คอมเม้นต์รีวิวทั้งหมด
ค้นหาคอมเม้นต์ที่คุณต้องการ
อร่อยแถมมีประโยชน์
หรือ ถ้าชอบทานกล้วย เนยถั่วก็ต้องลอง 'banana-nut' นะค่ะ มีที่นี้ที่เดียวค่ะ
ผมได้มีโอกาสไปทานอาหารที่ร้านนี่มาจึงมาขอแชร์สิ่งที่ผมเจอมาครับ
- ในเรื่องของรสชาติผมไม่ติดใจอะไรครับปกติ
- บรรยากาศตกแต่งมีสไตล์ idea ดีครับ
- เรื่องบริการก็โอเคครับไม่มีประเด็นอะไร
- เรื่องของความคุ้มค่านี่แหละครับสิ่งที่ผมเจอมาคืออาหารมาช้ามากกว่าจะมาแต่ละจานสุดท้ายผมทนรอไม่ได้สั่งเก็บเงินทั้งที่อาหารยังมาไม่ครบอีก 2 อย่าง ในตอนแรกราคาคิดมาให้ผิดครับโดยรวม 2 รายการที่ผมสั่งแล้วไม่มาเข้าไปด้วยก็บอกเขาไปแก้ไข ก็ไม่ติดใจอะไร มาอีกรอบบอกราคา 209 บาทซึ่งผมก็ลองดูแล้ว + เลขดูเห็นว่าราคาจริงๆมันต้อง 221บาทก็หวังดีบอกเขาไป หลังจากเขาไปแก้อีกรอบ กลับมาใหม่ราคากลับเป็น 269 บาท ผมจึงถามไปว่าคิดผิดรึเปล่า พนักงานก็ตอบกลับมาว่า + service charge 10% ซึ่งถ้า + จริงมันก็ควรเป็น 221+22 = 243บาท แต่ด้วยพนักงานเริ่มทำตัวหาเรื่องผมก็เลยปล่อยๆไป จ่าย 269 จบๆเรื่องไป ถ้าใครจะไปทานร้านนี้ก็คิดดูให้ดีละกันครับโดนแบบนี้ ทุเรศมาก นี่ถ้าผมมากันเป็นทีมกินรวม 5000 บาท ไม่โดน service Charge 1500 บาท เลยหรือไงครับ ทีแรกก็ได้ยินโต๊ะข้างๆบ่นเหมือนกันว่าทำไมมี service charge ผมได้ยินก็คิดว่าคงจ่ายด้วยบัตรเครดิต พอถึงคิวผมจ่ายเงินสดกลับโดนไม่ต่างกันซะงั้น แนะนำให้ไปลองเลยครับร้านนี้เหอะๆ แล้วท่านจะเจอแบบผม ขี้โกงสุดๆ
วันนั้นกลางเดือนมีนาคมผมได้ไปทานอาหารร้านนี้สาขาเซ็นทรัลพระราม 9 อ่ะคับสั่งสปาเก็ตตี็ปลาเค็มเจอเส้นผมยังพอทน นะ เเต่ ขวดน้ำดื่มสิคับ มันมีหนอนขยะอยู่ตรงใต้ขวดน้ำด้วยอ่ะเเละยังมีหนูวิ่งอีกอะรัยจะสกปรกปานนี้อ่ะคับ อันนี้คายไม่เชื่อก็ไม่ว่านะคับ
ไปกะเพื่อน2คนสั่งข้าวคลุน้ำพริกลงเรือ ข้าวแกงส้ม และทะเลกระทะร้อน น้ำเปล่า1ไม่เอาน้ำแข็งทั้ง2แก้ว พอ พนง ยกมาน้ำแข็งมา2แก้วเลยก็ไม่อะไรมากช่างมันและเอาน้ำเปล่ามา2ขวดเลยขอคืนร้าน1ขวดแต่ พนง บอกว่าคืนไม่ได้เพราะคิดเงินไปแล้ว ส่วนอาหารก็รสชาติไม่เหมาะกับราคา
เห็นเปิดใหม่และมีเมนู 69 บาทด้วยเลยไปลองกินดู
พอไปดูจริงๆเห็นราคาข้าวหน้าเนื้อมีหลายขนาดมากๆ เลยลองสั่งแบบ 110 บาทชามใหญ่มากินดู ปรากฎว่า ชามใหญ่ ของที่นี่เป็นได้แค่จาน ธรรมดา ของร้านอื่นๆทั่วไป
ทำให้รู้สึกได้ว่า 69 บาทคงของขนาดเด็กกินแน่นอน แต่ดันเขียนว่าราคาประหยัด
ข้าวหน้าเนื้อร้านนี้เค็มมากๆๆๆๆๆๆๆ ถึงขนาดไม่อยากกินข้าวก้นชามเพราะซีอิ๊วเต็มไปหมดอย่างเค็มเลย
อาหารมาเสิร์ฟเร็วมา ประกอบกับที่โต๊ะมี ออด ให้กดเรียกพนักงาน ทำให้พนักงานตรงดิ่งมาที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว ผมกินข้าวหน้าเนื้อกับชาเขียว 10 บาท ชาเขียวถูกดีแต่คุณภาพสมราคา
ชอบร้านนี้ตรงที่
-สามารถเลือกได้ว่าจะเอาขนาดไหนค่ะ ทั้งประหยัด( size เล็กมากๆ) ขนาดกลาง ใหญ่ พิเศษ
-อยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนักก็สามารถลดปริมาณข้าวได้ค่ะ ลดค่าอาหารลงไป 20 บาท
มีหลายหน้าที่ชอบค่ะโดยเฉพาะข้าวหน้าเนื้อ topping เป็นผักอะไรสักอย่างจำไม่ได้ค่ะ แต่อร่อยมาก ^^
ไม่ต้องเกร็งเนื่องจากไม่มีพนักงานมายืนจ้องรอระหว่างเราเลือกเมนู ไว้เราเลือกเสร็จเมื่อไหร่ค่อยกดกระดิ่งเรียกพนักงานมารับ ออร์เดอร์ค่ะ
บรรยากาศธรรมดาๆค่ะ ไม่ได้หวือหวามากค่ะ สำหรับมื้อเบาๆ ราคาสบายๆ(ขนาดเล็กนะคะ) ส่วนขนาดใหญ่ก็ราคาปกติค่ะ
อร่อยพอสมควร แต่ไม่สุด
ราคาแบบไทยๆ พอสมควร ไม่แพงมาก
สรุป : รสชาติ/บริการ OK สมราคา
อัพเดทเบอร์ติดต่อร้านหงษ์ทองเฮลท์สเตชั่น หน้าร้านโทร 0-21051552 สำนักงานใหญ่โทร 0-2526-7771
รออาหารกว่าครึ่งชม.. ไปช่วงคนน้อย. จนคนเยอะ. โต๊ะอื่นได้ของเกือบหมด. โต๊ะผมยังไม่ได้. เลยถามพนักงาน. พอเอามาเสิรฟ์. อาหารทำนานแล้ว. เย็น. นำ้จิ้มก็ไม่เอามาให้อีก. เสียความรู้สึกกับครั้งแรก ร้านนี้
อาหารรสชาติแปลก ดูดี หลายเมนู มัสมั่นเนื้อแกะอร่อยมาก ลูกสาวและลูกชายวัยรุ่นก็ถูกอกถูกใจ บริการแนะนำเมนูดีมาก บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน สบายๆ ราคาน่าคบหา คราวหน้าจะลองเมนูใหม่อีก
เปิดเมนูดูไม่รู้จะกินอะไรจริงๆ ไม่มีอะไรโดดเด่นหรือ signature dish อะไรเลย ร้านสวยไฟสวยแต่มีกลิ่นเหม็นเปรียวนั่งไปเซ็งไป ลูกค้าไม่้เยอะสั่งข้าวจานเดียวรอน๊านนาน อาหารให้น้อยจุ๋มจิ๋มเทียบกับราคาอาหารจานเดียวร้อยกว่าบาทถือว่าแพงมากกกกกกก เมนูง่ายๆอย่างหมูกระเทียมยังทำรสชาติแย่กว่าร้านปากซอย ยังมีหน้าชาร์จเพิ่ม แวท7%+เซอร์ชาร์จ10% อย่าหวังเลยว่าได้เหยียบร้านนี้อีก เชอะ! เชิ่ดใส่!!!!!!!!!!
ดู link ข้างล่างนะ
http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2008/12/D7285940/D7285940.html
สวัสดีวันนี้จะขอมารีวิวร้านอาหารเปิดใหม่ในย่านพุทธมณฑลสาย5 ร้านที่ว่าคือ ร้านอรีส ARIS Restaurant
ขับรถผ่านเส้นนี้ เห็นก่อสร้างมาสักพักนึงแล้ว พอเห็นป้ายเขียนว่าเปิดบริการแล้ว เลยชวนกรุ๊ปแก็งค์มาลองกันหน่อย
[Location]
พิกัดอยู่ตรงเส้นพุทธมณฑลสาย5 ติดกับปั้มน้ำมันซัสโก้ เส้นขาวิ่งออกไปถนนบรมมราชชนนี ร้านอยู่ติดริมถนนใหญ่ หาไม่ยาก จุดสังเกตุคือถ้าเจอปั้ม Susco แล้วร้านนี้อยู่ติดกันเลย
(ถ้าขับรถมาที่ร้าน ร้านนี้ที่จอดรถจะอยู่ด้านหลังร้านนะ ต้องขับผ่านร้านไปอีกนิดจะเจอซอย วิ่งเข้าซอยนิดนึง แล้วเลี้ยวเข้าทีจอดรถของร้านได้เลย กว้างมาก น่าจะจอดได้เป็นร้อยๆคัน)
ร้านนี้เพิ่งเปิดมาได้ซักประมาณหนึ่งเดือนเศษๆ น่าจะเมื่อต้นมีนา61 นี้เอง เห็นในเพจเค้าบอกว่าเป็นร้านในเครือเดียวกันกับร้านบ้านร่มไม้สายน้ำ (ที่อยู่ใกล้ๆตลาดน้ำดอนหวาย) เคยไปกินร้านนั้นมาหนนึงแล้ว อยู่ติดริมแม่น้ำ บรรยากาศดีมากๆ
[The Decor]
บรรยากาศการตกแต่งของร้านอรีส ARIS ค่อนข้างจะดูโมเดิร์นและร่มรื่น ตกแต่งสไตล์ออกไปทางแนวลอฟท์ มีต้นไม้เขียวๆ ปลูกไว้ล้อมทั่วบริเวณ. ลองเดินชมรอบร้าน ไปหนึ่งรอบพบว่าใหญ่ทีเดียวแหละ ด้านหน้าร้านทำเป็นส่วนหย่อมขนาดย่อมๆ เหมือนเพิ่งลงต้นไม้ยังไม่ครบนัก มีมุมถ่ายรูปด้วย คิดว่ารอให้ต้นไม้โตอีกหน่อย รอตกแต่งอีกนิด น่าจะเป็นร้านเก๋มากๆ เหมาจะพาคุณแฟนมาทานอาหาร ถ่ายรูปกันสวยๆตามสไตล์สาวๆแน่นอน
เดินเข้าไปในร้าน จะแบ่งชัดๆเป็นโซนห้องอาหารใหญ่ กว้างมากทีเดียว โต๊ะอาหารจัดวางดูดี มีแชนเดอร์เลีย หรือโคมฟ้าระย้า ที่สวยมากทีเดียว อยู่ในห้องกระจก และมีโซนห้องอาหารเล็กอยู่อีกฝั่งนึง ทั้งสองห้องเป็นห้องแอร์แต่สามารถมองวิวผ่านกระจกออกมาเห็นต้นไม้เขียวๆข้างนอกได้ ส่วนพื้นที่ระหว่างกลางจะมีที่นั่งแบบ Outdoor ไว้บริการอยู่หลายโต๊ะเหมือนกัน คือถ้ามาช่วงกลางวัน อากาศร้อนๆเข้าห้องแอร์ดีสุด ส่วนโต๊ะด้านนอกเอาท์ดอร์เหมาะกับช่วงเย็นๆ แดดร่มลมโชย น่าจะชิลล์กว่า
[Food]
มาที่เมนูอาหารของที่ร้านดูๆ แล้วจะเน้นไปทางอาหารไทย ซีฟู้ดแล้วก็มีเมนูอาหารจีน ผสมอยู่บ้าง จริงๆเคยไปกินที่ร้านบ้านร่มไม้สายน้ำ มาครั้งนึงแล้ว ดูเมนูแล้วคล้ายกันมาก เพียงแต่ว่าที่นี่มันคนละบรรยากาศกัน ร้านเดิมมันแบบชิลล์ริมน้ำ ส่วนร้านอรีส ร้านใหม่นี้อารมณ์สไตล์ Loft ในสวน
ดูเมนูที่สั่งมาทานกันวันนี้จานแรกอยู่ในลิสท์ จานแนะนำของร้านชื่อว่าเป็ดกีตาร์ (800 บาท)
ตอนแรกเราก็งงว่ามันคือเป็ดอะไร พนักงานเขาบอกว่าเป็นเป็ดทั้งตัว ที่ชื่อว่าเป็ดกีตาร์ เพราะขั้นตอนการเตรียมอาหารที่ต้องขึงเป็ดผึ่งลมไว้กับราวซึ่งมีลักษณะคล้ายๆเหมือนกีตาร์นั้นเอง ตัวนี้เสิร์ฟมาพร้อมกับแป้งโรตีมาเลเซียทอด จิ้มกับน้ำซอสหวานสีดำๆข้นๆ ตัวเป็ดหนังจะกรอบ เนื้อนุ่ม ทานคู่กับโรตีจิ้มซอสแล้ว เอ๋อ...เข้ากันดีจิง คิดได้ไงเนี้ย
2. ปลาบู๋นึ่งซีอิ๊ว (ขีดละ120บาท xน้ำหนักตามขนาดปลา) ตัวที่กินนี้หนัก8ขีด
เป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำของร้าน จริงๆไปกินร้านอื่นๆจะบอกว่า หาทานเมนูปลาบู๋ค่อนข้างยาก ไม่ค่อยมีร้านไหนเอามาขายกัน เขาว่าปลาบู๋เป็นราชาของปลาน้ำจืด เมนูนี้เขาเอาไปนึ่ง แล้วมาราดซอสซีอิ๊วสูตรพิเศษของร้าน ผมสารภาพว่าเพิ่งจะได้ลองชิมเมนูปลาบู๋ครั้งแรกก็ที่นี้แหละ เนื้อปลาค่อนข้างแน่นและนุ่มมาก ไม่ค่อยมีกลิ่นคาวเลย ตัวซอสทำมาค่อนข้างดีรสกลมกล่อมมากๆ แทรกซึมเข้าไปในเนื้อปลาค่อนข้างดี ที่แตกต่างก็คือร้านเขาเสิร์ฟเมนูนี้ มาพร้มกับเส้นใหญ่เอาไปทอดแล้วตัดออกมาเป็นชิ้นๆ เหมือนชิ้นพิซซ่า ตัวแป้งจะกรอบที่ขอบนอก นุ่มใน กินแล้วมันเข้ากันดีกับน้ำซีอิ๊วของปลาบู๋
3. หมีกแดดเดียว ( 240 บาท)
หั่นหมึกออกเป็นเส้นยาวๆเหมือนกัน ชิ้นใหญ่ ไม่เหนียวเกินไป ทานคู่กับมายองเนสผสมวาซาบิ ออกรสนุ่มๆผสมเผ็ดๆแบบวาซาบินิดๆ
4. สลัดกุ้งกระทงทอง (250 บาท)
ก็คือสลัดผลไม้หลากหลาย ทั้งแคนตาลูป สัปปะรด แก้วมังกร มะเขือเทศราชินี แล้วมีกุ้งทอดกรอบทั้งตัวมาเป็นพระเอก เสิร์ฟมาในกระทงเผือกทอดกรอบแล้วเป็นภาชนะใส่ผลไม้ต่างๆไปในตัว ราดด้วยน้ำครีมสลัด
6. เมี่ยงปลาช่อนทอด (350 บาท)
จานแนะนำ ที่เราเห็นในเมนูแว็บแรกแล้วต้องสั่งเลย ที่ร้านนี้เขาจะหั่นเนื้อปลาเป็นชิ้นๆ เลาะเนื้อทั้งตัวแล้วเอาไปทอดกรอบทั้งชิ้น เพื่อความสะดวกในการทาน เสิร์ฟมาพร้อมเครื่องเคียงมากมายตามภาพเลย มีทั้งขิง ข่า พริก หอมแดง ถั่วลิสง กุ้งแห้ง มะม่วง หมี่กรอบ และใบพลูสำหรับห่อ วิธีกินก็จะเหมือนเรากินเมื่ยงคำเลย คือเอาใบพลูมาจับเป็นทรงกรวยแล้ววางชิ้นปลาลงไปพร้อมเครื่องเคียงตามชอบ ตบท้ายด้วยการราดซอสหวานๆของร้าน แล้วก็อั้ม คำใหญ่ๆเต็มปากไปเลย
7.เนื้อปลาคังลวกจิ้ม (290 บาท)
ปลาคังค่อนข้างสดมากที่นี่ เพราะแค่เห็นตอนมาเสิร์ฟก็จะเห็นว่าชิ้นปลาค่อนข้างจะขาวเด้ง สะดุดตามากๆ จิ้มกับน้ำซีฟู้ดแค่นี้ก็อร่อยแล้ว
สรุปข้อดี
-โดยรวมถือว่ารสชาติดีที่เดียว...จากหลายๆเมนูที่สั่งมาทานกัน จริงๆสั่งเมนูที่เป็นรายการ signature ของร้านด้วยแหละ เลยค่อนข้างที่จะอร่อยอยู่แล้วทั้งนั้น
และเนืองจากร้านนี้เป็นร้านที่ 2 เจ้าของเดียวกันกับบ้านร่มไม้สายน้ำ เลยเชื่อมือได้สบายในรสชาติและคุณภาพอาหาร
-โลเคชั่นถือว่าดี หาไม่ยาก เพราะอยู่ติดถนนใหญ่ จุดสังเกตุมาร้านนี้ก็คือ หาปั้ม Susco สาย5ให้เจอ แล้วก็ถัดไปอีกนิดก็เจอร้านอรีสแล้ว (จริงๆหน้าร้านก็มีป้ายไฟของร้านนะ แต่ว่าป้ายของ Susco มันใหญ่และเด่นกว่า)
-ราคาอาหารถือว่ากลางๆ-สูง เหมาะพาครอบครัวมาทานข้าว พาแฟนมาเดท พาแขกผู้ใหญ่มาเลี้ยงรับรอง ไรงี้
-ห้องโถ่งใหญ่ ตกแต่งสวยงามๆ คิดว่าเหมาะสำหรับงานจัดเลี้ยง งานปาร์ตี้สังสรรค์ น่าจะเวิร์คทีเดียว เห็นในเพจบอกว่ารองรับได้ 300-400 คนเลย
สรุปข้อติ
-ที่จอดรถของร้านอยู่ด้านหลัง หากใครมาครั้งแรกอาจจะงง เพราะไม่มีประตูทางเข้ารถยนต์ฝั่งที่ติดถนนใหญ่ แต่ร้านก็มีป้ายบอกชัดเจนว่า ให้เลี้ยวไปซอยข้างๆติดกันกับร้าน จะมีที่จอดรถอยู่
-ราคาอาหารของร้านในเมนูยังไม่รวม Vat 7% นะคับ....เวลาเช็คบิล อย่าตกใจว่าจะมี Vat เพิ่มมาอีก
-บรรยากาศขนาดนี้ น่าจะมีเอากาแฟ และเบเกอรี่ หรือพวกโทสต์ วัฟเฟิล แพนเค้กอะไรๆแนวนี้มาขายด้วย น่าจะเวิร์คนะ เราว่าสาวๆมาเห็นบรรยากาศน่านั่งชิลล์ ถ้ามีโทสต์พร้อมสมู้ทตี้ หรือกาแฟสด น่าจะบันเทิงเริงรมย์ทีเดียว
พอดีเห็นบรรยากาศดีเลยไปลองดู....
สั่งอาหารมาไม่กี่อย่าง ซึ่ง...
ยำคอหมูย่าง ที่เย็นชืด เรียกได้ว่าเอาคอหมูย่างที่ย่างไว้นานแล้ว ไปคลุกกับน้ำยำที่ทำไว้นานแล้ว เสร็จแล้วเอาผักโรยหน้ายกออกมาเสิร์ฟ จานนี้ไม่อร่อยอย่างรุนแรง
เฟตตูชินี่หมู (ชื่อสามัญจำไม่ได้แล้ว) อันนี้หมูเค็มมมมมากกกกกกกก กินกับซอสที่เค็มอยู่แล้ว จานนี้กินไปหายเอ๋อทันที จานนี้ไม่อร่อยครับ ควรหลีกเลี่ยง
ผักโขมอบชีส... ผักโขมยังไม่หายเย็นเลย !! แม่เจ้า !!! ชีสข้างบนละลาย แต่ผักโขมข้างล่าง ไม่มีความอุ่นใดๆ เย็นๆชืดๆ ราวกับว่าเอาออกจากช่อง freeze แล้วโปะชีสใส่เตาอบเลย แล้วรีบยกมาเสิร์ฟ
ร้านนี้แนะนำให้ไปนั่งกินบรรยากาศพอ... อาหารถึงขั้นเลวร้าย
ผมแวะไปชิมข้าวแกงกะหรี่แฮมเบอเกอร์มาครับ ผมเพิ่มไข่และเพิ่มหมูทอดชีสด้วย(โหดไม้) แล้วก็สั่งสลัดคาราเกะมาทาน โดยรวมถือว่าอร่อยมากๆๆๆๆครับ ผมว่าข้าวแกงกะหรี่ที่นี่อร่อยมากและจานใหญ่ แต่ถ้าเป็นพวกพาสต้าผมว่าจานเล็กไปหน่อยครับ
ส่วนราคาต้องบอกว่าค่อนข้างแพง ถ้ามากันสองคนผมว่าเตรียมเงินไว้สัก 1000 ถึงจะปลอดภัยครับ