คอมเม้นต์รีวิวทั้งหมด
ค้นหาคอมเม้นต์ที่คุณต้องการ
เคยไปทานที่เมืองนอกคับ เป็นอาหารราคาไม่แพงมาก (เทียบกับกินอาหารร้านเต็มๆ) เวลาไปเที่ยวฮ่องกงหรือเมกา แต่ผมว่าที่ไทยที่ราคาออกแนวค่อนข้างแพงไปแฮะเมื่อเทียบกับขนาด - -"
ลองสั่งข้าวหน้าเทมปุระไก่ เพราะไม่เคยเห็นที่ฮ่องกงอะครับ ออกมาปรากฏว่าเย็นชืดมากเลย เหมือนทอดทิ้งไว้แล้วหยิบวางบนข้าวเฉยๆ อะ - -'
สั่งแบบเซ็ตไป ได้เครื่องดื่มและซุปด้วย เค้ามีซุปให้เลือก 3 อย่างมั้งคับถ้าจำไม่ผิด มีซุปเต้าเจี้ยว (มิโสะ) สาหร่ายแห้ง (โนริ) สาหร่ายเขียว (วากาเมะ)
สั่งวากาเมะไปคับ ผมว่าใช้ได้
ไปลองทานข้าวหน้าเนื้อ ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่ารสชาติก็ธรรมดา แต่ราคาค่อนข้างสูง ปริมาณก็ไม่คุ้มค่า แต่ยอมรับว่าเนื้อสไลด์มาบางมาก(ไม่รู้ว่าเปนข้อดีหรือข้อเสีย) บวกกับมันที่อยู่บนเนื้อแต่ละชิ้น ทำให้รู้สึกว่าไม่เต็มปากเต็มคำ รสสัมผัสไม่เต็มที่ ซึ่งอันนี้แล้วแต่คนชอบ (บางคนบอกว่าแบบนี้ดี ละลายในปาก)
บรรยากาศร้านก็คับแคบ กระเบียดกระเสียนกันเหลือเกิน
สำหรับผมร้านนี้ไม่โอครับ
เห็นในรายการทีวีเค้าไปถ่ายร้านนี้ค่ะ น่าทานมากเลย เห็นบอกว่าไก่เทริยากิ จะย่างจนหนังกรอบ มันหายหมด
วันนี้แวะมาเทอมิน่อล เลยขอลองเลยค่ะ สั่งที่ใหญ่มาแบ่งกับเพื่อนสองคน ในรูปนี่คือข้าวไก่เทริยากิที่ใหญ่ค่ะ เป็นเซ็ตกับกรีนที กับซุปโนริค่ะ
ส่วนตัวเราว่าโอเคทุกอย่างเลยนะคะ ข้าวญี่ปุ่นหอม ซอสโอเคเลย ซุปกลมกล่อมมาก (ออกเค็มไปนิด แต่อร่อยค่ะ) กรีนทีเข้มข้น
แต่ ไก่มันไม่กรอบแบบที่เค้าว่าอาคะ ฮือฮือ มันออกแฉะไปนิด และน้อยไปหน่อยด้วยค่ะ เลยไม่ประทับใจตรงนี้
เป็นร้านที่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าอารีย์เท่าไหร่
รสชาดอาหารอร่อยดี กินพอร์คชอป ชิ้นหนามาก มีซอสให้เลือกหลายอย่าง
แนะนำว่าอย่าเลือกซอสพริกไทดำเพราะว่ามันค่อนข้างธรรมดาเหมือนกับที่อื่น
สั่งซุปหน่อไม้ฝรั่งมากิน อันนี้ประทับใจ ควรกินกับขนมปัง (ที่เขาเอาให้ฟรีตอนแรก)
จะหร่อยมากๆ
มาที่นี่แต่ละครั้งกินกันหกร้อยบาทต่อคนขึ้นไป
มีดนตรี Bossa Nova เล่นสด ปนกับ Smooth Jazz ในช่วงเย็น (คนร้อง โคตรเก่งเลย)
ข้อเสียมากๆคือ ที่จอดรถน้อยมากกกกกกกกกกก กินไปสิบนาทีต้องมาเลื่อนรถทีนึง
ชอบเมนูนี้มากๆ คับของที่นี่ Chocolate fondant
มันจะเป็นคล้ายๆ เค้กที่ข้างในมีไส้ชอคโกแลตเหลวอยู่ พอตัดก็จะไหลออกมา อารมณ์ชอคโกแลตลาวานี่เอง เสิร์ฟพร้อมกับไอติมเลือกรสเองได้
ตัว fondant จะอุ่นร้อนๆ มา ทานกับไอติม อร่อยมากๆ ที่ชอบคือ fondant มันไม่ค่อยหวานเท่าไหร่คับ รสชาติชอคโกแลตมันกลมกล่อม ขมนิดๆ หวานหน่อยๆ และแป้งจะออกแนวกรอบนิดๆ อร่อยสุดๆ เสียแต่ชิ้นเล็กไปหน่อยคับ - -'
พอดีมาธุระแถวๆทองหล่อ เลยได้โอกาสแวะร้านนี้ครับ
ร้าน Waza Sushi ตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 31 กับ 33 ครับ
ถ้าขับรถมาแนะนำให้เข้าซอย 33 นะครับ
แต่ถ้านั่งบีทีเอสมา อาจจะต่อTAXIเข้ามาครับ ตรงมาเจอแยกเลี้ยวซ้ายแล้วจะพบกับ
Community Mall @27/1 อยู่ทางขวาครับ
ร้าน Waza Sushi เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ใตคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีชื่อ
โครงการว่า @27/1 ครับซึ่งที่จอดรถอาจจะน้อยไปซักหน่อย
ท่านที่ขับรถมา ให้ไปจอดที่โรงแรม The Euro Grande ที่
ตั้งห่างไปประมาณ 100 เมตรครับเป็นที่จอดของทางร้านสามารถจอดได้ฟรีครับ
เพราะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น แน่นอนว่าก็ต้องเน้นซูชิเป็นพิเศษ
สำหรับซูชิและซาชิมิของร้านนี้ขอบอกเลยว่าไม่ธรรมดาครับ อย่างที่ผมสั่งวันนี้คือ Waza Sashimi ที่เป็นชุดปลาดิบรวม ขนมาเกือบหมดทะเลเลย
มีทั้ง โอโทโร่ ชูโทโร่ อากามิ คัมปาจิ หอยแครงญี่ปุ่น อูนิ กุ้งโบตัน มาแบบอลังการมากๆ
เนื้อปลาชิ้นหนา ใหญ่ ให้มาแบบสะใจคอปลาดิบเลยครับ ที่สำคัญคือ สด ไม่คาว ครับ
อีกเมนูที่แนะนำคือ Waza Sushi เป็นซูชิที่มาแบบอลังการเหมือนกัน ชิ้นปลาหนามากๆกลบข้าวมิดเลยครับ
และแต่ละคำก็ใช้แต่ของดีๆเช่น โอโทโร่ ชูโทโร่ ฟัวกราส์ ปูทาราบะ ฯลฯ
เมนูอื่นๆที่อยากแนะนำอีกคือ Salmon Waza ที่เป็นอาหารญี่ปุ่นแบบฟิวชั่น โดยนำปลาแซลมอนสไลซ์บาง ราดด้วยพอนสึ ที่ชิ้นปลาจะป้ายด้วยกระเทียมสับ และวางพริกชี้ฟ้าไว้ด้านบน ทานพร้อมๆกันอร่อยมาก
แซลมอนมีกลิ่นหอม พอนสึรสชาติออกเปรี้ยว ตัดกับกลิ่นกระเทียมและความเผ็ดของพริกได้ดีมากๆครับ
สำหรับร้านนี้ขอบอกเลยว่าไม่ผิดหวังจริงๆ ยิ่งได้รู้ว่า เชฟร้านนี้เป็นลูกศิษย์ของเชฟบุญธรรม เชฟกระทะเหล็กอาหารญี่ปุ่นด้วยแล้ว มั่นใจในคุณภาพและรสชาติอาหารได้เลยครับ
พนักงานพูดคุยเสียงดัง พูดไม่เพราะ ช่างแตกต่างกับสาขาสนามเป้า พนักงานมีมารยาทดีกันทุกคน
ขอมาอัพรีวิวร้านชา ขนมหวาน สไตล์ชิลล์ๆ Vieng Joom On Teahouse (เวียง จูม ออน ที เฮ้าส์)
ที่แอบอยู่มุมสงบๆ ณ ห้างชื่อดังใจกลางเมืองอย่าง Central World ชั้น 5 ร้านอยู่ใกล้กับทางเข้าส่วนของ
ห้างZEN ครับ ครับ สาขานี้เป็นสาขาที่ 3 แล้วครับ (และเป็นสาขาที่ 2 ที่อยู่ใน กทม.) สาขาแรกอยู่ที่เชียงใหม่
ไม่ต้องไปถึงนั่นแล้วครับทีนี้ ก็ได้ลิ้มรสชาหอมๆ ขนมอร่อยๆ กันใกล้ๆ ได้เลย...
บรรยากาศร้านออกแนว Indian Moroccan ประดับประดาเฟอร์นิเจอร์ต่างๆภายในร้านเน้นไปโทนสีชมพู ครับ
ทุกโต๊ะจะมีกระดิ่งหรูไว้คอยเรียกพนักงานด้วยครับ =A=
ร้านนี้เด่นเรื่องชามากครับ กลื่นนี่หอมกว่าที่เคยสัมผัสมาแบบคนละเรื่องเลย
มีชาให้เลือกถึง 59 ชนิดเลยครับ มีขวดกระปุกให้ทดลองกลิ่นด้วย ลองไปไม่กี่กระปุกนี่หอมมาก...
หยั่งกะหัวน้ำหอมเลยทีเดียว..
ส่วนขนมหวาน ต่างๆ นี่ สวยงามไฮโซมากครับ ที่ได้ลองมี...
- High Tea for Two Set จะมีขนม 3 อย่าง มา3ชั้น ...พร้อมน้ำชา อีก 1 กา ราคา 550 บาทครับ ประกอบด้วย...
ชั้นแรก จะเป็น Blueberry Cheese cake ครับ บลูเบอร์รี่อย่างเยอะราดบนชีสเค้กเนื้อแน่นๆ ครับ
ชั้นสอง จะเป็น Rooibos tea Mousse ครับ เป็น มูสชาแดงแอฟริกัน หอมมากๆ เสิร์ฟคู่กับซอสสูตรพิเศษ
ราดด้วยซอสราสเบอร์รี่ ทานด้วยกันอร่อยม๊ากกกกกก ครับ ชอบสุดๆเลย
ชั้นที่สามล่างสุดเป็น Fruit Salad ครับ เป็นผลไม้หลายๆอย่าง แก้วมังกร แอบเปิ้ล สัปปะรด แคนตาลูป ทานคู่กับแยมโฮมเมตครับ เพลินใช้ได้เลย
ชาใน SET เลือกเป็น Vieng Joom On Tea ครับ ชื่อร้านเป็นประกัน กลิ่นหอม มว๊าาก ชาร้อนมีบริการ สามารถเติมน้ำได้สองสามรอบครับ เกินนี้จะจืดไปละครับ...
- Rosy Mousse ครับ เป็นMousseเนื้อเนียนกลิ่นชากุหลาบหอมแบบว่าหอมเกิ๊นนน ไม่หวานมากครับ
แถมโรยด้วยวนิลาแท้ๆอีกตังหากครับ สั่งแยกมา ราคา 190 บาทครับ ต้องลองครับ
- Apple Prune Fillo ครับ ราคา 180 บาท เป็นแผ่นแป้งบางกรอบสไตล์ฝรั่งเศส สอดไส้ด้วยแอปเปิ้ลและลูกพรุน เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมวนิลลาและราดด้วยน้ำผึ้งธรรมชาติหอมๆครับ อร่อยมากครับ
- Scone Set ครับ ประกอบด้วย สโคนโฮมเมด 4 ชิ้น เสิร์ฟพร้อมโฮมเมดแยม และไลท์ครีมแคลอรี่ต่ำ
ราคา 320 บาทครับพร้อมชาเลือกได้ตามใจชอบอีก 1 กา ผ่าครึ่งแล้วทาครีม อร่อยมากกกครับ ดื่มชาอุ่นๆตามนี่อย่างเพลินครับ
- Mini Banana ครับ 180 บาท เป็นกล้วยหอมและช็อกโกแลต ห่อด้วยแผ่นแป้งบางกรอบ เสิร์ฟพร้อมน้ำผึ้งธรรมชาติ จานนี้ชอบมากๆ อีกจานครับแย่งกินเกือบหมดเลย Undecided
ร้านนี้พลาดไม่ได้ครับได้ครบทุกอย่างจริงๆ ไม่ต้องอิจฉาคนเชียงใหม่แล้วด้วย
เห็รมีแจ้งว่าตอนนี้มีโปรโมชั่นด้วย "Special High Tea Set จากปกติเซ็ทละ 550 บาท ลดเหลือ 450 บาท (เฉพาะวันจันทน์ถึงวันศุกร์)" รายละเอียดเพิ่มเติมรบกวน เพื่อนๆ ลองไปดูที่ Facebook ของทางร้าน นะครับ
บรรยากาศดีริมแม่น้ำปิง ชื่อดังของเชียงใหม่ครับ
จากตัวเมืองเชียงใหม่ตรงมาข้ามสะพานนวรัตน์ จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจริญราษฎร์
ระหว่างทางจะผ่านร้านอาหารกู๊ดวิวริเวอร์ไซด์ เลยไปประมาณ 500 เมตร
จะพบร้านเวียงจูมออนทีเฮ้าส์สีชมพูเด่นๆอยู่ทางด้านซ้ายมือครับ
มื้อนี้ถือได้ว่ามาเยือนร้านสาขาหลักถึงเชียงใหม่ คุ้มค่า ฟิน สมใจครับ
ร้านนี้เห็นมีเว็บลงไว้ว่าเป็น 1 ใน 10 ที่ต้องไปเมื่อมาเชียงใหม่ด้วยครับ
ก็สมราคาคุยอยู่ครับ บรรยากาศดีมากๆ ถ้าเพื่อนพี่น้องคนไหนยังไม่เคยลองต้องจัดครับ
สุดยอดร้านสาย Vegan ใจกลางเมืองกรุง "Veganerie" ร้านตั้งอยู่ด้านหลังสวนเบญจสิริครับ
ถ้ามาทางบีทีเอส ออกทางออกที่สองที่อยู่ด้านข้างเอ็มโพเรียม แล้วเดินมาด้านหลัง
ผ่านเอ็มโพเรียมสวีท จะเจอซอยเล็กๆด้านขวามือ เดินเข้าไปนิดเดียวก็เจอร้านแล้วครับ
หรือถ้าชอบความร่มรื่น จะเดินทะลุสวนเบญจสิริ ออกมาทางด้านหลังก็เจอร้านเลยเช่นกันครับ
Veganerie เป็นร้านสายวีแกนแบบจัดเต็ม เนื่องจากเจ้าของร้านเป็นคนที่ทานวีแกนแบบดั้งเดิมซุ่งจะงดทุกอย่างที่เป็นสัตว์และผลผลิตจากสัตว์ด้วยเช่นกัน จึงเข้าใจถึงแก่นความเป็นวีแกน
อาหารทุกจานของที่ร้าน ปรุงสดใหม่ ด้วยวัตถุดิบคัดสรรพิเศษ วีแกนล้วนๆ ทั้งของคาวและของหวาน สำหรับสาวกวีแกน ร้านนี้มั่นใจได้แน่นอนครับ
สำหรับวันที่ไปผมได้ลองทานอาหารหลายอย่าง แต่ที่ประทับใจมากๆคือ Vegan Papaya Salad &Fried Chicken นั่นคือส้มตำกับไก่ทอดแบบวีแกนนั่นเอง
ซึ่งส้มตำก็สามารถสั่งได้นะครับว่าเผ็ดน้อยเผ็ดมาก ส่วนไก่ทอดนั้น แน่นอนว่าไม่ใช่เนื้อไก่จริงๆ แต่เป็นเห็ดไต้หวันที่นำมาผสมกับเครื่องปรุงสูตรพิเศษของทางร้าน
ทอดจนกรอบหอม ทานกับส้มตำอร่อยมากๆครับ
จานแนะนำอีกหนึ่งจานคือ Vegan Pulled BBQ Pork Burger ครับ เป็นเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ เสิร์ฟพร้อมเฟร้นช์ฟรายโรยผงปาปริก้า และซอสสามแบบครับตัวไส้เบอร์เกอร์ประกอบไปด้วยเห็ด
ซอสบาบีคิว และผักกะหล่ำ ให้มาเยอะมากๆครับ จริงๆทานชิ้นเดียวก็อิ่มได้เลย
และอีกเมนูที่ห้ามพลาดคือ Green Curry & Roti โรตีแกงเขียวหวานแบบวีแกนครับ เป็นแกงเขียวหวานเต้าหู้ เสิร์ฟพร้อมกับโรตีมาเลเซียทอดแบบไร้น้ำมันครับ รสชาติเข้ากันดีมากๆ อันนี้ผมสั่งกลับบ้านอีกหนึ่งชุดเลยครับ
สำหรับเมนูของหวานและเครื่องดื่ม ก็เป็นวีแกนแท้ๆ Brownie Frappe นี่เข้มข้นถึงใจมากๆเลยครับพลาดไม่ได้เลย ต้องลองทั้งหนุ่มๆและสาวๆต้องชอบแน่นอน แม้กระทั่งวิปครีมเองก็ทำจากถั่ว ไอศครีมก็เข้มข้นแบบไม่มีที่ไหนเหมือน สายเบเกอรี่ห้ามพลาดนะครับโดยเฉพาะ Red Velvet Waffles ตัววัฟเฟิลกรอบนอกนุ่มในมีกลิ่นหอมของเบอร์รี่อร่อยมากๆ สีก็สวยสมชื่อน่าทานสุดๆ ท็อปปิ้งด้วยกีวี่และสตอแบรี่สด
เสิร์ฟพร้อมไอศครีมชอคโกแลตสูตรพิเศษแบบโฮมเมต คุ้มค่าฟินมากๆ ขนาดที่ทุกคนบอกอิ่มแล้วยังแย่งกันทานแปบเดียวเกลี้ยงเลยครับต้องไปลองครับ ร้านเปิดให้บริการ ตั้งแต่ สิบโมงเช้าถึงสี่ทุ่มเลยครับปิดวันพฤหัสนะครับ
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่ http://goo.gl/Xqeu5w
ชอบร้านนี้ที่สุดเลยค่ะ อาหารอร่อย ไม่แพง เร็วด้วยค่ะ
พอดีว่าหนูต้องทำโปรเจคอยากจะถามว่าเมนูของร้านมีอะไรบ้างหรอค่ะ
โกง point true black card ตัดแต้มเบิ้ล 2 ครั้งและไม่ได้ให้ใบเสร็จเป็นหลักฐาน เหมือนโกงเครื่องดื่มลูกค้าไป 2 แก้ว จนลูกค้าจะทราบเมื่อเอะใจเข้าระบบเพื่อเช็คแต้ม
ร้านนี้ถือว่าอร่อยกว่าซูชิตามร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปครับ เนื้อปลาสรชาติดีมาก แต่วันที่ผมไปทานนั้นผมรู้สึกว่าข้าวแข็งไปนิดนึงครับ โดยรวมให้ผ่านครับ!
หน้าร้านก็สวยดีค่ะ
ร้านนี้เห็นเค้าโปรโมตมานานว่า เป็นหมูทอดที่นุ่มระดับใช้ตะเกียบตัดได้
พอมีโอกาสแวะมาแถวนี้บวกกับเป็นช่วงต้นเดือน เลยขอจัดทีครับ (เพราะได้ยินมาว่าแพงมาก)
พอมาเห็นเมนูก็.... แพงจริงๆ ครับ - -"
ซาโบเตนที่ว่าแพงแล้ว ยังถูกกว่าเจ้านี้เป็นร้อยเลย
ดูๆ เมนูเลยตัดสินใจจัดเซ็ตใหญ่ไปเลย เซ็ตไมเซนพรีเมียมมิกซ์ครับ
จะมีหมูสันในชิ้นนึง ไก่ชิ้นนึง แล้วก็กุ้งชิ้นนึง ราคาอยู่ที่ 415 บาท มีข้าว ซุป กะหล่ำ เติมได้ และมีของหวานเป็นคัสตาร์ดหรือไอติม (มีบวก vat เพิ่มอีก 10% - -")
ร้านนี้จะมีซอสเยอะมากครับวางบนโต๊ะให้เลือก แต่จะไม่มีงามาให้บดเองแบบร้านหมูทอดอื่นๆ
ซอสจะมีสองแบบ ทั้งน้ำสลัด ทั้งซอสทงคัตสึ ซึ่งผมว่าซอสมันจะหวานๆ อร่อยดีครับ
ส่วนของของทอด มันก็นุ่มเทพจริงๆครับ ใช้ตะเกียบตัดได้ เค้าเลยเล่นไม่หั่นมาให้เลย - -"
ถึงมันจะนุ่ม แต่มันก็ไม่ได้นุ่มระดับที่ตะเกียบจิ้มแล้วขาดเป็นเต้าหู้ทันที แต่ต้องมานั่งใช้ตะเกียบจิ้มๆๆๆ เพื่อตัดนิดนึง ทำให้แป้งขนมปังมันร่วงระนาวเต็มไปหมด - -"
แต่ผิวสัมผัสของเนื้อนุ่มจริงอะไรจริง หยั่งกะกินหมูสับเลยครับ
ส่วนเรื่องบริการ ผมว่าไม่ค่อยดีเลยครับ เรียกเช็คบิล เรียกสั่งอาหาร ดูมั่วๆ มึนๆ
เห็นพนักงานหลายๆ คนก็ยืนเฉยๆ ในขณะที่อีกหลายคนก็ยุ่งวิ่งไปมาทำทุกอย่าง และบริการช้ามากกก (อาจจะเป็นเพราะช่วงคนเยอะด้วย) คิดเงิน เงินทอนก็รอเป็นสิบนาที ทั้งๆ ที่จ่ายเงินแล้วพนักงานคนเดิมน่าจะรอเอาเงินทอนมาให้ แต่นี่ เอาเงินไปวางที่แคชเชียร์เสร็จ ก็เดินไปเช็ดโต๊ะต่อ - -"
ผมว่า เนื้อหมูเทพกว่าซาโบเตน ส่วนกะหล่ำ ซาโบเตนซอยดีกว่าหน่อย
แต่ราคาที่เพิ่มเข้ามาเป็นร้อย (หมดไป 475 ครับ หลังจากบวก vat แล้ว) บวกกับบริการที่ไม่ค่อยดี และน้ำก็ไม่รวม ผมว่าไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ครับ
แต่ถ้านานๆ ทีมาลองก็โอนะ
ร้านนี้อยู่ติดกับกิวโนยะร้านโปรดเลยคับ แถวนี้จะมีร้านสไตล์บาร์แบบเข้าไปนั่งกินแล้วก็ชิ่งอยู่สามเจ้า (อีกเจ้าคือแกงกะหรี่ชินเอม่อน ติดๆ กันเลย)
ผมว่าร้านนี้รสชาติก็โอเคคับ เคยลองราเม็งมะเขือเทศ แต่ผมว่ารสชาติมันก็ไม่ได้มะเขืออะไรขนาดนั้นนะ
รวมๆ ร้านนี้ผมว่าราคาสูงกว่ากินกิวโนยะนิดหน่อย (ราเม็งชามกลางก็ 220 แต่ก็ชามใหญ่พอตัว) รสชาติก็เรียกว่าโอเคใช้ได้คับ ถ้าอยากหาอะไรกินแบบเร็วๆ ก็เป็นอีกทางเลือกนึง
มีโอกาสได้ไปทานที่ร้าน You Cuisine เป็นร้านสุกี้สไตล์เซี่ยงไฮ้ แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร โดยนำกลิ่นอายของความเป็นเซี่ยงไฮ้มาเสิร์ฟให้คุณถึงที่ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือการตกแต่งร้าน เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในอีกโลกนึงเลยครับ
และด้วยเหตุผลนี้เอง จึงทำให้อาหารของร้าน You Cuisine ค่อนข้างจะแปลกใหม่กว่าร้านสุกี้ตามท้องตลาดทั่วไปครับ
ทางร้านเล่าว่า เครื่องสุกี้ทุกจานของทางร้านเป็นแบบโฮมเมดครับ คือมีครัวกลาง ทำทุกอย่างเอง แล้วส่งมาให้ร้านสาขาครับ ดังนั้นมั่นใจได้ว่า อาหารที่คุณทาน สดใหม่ทุกจานครับ
ทางร้านมีน้ำซุปให้เลือกสามแบบ ได้แก่ซุปใสหอยเชลล์ที่เคี่ยวด้วยหอยเชลล์ตากแห้ง ซุปยาจีนสมุนไพร ที่นำเบสของซุปตัวแรกมาเพิ่มเครื่องยาจีน และซุปที่สาม ขาดไม่ได้แน่นอนกับซุปต้มยำรสจัดจ้านแบบไทยๆครับ
สำหรับเครื่องสุกี้ของร้านนี้ หลากหลายมากๆ เพราะเป็นของโฮมเมด จึงครีเอทได้แหวกแนวกว่าร้านอื่นๆครับ
ที่ผมแนะนำเลยว่าไม่ควรพลาดก็มี
- ปูทรงเครื่องห่อแพรทอง ที่นำเนื้อปูผสมเข้ากับหมูบดปรุงรส ห่อด้วยฟองเต้าหู้ สวยงามน่าทานครับ
- ลูกชิ้นกุ้งมังกรจักรพรรดิ์ เป็นลูกชิ้นที่ทำจากเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ครับ ลูกใหญ่สะใจ หอมกลิ่นกุ้ง กัดตรงไหนก็เจอเนื้อกุ้งครับ
- หมูเก๋ากี้ห่มสไบ หมูบดปรุงรส นำมาผสมกับเครื่องยาจีนโบราณอย่างเก๋ากี้ แล้วห่อด้วยผักกาดขาว อร่อยและมีประโยชน์ครับ
- สาหร่ายหัวใจยู หมูบดปรุงรสผสมสาหร่าย เพิ่มความเก๋ไก๋ด้วยการทำเป็นรูปหัวใจครับ
- ทรงเครื่องหอมหมื่นลี้ ที่นำหมูบดปรุงรสมาวางไว้บนเห็ดหอม ได้ทั้งรสชาติเข้มข้นจากหมู และความหอมของเห็ดหอมครับ
ขอบอกว่ามีอีกเยอะมากๆ และน่าอร่อยทั้งนั้นเลยครับ แต่ที่เด็ดไม่ได้มีแค่สุกี้นะครับ อาหารจานเดียวก็อร่อยไม่แพ้กันครับ
เช่น บะหมี่ไข่จักรพรรดิ์ผัดซอส XO กุ้งสด ซึ่งทางร้านได้นำบะหมี่ไข่สูตรพิเศษ มาผัดกับซอส XO รสเข้มข้น
ผัดมาได้ดีมากๆครับ เส้นบะหมี่ทุกเส้นถูกเคลือบด้วยซอส หอมกลิ่นกุ้งกับหมึก (ที่ทางร้านบอกว่าใช้ทำซอส XO) กุ้งที่ใส่มาก็สดกรอบครับ
หรือจะลอง ข้าวจักรพรรดิ์ ที่เป็นข้าวหน้า คล้ายๆกับข้าวหน้าไก่ หรือราดหน้า แต่พลิกแพลงเป็นอาหารทะเลลงไปแทน มีทั้งกุ้ง ปลาหมึก เห็ดหอม ราดลงไปบนข้าวผัดไข่ จานนี้ก็กลมกล่อมครับ
อ้อ ลืมเรื่องน้ำจิ้มสุกี้ไปเลย ทางร้าน You Cuisine มีน้ำจิ้มต้นตำรับจากเซี่ยงไฮ้มาให้เลือกถึงสามแบบด้วยกันครับ
น้ำจิ้มสีดำ หรือน้ำจิ้มเซี่ยงไฮ้ เป็นน้ำจิ้มสูตรเด็ดที่นำมาจากเซี่ยงไฮ้เลยครับ ถ้วยนี้จะให้รสชาติเค็มเผ็ด แต่แค่เผ็ดปลายๆลิ้นเท่านั้นนะครับไม่ได้เผ็ดมาก ผมว่าอันนี้รสชาติเข้มข้นครับ
น้ำจิ้มถัดมาสีแดงจะเป็นน้ำจิ้มยูซังไฮครับ สไตล์คล้ายๆน้ำจิ้มสุกี้บ้านเรา แต่รสชาตินุ่มนวลกว่า
น้ำจิ้มสุดท้ายคือ น้ำจิ้มหยกครับ คล้ายๆกับน้ำจิ้มซีฟู้ด เปรี้ยวน้ำเผ็ดตามครับ
จริงๆที่ทาง You Cuisine แนะนำคือ ให้นำน้ำจิ้มเซี่ยงไฮ้ ผสมกับน้ำจิ้มยูซังไฮ จะได้น้ำจิ้มใหม่ที่รสชาติกลมกล่อม ซึ่งผมลองแล้วเป็นแบบนั้นจริงๆ อร่อยกว่าจิ้มน้ำจิ้มอย่างใดอย่างนึงเดี่ยวๆครับ
แนะนำให้ลองผสมตามความชอบเลยครับ แต่ผมผสมในปริมาณเท่าๆกันทั้งสองตัวครับ
นี่เป็นอีกหนึ่งร้านที่ทำให้ผมประทับใจครับ แหวกแนวจากร้านสุกี้ทั่วไปตามท้องตลาด แต่รสชาติอาหารก็อร่อยไม่แพ้กัน
แถมอาหารแต่ละจาน ราคาก็ไม่แพงมาก คุ้มค่าคุ้มราคาจริงๆครับ
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่
http://goo.gl/vtjVCI
ขอบคุณครับ