คอมเม้นต์รีวิวทั้งหมด
ค้นหาคอมเม้นต์ที่คุณต้องการ
ปล.ขำตรงที่บอกว่าแบตจะหมดนี่แหละคับ 555
ร้าน Love Eat Bistro เป็นร้านอาหารปักษ์ใต้แท้ๆสูตรบ้านพังงา จากสำรับกับข้าวของคุณเพลิน บุญสูง ที่เป็นคุณแม่ของเจ้าของร้าน ดังนั้นแต่ละเมนูจะมีรสชาติจัดจ้านตามสไตล์อาหารใต้ และวัตถุดิบแต่ละอย่างก็คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันเพื่อนำมาปรุงอาหารครับ
ขอเริ่มที่เมนูสำคัญที่ขาดไม่ได้เมื่อมาทานอาหารปักษ์ใต้ครับ "แกงปูสูตรบ้านพังงา กับกะทิคั้นสดและเครื่องแกงสูตรลับ เสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่" 495 บาทครับ แกงปูรสชาติเข้มข้นมาก เนื้อปูก็ให้มาก้อนใหญ่ๆ ตักน้ำแกงราดลงบนเส้นหมี่แล้วทานพร้อมๆกัน อร่อยจริงๆครับ ถ้าเผ็ดเกินไป ก็มีสับปะรดเสิร์ฟมาคู่กันให้ทานแก้เผ็ดครับ
และยังมีอีกหลายเมนูที่ห้ามพลาด "คั่วกลิ้งคอหมูกับผักแนม" ราคา 255 บาท หรือถ้าไม่ทานหมูก็สั่งเป็นคั่วกลิ้งไก่ได้นะครับ รสชาติจัดจ้านตามแบบคั่วกลิ้งใต้ขนานแท้ "แกงเขียวหวานเนื้อตุ๋น" 285บาท อร่อยมากครับ ประทับใจ เนื้อตุ๋นชิ้นใหญ่แต่นุ่มไม่มีกลิ่นคาว น้ำแกงก็หอมมากๆ ซึ่งนอกจากพริกแกงเขียวหวานตามปกติแล้วก็ยังมีเพิ่มเติมเครื่องเทศสูตรพิเศษลงไปด้วยครับ "ผัดสามเหม็น" ราคา 295 บาทครับ สามเหม็นที่ว่าคือ สะตอ ชะอม และกระเทียมโทนดองครับ ผัดให้เข้ากันกับวุ้นเส้น ช่วยเบรคความเผ็ดของอาหารจานอื่นๆได้ดีเลยครับ
เมนูของหวานก็อร่อยน่าประทับใจไม่แพ้อาหารคาวครับ "กล้วยเชื่อมไอศกรีมมะพร้าวเผา คาราเมลน้ำตาลโตนด" ราคา 185 บาทครับ ไอศกรีมมะพร้าวเผาสูตรพิเศษที่ทางร้านทำขึ้นเอง ราดด้วยคาราเมลที่ทำจากน้ำตาลโตนดสด เสิร์ฟพร้อมกับกล้วยเชื่อม "ลาวาใบเตย" ราคา 215 บาท เค้กลาวาเนื้อนุ่มๆ ทำจากน้ำใบเตยคั้นสด ด้านในเป็นครีมลาวาใบเตยหอมๆ เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลาครับ
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่
https://goo.gl/PpYwUg
ขอบคุณครับ
พนักงานพูดคุยเสียงดัง พูดไม่เพราะ ช่างแตกต่างกับสาขาสนามเป้า พนักงานมีมารยาทดีกันทุกคน
พอดีมาธุระแถวๆทองหล่อ เลยได้โอกาสแวะร้านนี้ครับ
ร้าน Waza Sushi ตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 31 กับ 33 ครับ
ถ้าขับรถมาแนะนำให้เข้าซอย 33 นะครับ
แต่ถ้านั่งบีทีเอสมา อาจจะต่อTAXIเข้ามาครับ ตรงมาเจอแยกเลี้ยวซ้ายแล้วจะพบกับ
Community Mall @27/1 อยู่ทางขวาครับ
ร้าน Waza Sushi เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ใตคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีชื่อ
โครงการว่า @27/1 ครับซึ่งที่จอดรถอาจจะน้อยไปซักหน่อย
ท่านที่ขับรถมา ให้ไปจอดที่โรงแรม The Euro Grande ที่
ตั้งห่างไปประมาณ 100 เมตรครับเป็นที่จอดของทางร้านสามารถจอดได้ฟรีครับ
เพราะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น แน่นอนว่าก็ต้องเน้นซูชิเป็นพิเศษ
สำหรับซูชิและซาชิมิของร้านนี้ขอบอกเลยว่าไม่ธรรมดาครับ อย่างที่ผมสั่งวันนี้คือ Waza Sashimi ที่เป็นชุดปลาดิบรวม ขนมาเกือบหมดทะเลเลย
มีทั้ง โอโทโร่ ชูโทโร่ อากามิ คัมปาจิ หอยแครงญี่ปุ่น อูนิ กุ้งโบตัน มาแบบอลังการมากๆ
เนื้อปลาชิ้นหนา ใหญ่ ให้มาแบบสะใจคอปลาดิบเลยครับ ที่สำคัญคือ สด ไม่คาว ครับ
อีกเมนูที่แนะนำคือ Waza Sushi เป็นซูชิที่มาแบบอลังการเหมือนกัน ชิ้นปลาหนามากๆกลบข้าวมิดเลยครับ
และแต่ละคำก็ใช้แต่ของดีๆเช่น โอโทโร่ ชูโทโร่ ฟัวกราส์ ปูทาราบะ ฯลฯ
เมนูอื่นๆที่อยากแนะนำอีกคือ Salmon Waza ที่เป็นอาหารญี่ปุ่นแบบฟิวชั่น โดยนำปลาแซลมอนสไลซ์บาง ราดด้วยพอนสึ ที่ชิ้นปลาจะป้ายด้วยกระเทียมสับ และวางพริกชี้ฟ้าไว้ด้านบน ทานพร้อมๆกันอร่อยมาก
แซลมอนมีกลิ่นหอม พอนสึรสชาติออกเปรี้ยว ตัดกับกลิ่นกระเทียมและความเผ็ดของพริกได้ดีมากๆครับ
สำหรับร้านนี้ขอบอกเลยว่าไม่ผิดหวังจริงๆ ยิ่งได้รู้ว่า เชฟร้านนี้เป็นลูกศิษย์ของเชฟบุญธรรม เชฟกระทะเหล็กอาหารญี่ปุ่นด้วยแล้ว มั่นใจในคุณภาพและรสชาติอาหารได้เลยครับ
ชอบเมนูนี้มากๆ คับของที่นี่ Chocolate fondant
มันจะเป็นคล้ายๆ เค้กที่ข้างในมีไส้ชอคโกแลตเหลวอยู่ พอตัดก็จะไหลออกมา อารมณ์ชอคโกแลตลาวานี่เอง เสิร์ฟพร้อมกับไอติมเลือกรสเองได้
ตัว fondant จะอุ่นร้อนๆ มา ทานกับไอติม อร่อยมากๆ ที่ชอบคือ fondant มันไม่ค่อยหวานเท่าไหร่คับ รสชาติชอคโกแลตมันกลมกล่อม ขมนิดๆ หวานหน่อยๆ และแป้งจะออกแนวกรอบนิดๆ อร่อยสุดๆ เสียแต่ชิ้นเล็กไปหน่อยคับ - -'
สุดยอดร้านสาย Vegan ใจกลางเมืองกรุง "Veganerie" ร้านตั้งอยู่ด้านหลังสวนเบญจสิริครับ
ถ้ามาทางบีทีเอส ออกทางออกที่สองที่อยู่ด้านข้างเอ็มโพเรียม แล้วเดินมาด้านหลัง
ผ่านเอ็มโพเรียมสวีท จะเจอซอยเล็กๆด้านขวามือ เดินเข้าไปนิดเดียวก็เจอร้านแล้วครับ
หรือถ้าชอบความร่มรื่น จะเดินทะลุสวนเบญจสิริ ออกมาทางด้านหลังก็เจอร้านเลยเช่นกันครับ
Veganerie เป็นร้านสายวีแกนแบบจัดเต็ม เนื่องจากเจ้าของร้านเป็นคนที่ทานวีแกนแบบดั้งเดิมซุ่งจะงดทุกอย่างที่เป็นสัตว์และผลผลิตจากสัตว์ด้วยเช่นกัน จึงเข้าใจถึงแก่นความเป็นวีแกน
อาหารทุกจานของที่ร้าน ปรุงสดใหม่ ด้วยวัตถุดิบคัดสรรพิเศษ วีแกนล้วนๆ ทั้งของคาวและของหวาน สำหรับสาวกวีแกน ร้านนี้มั่นใจได้แน่นอนครับ
สำหรับวันที่ไปผมได้ลองทานอาหารหลายอย่าง แต่ที่ประทับใจมากๆคือ Vegan Papaya Salad &Fried Chicken นั่นคือส้มตำกับไก่ทอดแบบวีแกนนั่นเอง
ซึ่งส้มตำก็สามารถสั่งได้นะครับว่าเผ็ดน้อยเผ็ดมาก ส่วนไก่ทอดนั้น แน่นอนว่าไม่ใช่เนื้อไก่จริงๆ แต่เป็นเห็ดไต้หวันที่นำมาผสมกับเครื่องปรุงสูตรพิเศษของทางร้าน
ทอดจนกรอบหอม ทานกับส้มตำอร่อยมากๆครับ
จานแนะนำอีกหนึ่งจานคือ Vegan Pulled BBQ Pork Burger ครับ เป็นเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ เสิร์ฟพร้อมเฟร้นช์ฟรายโรยผงปาปริก้า และซอสสามแบบครับตัวไส้เบอร์เกอร์ประกอบไปด้วยเห็ด
ซอสบาบีคิว และผักกะหล่ำ ให้มาเยอะมากๆครับ จริงๆทานชิ้นเดียวก็อิ่มได้เลย
และอีกเมนูที่ห้ามพลาดคือ Green Curry & Roti โรตีแกงเขียวหวานแบบวีแกนครับ เป็นแกงเขียวหวานเต้าหู้ เสิร์ฟพร้อมกับโรตีมาเลเซียทอดแบบไร้น้ำมันครับ รสชาติเข้ากันดีมากๆ อันนี้ผมสั่งกลับบ้านอีกหนึ่งชุดเลยครับ
สำหรับเมนูของหวานและเครื่องดื่ม ก็เป็นวีแกนแท้ๆ Brownie Frappe นี่เข้มข้นถึงใจมากๆเลยครับพลาดไม่ได้เลย ต้องลองทั้งหนุ่มๆและสาวๆต้องชอบแน่นอน แม้กระทั่งวิปครีมเองก็ทำจากถั่ว ไอศครีมก็เข้มข้นแบบไม่มีที่ไหนเหมือน สายเบเกอรี่ห้ามพลาดนะครับโดยเฉพาะ Red Velvet Waffles ตัววัฟเฟิลกรอบนอกนุ่มในมีกลิ่นหอมของเบอร์รี่อร่อยมากๆ สีก็สวยสมชื่อน่าทานสุดๆ ท็อปปิ้งด้วยกีวี่และสตอแบรี่สด
เสิร์ฟพร้อมไอศครีมชอคโกแลตสูตรพิเศษแบบโฮมเมต คุ้มค่าฟินมากๆ ขนาดที่ทุกคนบอกอิ่มแล้วยังแย่งกันทานแปบเดียวเกลี้ยงเลยครับต้องไปลองครับ ร้านเปิดให้บริการ ตั้งแต่ สิบโมงเช้าถึงสี่ทุ่มเลยครับปิดวันพฤหัสนะครับ
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่ http://goo.gl/Xqeu5w
บรรยากาศดีริมแม่น้ำปิง ชื่อดังของเชียงใหม่ครับ
จากตัวเมืองเชียงใหม่ตรงมาข้ามสะพานนวรัตน์ จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจริญราษฎร์
ระหว่างทางจะผ่านร้านอาหารกู๊ดวิวริเวอร์ไซด์ เลยไปประมาณ 500 เมตร
จะพบร้านเวียงจูมออนทีเฮ้าส์สีชมพูเด่นๆอยู่ทางด้านซ้ายมือครับ
มื้อนี้ถือได้ว่ามาเยือนร้านสาขาหลักถึงเชียงใหม่ คุ้มค่า ฟิน สมใจครับ
ร้านนี้เห็นมีเว็บลงไว้ว่าเป็น 1 ใน 10 ที่ต้องไปเมื่อมาเชียงใหม่ด้วยครับ
ก็สมราคาคุยอยู่ครับ บรรยากาศดีมากๆ ถ้าเพื่อนพี่น้องคนไหนยังไม่เคยลองต้องจัดครับ
ขอมาอัพรีวิวร้านชา ขนมหวาน สไตล์ชิลล์ๆ Vieng Joom On Teahouse (เวียง จูม ออน ที เฮ้าส์)
ที่แอบอยู่มุมสงบๆ ณ ห้างชื่อดังใจกลางเมืองอย่าง Central World ชั้น 5 ร้านอยู่ใกล้กับทางเข้าส่วนของ
ห้างZEN ครับ ครับ สาขานี้เป็นสาขาที่ 3 แล้วครับ (และเป็นสาขาที่ 2 ที่อยู่ใน กทม.) สาขาแรกอยู่ที่เชียงใหม่
ไม่ต้องไปถึงนั่นแล้วครับทีนี้ ก็ได้ลิ้มรสชาหอมๆ ขนมอร่อยๆ กันใกล้ๆ ได้เลย...
บรรยากาศร้านออกแนว Indian Moroccan ประดับประดาเฟอร์นิเจอร์ต่างๆภายในร้านเน้นไปโทนสีชมพู ครับ
ทุกโต๊ะจะมีกระดิ่งหรูไว้คอยเรียกพนักงานด้วยครับ =A=
ร้านนี้เด่นเรื่องชามากครับ กลื่นนี่หอมกว่าที่เคยสัมผัสมาแบบคนละเรื่องเลย
มีชาให้เลือกถึง 59 ชนิดเลยครับ มีขวดกระปุกให้ทดลองกลิ่นด้วย ลองไปไม่กี่กระปุกนี่หอมมาก...
หยั่งกะหัวน้ำหอมเลยทีเดียว..
ส่วนขนมหวาน ต่างๆ นี่ สวยงามไฮโซมากครับ ที่ได้ลองมี...
- High Tea for Two Set จะมีขนม 3 อย่าง มา3ชั้น ...พร้อมน้ำชา อีก 1 กา ราคา 550 บาทครับ ประกอบด้วย...
ชั้นแรก จะเป็น Blueberry Cheese cake ครับ บลูเบอร์รี่อย่างเยอะราดบนชีสเค้กเนื้อแน่นๆ ครับ
ชั้นสอง จะเป็น Rooibos tea Mousse ครับ เป็น มูสชาแดงแอฟริกัน หอมมากๆ เสิร์ฟคู่กับซอสสูตรพิเศษ
ราดด้วยซอสราสเบอร์รี่ ทานด้วยกันอร่อยม๊ากกกกกก ครับ ชอบสุดๆเลย
ชั้นที่สามล่างสุดเป็น Fruit Salad ครับ เป็นผลไม้หลายๆอย่าง แก้วมังกร แอบเปิ้ล สัปปะรด แคนตาลูป ทานคู่กับแยมโฮมเมตครับ เพลินใช้ได้เลย
ชาใน SET เลือกเป็น Vieng Joom On Tea ครับ ชื่อร้านเป็นประกัน กลิ่นหอม มว๊าาก ชาร้อนมีบริการ สามารถเติมน้ำได้สองสามรอบครับ เกินนี้จะจืดไปละครับ...
- Rosy Mousse ครับ เป็นMousseเนื้อเนียนกลิ่นชากุหลาบหอมแบบว่าหอมเกิ๊นนน ไม่หวานมากครับ
แถมโรยด้วยวนิลาแท้ๆอีกตังหากครับ สั่งแยกมา ราคา 190 บาทครับ ต้องลองครับ
- Apple Prune Fillo ครับ ราคา 180 บาท เป็นแผ่นแป้งบางกรอบสไตล์ฝรั่งเศส สอดไส้ด้วยแอปเปิ้ลและลูกพรุน เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมวนิลลาและราดด้วยน้ำผึ้งธรรมชาติหอมๆครับ อร่อยมากครับ
- Scone Set ครับ ประกอบด้วย สโคนโฮมเมด 4 ชิ้น เสิร์ฟพร้อมโฮมเมดแยม และไลท์ครีมแคลอรี่ต่ำ
ราคา 320 บาทครับพร้อมชาเลือกได้ตามใจชอบอีก 1 กา ผ่าครึ่งแล้วทาครีม อร่อยมากกกครับ ดื่มชาอุ่นๆตามนี่อย่างเพลินครับ
- Mini Banana ครับ 180 บาท เป็นกล้วยหอมและช็อกโกแลต ห่อด้วยแผ่นแป้งบางกรอบ เสิร์ฟพร้อมน้ำผึ้งธรรมชาติ จานนี้ชอบมากๆ อีกจานครับแย่งกินเกือบหมดเลย Undecided
ร้านนี้พลาดไม่ได้ครับได้ครบทุกอย่างจริงๆ ไม่ต้องอิจฉาคนเชียงใหม่แล้วด้วย
เห็รมีแจ้งว่าตอนนี้มีโปรโมชั่นด้วย "Special High Tea Set จากปกติเซ็ทละ 550 บาท ลดเหลือ 450 บาท (เฉพาะวันจันทน์ถึงวันศุกร์)" รายละเอียดเพิ่มเติมรบกวน เพื่อนๆ ลองไปดูที่ Facebook ของทางร้าน นะครับ
ร้านอาหารสไตล์ชิลล์ๆ ฟังเพลงแจ๊สสดๆ เปียโนเพราะๆ หรูๆ สบายๆ กลางเมือง
ร้าน SALABAR(ศาลาบาร์) ที่เพิ่งย้ายมาเปิดใหม่ที่ซอยสุขุมวิท 61 ครับ
ร้านนี้เน้นบริการไปถึงจะพบกับพนักงานต้อนรับอย่างดีมากมายมากจนแอบเกรงใจกันเลย
และเน้นทานอาหารอร่อยๆ จัดจานสวยงาม พร้อมฟังดนตรีสดเพราะๆ
ฟินครับร้านนี้ ได้ทานอาหารอร่อยๆ วัตถุดิบดีๆ ตกแต่งจานสวยๆ บรรยากาศดีๆ
ที่สำคัญคือเพลงเพราะๆสดๆครับเพื่อนพี่น้องคนไหนอยากสัมผัสความอิ่มกับประสาทสัมผัสทั้งห้า
และอยากพาครอบครัว คนที่รักมามากเลยครับร้านนี้รายละเอียดของร้านลองติดต่อสอบถาม
ทางเพจของร้านเอานะครับ
Reviewเต็มๆขอเชิญที่
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=akuchan&date=04-11-2014&group=1&gblog=31
ครับผม
รบกวนขอเบอร์โทร หรือ ติดต่อกลับที่เบอร์ 0830286159 ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
จะจองห้องประชุมครับ ขอบคุณครับ
จะสั่งเค้กคะ
สาขานี้อยู่มานานมากกก เดี๋ยวนี้สาขาอื่นเค้าเปลี่ยนสไตล์ตกแต่ง สาขานี้เลยเปลี่ยนตามมั่งคับ
เป็นแนวไม้สีเข้มๆ เฟอร์นิเจอร์มีโลหะผสม ออกแนวยุโรปยุคกลางดี - -' เห็นแล้วนึกว่าอยู่ในปราสาทโบราณ - -"
แต่ผมว่า โต๊ะมันเตี้ยไปอะครับ ถ้าไปนั่งทำงาน โต๊ะมันจะต่ำมากเวลาเทียบกับความสูงเก้าอี้ นั่งแล้วต้องก้มเยอะ จะปวดคอได้ถ้านั่งทำงานนานๆ
ดีไซน์เก่ามันยังมีความสูงโต๊ะเก้าอี้ที่ดีกว่าอะคับ
แต่ปิดปรับปรุงสาขานี้เร็วมากคับ ไม่ถึงเดือนก็เปิดใหม่แล้ว
พนักงานที่ร้านโกงเงินคนอื่นในอินเตอร์เน็ตหรือป่าวครับ พอดีผมรู้มาว่าเค้าทำงานที่นี่ ถ้านิสัยแบบนี้ไม่น่าจะรับทำงานด้วยเลยนะครับ ผมกลัวว่าร้านจะเสียหายแทน ยังไงผมก็ขอโทษด้วยนะครับ
พอดีว่าหนูต้องทำโปรเจค อยากทราบว่ ''เมนูไหนที่คนมาซื้อมากที่สุด และราคาเท่าไหร่ค่ะ"
แวะมาทำธุระที่ gateway ข้างๆ หาร้านกาแฟนั่งทำงานไม่ค่อยมี เลยแวะมานั่งที่นี่แทนคับ ตึกติดกัน
มาถึง แอบตกใจ - -' บรรยากาศออกแนวน่ากลัวนะครับที่นี่ ไม่รู้ทำไมต้องใช้กระจกเหลืองทั้งร้าน มันเลยดูเก่าๆ สยองๆ ชอบกล
ส่วนเครื่องดื่ม วันนี้ขอลองของใหม่ครับ Very Berry Hibiscus
เค้าว่าเป็นน้ำผลไม้ ที่ผสมกับสารสกัดจากเมล็ดกาแฟเขียว เคยได้ยินแต่เมล็ดชาเขียว อันนี้แปลกดี เห็นเค้าบอกมันคือเอาเมล็ดกาแฟจะถูกสกัดออกมา ได้คาเฟอีนมาเต็มๆ กินน้ำผลไม้ แต่ตื่นเหมือนกินกาแฟ อะไรอย่างงั้นครับ - -'
รสชาติ ผมว่าเหมือนน้ำผลไม้ผสมยาจีนเลย ก็แปลกๆ นิดนึง แต่กินๆไป ก็โอเคนะครับ
ร้านชื่อเก๋จังค่ะ
ร้าน ส้มตำ ฟิวชั่น ปะป้าลุง บรรยากาศเป็นกันเอง ๆ สบาย ๆ
ร้านนี้เคยเป็นส่วนนึงของร้านขายโคมไฟข้างๆ ค่ะ เค้าแบ่งเนื้อที่มาทำร้านกาแฟ อยู่ชั้นสอง แต่งบรรยากาศได้น่ารักมากเลย >.< สาวๆ น่าจะชอบนะคะ ออกแนวโทนอบอุ่น มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่มองออกไปข้างนอกได้สบายๆ มีเด็กมศว.มานั่งติวกันเยอะเหมือนกันเลยค่ะ
ส่วนราคากาแฟก็โอเคนะคะ กาแฟอเมริกาโน่ก็ประมาณ 75 กาแฟเค้ามีกลิ่นหอมๆ อะไรซักอย่างด้วยค่ะ รสชาติก็โอเคเลย และก็เห็นมีขายอาหารญี่ปุ่นด้วย พวกข้าวแกงกะหรี่อะไรแบบนี้อะค่ะ แต่ไม่ได้ลองค่ะ
ทีชอบอีกอย่างก็คือ ปิดดึกด้วยค่ะ 3 ทุ่ม เพราะว่าร้านกาแฟในซอยอโศกนี่ส่วนมากปิดเร็วกันนะคะ ไม่เกินทุ่มก็ปิดกันหมดแล้ว เผื่อจะมานั่งคุยงานกันดึก หรือนั่งชิลรอรถหายติดก่อนกลับบ้านก็ดีเหมือนกันค่ะ
ขอติอย่างนึงนะคะ เห็นมีที่เสียบปลั๊กไฟ แต่เสียบแล้วไม่มีไฟอะคะ แบตโน้ตบุคจะหมดอะคะ >.<