้อแล้ว บอกเลยแหล่มมั๊กๆ
- Set Grand Pork 355 baht (สันคอหมู,หมูสามชั้น,ไส้กรอกญี่ปุ่น พร้อมผักออกานิคสำหรับห่ออีก1ชาม)
- Dry Aged Beef ส่วน ribeye 900 baht เป็นเนื้อบ่มแห้ง ที่เป็นสูตรพิเศษของทางร้านทำขึ้นมา ไม่เหมือนใคร โดยการนำเนื้อมาบ่มไว้ที่อุณหภูมิต่ำประมาณ 0 - 2 องศา ในความชื้นที่เหมาะสม บ่มทิ้งไว้ประมาณ 21 -30 วัน พี่เขาบอกว่าเนื้อบ่มแห้ง ในเนื้อมันจะมีเอนไซม์ในตัวมันออกมาทำปฎิกริยากับตัวเนื้อทำให้มีความหอมและนุ่มมากยิ่งขึ้น เวลานำไปย่าง
- "แก้มหมู" 200 บาท เมนูนี้ร้านอื่นๆไม่ค่อยมีกัน เป็นส่วนของแก้มหมู มีเอ็นแทรกอยู่เยอะพอควร ตอนทานจะค่อนข้างเคี้ยวหนึบหนับมากกว่า ชิ้นส่วนอื่นๆของหมู (คือจะเหนียวกว่า นั้นเอง)
โต๊ะอาหารที่ร้านนี้ เป็นแบบมีหลุมถ่านเตาอยู่ในตัวโต๊ะเลย พอเตาถ่านมาลง ไฟกำลังแรงๆ ก็คีบเนื้อลงเตาไปเลย (เนื้อพรีเมี่ยมจะไม่ราดซอส แค่โรยเกลือและพริกไทดำ ก็อร่อยแล้ว) พี่บอกว่าเนื้อดีๆถ้าหมักซอสแล้วไปย่าง จะทำให้ลิ้นเราไม่ได้รับรสชาติของเนื้อที่แท้จริง แต่จะได้รสชาติของซอสไปแทน
ที่ร้านแนะนำวิธีปิ้งเนื้อย่างแบบให้ได้สัมผัสรสเนื้อแบบเต็มๆ คือให้คีบลงเตาไฟแรงๆ เบิร์นให้น้ำในเนื้อค่อยๆซึมออกมา พอสีเริ่มเปลี่ยนเป็นน้ำตาลก็พลิกกลับอีกด้าน
เพียงรอบเดียว ปิ้งสุกประมาณมีเดียมแล ก็พอ แล้วให้ลองชิมเนื้อแบบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มดู จะได้รับรู้ถึงรสเนื้อแท้ๆว่าหวานชุ่มนุ่มลิ้นเพียงใด แล้วชิ้นต่อไปค่อยจิ้มน้ำจิ้ม เพื่อเปรียบเทียบกัน
มาต่อกัน
- ซุปหางวัวแบบญี่ปุ่น 180 baht เป็นซุปน้ำข้นๆออกสีครีมๆ ทำจากเอ็นข้อวัว ใส่หางวัวที่ตุ๋นจนเปื่อย เนื้อนุ่มๆ น่าจะตุ๋นนานหลายชั่วโมงเลย น้ำซุปก็ข้นได้ใจทีเดียว
- ร้านมีข้าวกระเทียม และข้าวญีปุ่น ให้สั่งมาทานคู่กับเนื้อย่าง เลยลองสั่งข้าวกระเทียมมากิน (45 บาท) รสชาติดีทีเดียว
- ของหวาน เห็นที่ร้านมีไอติม Haagen-Dazs เป็นถ้วยๆแช่อยู่ในตู้ แต่ไม่ได้ลองเลยไม่รู้ราคา
สรุปโดยรวม ถือว่าเป็นร้านเนื้อย่างระดับพรีเมียม ที่น่าสนใจทีเดียว สำหรับคนรักเนื้อ ควรต้องมาลองทานกัน ถ้าได้เจอพี่อั๋น Master Butcher ด้วยจะยิ่งได้ความรู้เรื่องเนื้อมากขึ้นอีกตะหาก แต่หากไม่ทานเนื้อวัว ก็ยังมีหมู-ไก่และซีฟู้ด เป็นออปชั่นให้เลือกสั่งกันได้ ร้านมีโต๊ะประมาณ 10 กว่าตัว น่าจะรองรับคนได้สัก 50 -60 คนได้เลย ใครอยู่ย่านวัชรพล อยากหาทานกินยากินิคุ แบบเนื้อคุณภาพดีๆ แนะนำมาลองทานร้านเดอะแกรนด์บาร์บีคิว กัน
มีโอกาสได้แวะเวียนมาแถวราชพฤกษ์ แล้วก็พบกับร้านนี้ครับ The Home Shabu &K.buffet
เป็นร้านอาหารเกาหลีสไตล์ฟิวชั่น พร้อมกับมีชาบูแบบเกาหลีรสเด็ด แน่นอนว่าต้องลองครับ
การเดินทางมาไม่ยากนะครับ ร้าน The Home Shabu &K.buffet อยู่ก่อนถึง The Circle ขับรถมาสะดวกมากๆ หน้าร้านมีที่จอดรถด้วยครับ
ถึงจะบอกว่าเป็นร้านชาบูก็จริง แต่พอเข้าไปแล้ว ชาบูนี่เหมือนเป็นของแถมเลยครับ เพราะไลน์อาหารเกาหลีอลังการและอร่อยมากๆครับ
เพราะมีหุ้นส่วนร้านเป็นชาวเกาหลี เลยได้ลิ้มลองอาหารเกาหลีแท้ๆ แต่ก็ปรับเปลี่ยนรสชาติให้ถูกปากคนไทยครับ
แนะนำเลยว่าห้ามพลาด ต็อกโบกีเผ็ด ที่เป็นเค้กข้าวผัดกับซอสออกรสชาติเผ็ดจัดจ้าน อร่อยมากๆกินไปหลายจานครับ
จับเฉ หรือผัดวุ้นเส้นแบบเกาหลี ซึ่งวุ้นเส้นแบบเกาหลีจะเส้นใหญ่กว่าวุ้นเส้นของไทย ผัดใส่น้ำมันงา หอมมากๆครับ
และแน่นอนที่ขาดไม่ได้สำหรับอาหารเกาหลี คือกิมจิผักดองชนิดต่างๆ ที่ร้านนี้มีให้เลือกเยอะมากๆ ที่ฟินสุดๆ ยกให้ Kimchi J Jim ที่เป็นกิมจิโฮมเมด ทานคู่กับหมูอบ รสชาติลงตัวครับ
ทานอาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์จนเกือบลืมชาบูไปเลย สำหรับชาบูที่ร้านนี้มีน้ำซุปให้เลือกสองแบบครับ คือซุปใสกับซุปกิมจิ
แน่นอนว่าผมเลือกซุปกิมจิ รสชาติไม่เผ็ดมากนะครับ ออกเปรี้ยวๆ มีรสชาติเผ็ดปลายลิ้น แต่เข้มข้นมากๆครับ
และมีชุดชาบูให้เลือกสองชุดนะครับ ถ้าเลือกชุดหมู ก็จะได้ทานหมูคุโรบูตะ ถ้าเลือกชุดเนื้อก็จะได้ทานเนื้อริบอายออสเตรเลียครับ
ส่วนผักและเครื่องชาบูอื่นๆสามารถตักได้เองครับ แนะนำว่าอย่าลืมเส้นรามยอนนะครับ ไฮไลท์ของชาบูเกาหลีเลย
อิ่มฟินชาบูแล้วก็มีไลน์ของหวานปิดท้ายนะครับมีทั้งบิงซูที่เป็นน้ำแข็งไสแบบเกาหลี เลือกทานได้เองมีทั้งน้ำแดง นมข้นหวาน ช็อคโกแลตไซรัป
หรือไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟวานิลา คุกกี้ เวเฟอร์ ทาร์ต หรือผลไม้ก็มีนะครับ
ส่วนตัวตอนแรกมองว่าเรทสูงไปนิดแต่ก็ได้เปิดโลกทัศน์และแอบติดใจอะไรอย่างอยากกลับไปรีเทิร์นแน่นอนครับ
ส่วนค่าเสียหายเห็นว่ามีเพิ่งมีเปลี่ยนแปลงตอนที่ผมไปล่าสุดก็เป็นราคาบุฟเฟ่ต์....
จ-ศ กลางวัน net 449.- เด็ก 225.-
เย็น+เสาร์ net อาทิตย์ 499.- เด็ก 250.-
ทานได้ระยะเวลา 2 ชั่วโมงเต็ม รายละเอียดเพิ่มเติมลองติดต่อสอบถามได้ที่หน้าเพจของทางร้านดูนะครับ
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=akuchan&month=18-10-2015&group=1&gblog=43
ขอบคุณครับ
ร้านนี้เป็นร้านประจำตั้งแต่สมัยเด็กๆ ครับ มากินตั้งยี่สิบกว่าปี ก็ยังคงอยู่คู่ห้างโตคิว
สมัยเด็กๆ เป็นร้านที่รู้สึกว่าราคาสูงนิดหน่อย แต่รสชาติก็ดีมาก ยันมาทุกวันนี้ที่มีร้านญี่ปุ่นเปิดกันพรึบทั่วกรุง ผมก็ยังว่าร้านนี้เป็นร้านที่รสชาติดีอยู่ดี และราคาก็พอๆ กับร้านญี่ปุ่นทั่วๆ ไปเดี๋ยวนี้คับ
ถ้ามามาบุญครองและอยากกินอาหารญี่ปุ่นเมื่อไหร่ ร้านนี้จะเป็นตัวเลือกแรกของผมครับ
เค้าจะมีพวกอาหารเป็นเซ็ตผมว่าราคาก็โอนะครับ เริ่มที่ร้อยปลายๆ ไปยันสามสี่ร้อย
ของโปรดร้านนี้ ผมชอบยากิโซบะ อุด้งร้อน (ผมว่าซุปอุด้งกลมกล่อมมาก) ข้าวหน้าเทมปุระก็รสชาติดีมาก
ถ้าสมัยเด็กๆ ชอบสั่งชุดเด็ก เสียดายเดี๋ยวนี้เค้าไม่ให้สั่ง - -'